กด 🔊 เพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO
คาดคลื่นโควิดระลอกนี้จะพีคสุดในเดือนสิงหาคม
SBS Thai
18/07/202207:29
บ้านพักคนชรา ฮันทิงดอน การ์เดนส์ (Huntingdon Gardens) ทางตอนใต้ของซิดนีย์จะไม่เปลี่ยนแปลงระเบียบการเข้าเยี่ยม หลังปรึกษากับผู้ที่อาศัยในสถานดูแลแล้ว
คุณเฟ็ง เชน (Feng Chen) ผู้อำนวยการฝ่ายบริการดูแลที่บ้านพักกล่าวว่า ผู้ที่อาศัยในบ้านพักคนชราหลายท่านไม่ต้องการให้เปลี่ยนกฎระเบียบ
“ผู้พักอาศัยทั้งหมดแสดงความปรารถนาที่จะยังใช้ระบบที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ฉันเลยขอให้ผู้เข้าเยี่ยมที่ฮันทิงดอน การ์เดนส์ทั้งหมดควรฉีดวัคซีน”
นับเป็นการคลายความกดดันของบ้านพักคนชราที่มีผู้อาศัยอยู่ 171 คน
ฉันคิดว่า หากมีใครต้องการเข้าเยี่ยมในบ้านพักคนชรา พวกเขาควรฉีดวัคซีน เราทุกคนฉีดวัคซีน และทำไมพวกเขาจะเข้ามาทำให้เราป่วยล่ะ?
“ฉันรู้สึกว่า ไม่ควรให้คนที่ไม่ได้รับวัคซีนเข้า เพราะคนอื่นๆ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่บางคน ฉันไม่อยากเชื่อว่า บางคนคิดว่ามันไม่จำเป็น”
รัฐนิวเซาท์เวลส์เริ่มใช้มาตรการเดียวกับรัฐอื่นๆ ได้แก่ รัฐวิกตอเรียและรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเข้าเยี่ยมในบ้านพักคนชรา
แต่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกัน เช่น คุณเอียน เฮนช์เคอ (Ian Henschke) จากเนชันแนล ซีเนียร์ส ออสเตรเลีย (National Seniors Australia)
สองสามปีก่อน เมื่อมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่บังคับก่อนที่จะสามารถเข้าเยี่ยมในบ้านพักคนชราได้ และบังคับใช้สำหรับผู้ที่ทำงานในบ้านพักคนชรา ดังนั้น เราเคยมีสิ่งนี้มาก่อน
ขณะนี้ มีบ้านพักคนชรากว่า 800 แห่งรายงานว่ามีการระบาด และอัตราการเสียชีวิตก็เริ่มสูงขึ้นเช่นกัน ผู้ที่อาศัยในบ้านพักคนชราเกือบ 100 รายเสียชีวิตรายสัปดาห์
คุณแอนิกา เวลส์ (Anika Wells) รัฐมนตรีฝ่ายบ้านพักคนชราของรัฐบาลกลางกล่าวว่า รัฐบาลยังคงดำเนินงานต่อไปเพื่อปกป้องผู้ที่อ่อนแอที่สุด
“เราเห็นอัตราการฉีดวัคซีนของผู้ที่อาศัยในบ้านพักคนชราเพิ่มขึ้น ในเวลาเพียง 6 สัปดาห์ นับตั้งแต่ที่เราแจ้งแก่ผู้ให้บริการบ้านพักคนชรา เราเห็นว่ามีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 4 เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ และฉันอยากขอบคุณผู้ให้บริการที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”รัฐมนตรีเวลส์กล่าวว่า เธอจะประชุมกับผู้ให้บริการบ้านพักคนชราในสัปดาห์หน้า เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส
รถฉุกเฉินที่โรงพยาบาลในเมลเบิร์น Source: AAP
เธอได้ร่างแผนการฤดูหนาวของรัฐบาลเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น มุ่งเน้นการฉีดวัคซีน การให้ยาต้านไวรัสและการฝึกอบรมเพื่อควบคุมการติดเชื้อ
จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และจุดพีค (Peak) ของคลื่นการระบาดระลอกนี้ยังมาไม่ถึง
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน รวมถึง ศาสตราจารย์ มาร์กาเร็ต เฮลลาร์ด (Margaret Hellard) จ่ากสถาบันเบอร์เน็ต (Burnet Instutute) เตือนว่าเดือนสิงหาคมจะเป็นจุดพีค แต่คาดว่าจะไม่รุนแรงเท่ากับการระบาดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“เราสามารถบอกได้ว่าจะถึงจุดพีคสูงสุด แต่จะไม่แย่เหมือนเดือนมกราคม ตามสถานการณ์ตอนนี้ แต่เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ และสิ่งที่ฉันบอกผู้คนเสมอคือการทำลายแบบแผนของเรา ทำลายด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ด้วยการฉีดวัคซีน เพื่อที่เราจะไม่ต้องถึงจุดพีคเลย นั่นมันจะวิเศษมาก”
ระบบสาธารณสุขทั่วประเทศกำลังรับมือหนักในขณะนี้
ในรัฐวิกตอเรีย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกือบ 2000 คนต้องหยุดงาน เพราะโควิดหรือไข้หวัดใหญ่
โรงพยาบาลอัลเฟรด (Alfred Hospital) ประกาศเลื่อนการผ่าตัดแบบทางเลือกออกไป เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
คุณจาซินดา อัลลัน (Jacinta Allan) รักษาการณ์มุขมนตรีรัฐวิคตอเรียกล่าวว่า โรงพยาบาลเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดที่จะตัดสินใจ
“ในระดับท้องถิ่น โรงพยาบาลเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจได้ดีที่สุด เกี่ยวกับการให้บริการในท้องถิ่นนั้นๆ มีการมุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านฤดูหนาวที่ยากเข็ญนี้”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่