กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
ก่อนเกมเริ่ม
เวลา 15.00 น. ของวันที่ 14 มกราคม วันที่ 3 ของการแข่งขันออสเตรเลียน โอเพน ณ เมืองเมลเบิร์น การแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์ สแลม รายการแรกของฤดูกาล ซึ่งจัดขึ้นที่ออสเตรเลีย
การดวลกันในรอบแรกของการแข่งเทนนิสรุ่นชายเดี่ยว แบบเมน ดรอว์ กำลังเริ่มขึ้นที่สนามร็อด เลเวอร์ อารีนา ซึ่งเป็นสนามการแข่งขันหลักของรายการนี้
บูม กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสอายุ 23 ปี จากประเทศไทยที่คว้าไวลด์ การ์ด จากการแข่งขัน Australian Open Asia-Pacific Wild Card Play Off เข้ามาแข่งขันรุ่นชายเดี่ยว แบบเมน ดรอว์ โดยเกมแรกเขาต้องพบกับดานิล เมดเวเดฟ นักเทนนิสมือวางอันดับ 5 ของโลกในปัจจุบัน และอดีตมือวางอันดับ 1 จากรัสเซีย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
'กษิดิศ สำเร็จ' คว้า 'wild card' เข้าแข่งใน Australian Open ปีนี้
กว่า 13 ปีที่ประเทศไทยไม่มีนักเทนนิสชายเดี่ยวเข้าแข่งที่ออสเตรเลียน โอเพน แบบเมนดรอว์
กษิดิศเล่าถึงขณะเตรียมตัวในห้องแต่งตัวก่อนลงสนามว่า
“ก็รู้สึกตื่นเต้นครับ เราได้เล่นที่ร็อด เลเวอร์ด้วย ผมพยายามทำสมาธิเยอะมาก ไม่ให้ตื่นสนาม โค้ชจิตวิทยาแนะนำว่าให้นึกว่าในคอร์ทมีแค่เรากับลูกบอลเท่านั้น ให้พยายามโฟกัสกับลูกบอลในสนาม”
เมื่อถึงเวลา กษิดิศเดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อลงสนามร็อด เลเวอร์ อารีนา ซึ่งต้องเดินผ่านทางเดินที่มีรูปและชื่อนักเทนนิสระดับโลกที่เคยได้แชมป์ในสนามแห่งนี้
ภาพที่กล้องถ่ายทอดสดจับ เห็นเขาใส่หูฟังเพื่อทำสมาธิ จนวินาทีที่ก้าวลงสนามเป็นก้าวแรกและได้ยินเสียงเชียร์จากผู้ชม
“มันก็เป็นเกียรติที่ครั้งนึงได้เดินเข้าสนาม ได้ยินเสียงปรบมือต้อนรับผม ผมดีใจครับ แต่ผมก็พยายามมีสมาธิกับตัวเอง โฟกัสกับแมตซ์ที่กำลังจะเล่นครับ" เขาเล่าถึงความรู้สึก ณ ห้วงเวลานั้น
"ที่ใส่หูฟังก่อนลงสนาม เพราะไม่อยากได้ยินเสียงคนรอบข้าง ไม่อยากให้อะไรมารบกวนเรา"
ตอนนั้นฟังอะไร เอสบีเอสไทยถาม
"ตอนนั้นฟังเพลงโกลเดน อาวร์ ครับ”
เซต 1
การแข่งขันเริ่มขึ้นโดยกษิดิศได้เป็นผู้เลือกเสิร์ฟในเกมแรก ตอนนั้นทั้งผู้ชมและผู้บรรยายภาษาอังกฤษ ยังคงเฝ้ามองว่าเด็กคนนี้จะมาไม้ไหน แต่แล้วเขากลับโดนเบรกตั้งแต่เกมเสิร์ฟแรก
เขายอมรับว่ายังไม่ชินกับความเร็วในการเล่นของคู่แข่ง
อย่างไรก็ตามการได้เล่นกับมือวางอันดับ 5 ของโลกเพิ่มความมั่นใจให้เขามากขึ้นกับเกมต่อไป เขากล้า เล่นเกมรุกมากขึ้น
จบเซตแรกที่ 2-6
เซต 2
เซทที่สองเริ่มขึ้น บูมเปิดเกมเสิร์ฟได้นิ่งและคมมากขึ้น พร้อมลูกเล่นเกมเร็วแบบที่เขาเตรียมมา ก็เริ่มทำงานได้ดีมากขึ้น แม้จะมีหลายจังหวะที่เขาตีเสียเสียเอง
เอาชนะความผิดหวังเวลาตีเสียอย่างไรบ้าง เอสบีเอสไทยถาม
"ผมเรียนรู้ว่าต่อให้เราตีสวย ตีเสีย มันก็เป็นแค่แต้มๆ หนึ่งเท่านั้น เป็นการลองว่าทำอย่างนี้ดีไหม ถ้าไม่ดีก็ปรับในแต้มต่อไป"
ด้วยจังหวะการเล่นที่เริ่มเข้าที่ รวมถึงกลยุทธ์เกมเร็วที่เตรียมมาเริ่มทำงานดีขึ้น บูมสามารถเบรกเกมของเมดเวเดฟได้ และนั้นทำให้เขาชนะเซตที่สองไป ด้วยสกอร์ 6-4
ในเซตที่ 2 ผมพยายามตีให้เป็นเกมของตัวเองให้มากขึ้นครับ ผมต้องพยายามเปิดก่อนบ้าง มันได้ผลครับ และทำให้ผมได้เซตที่ 2 มา ลึกๆ ก็แอบมีความหวังว่าเราอาจจะเอาชนะเขาได้ก็ได้นะกษิดิศกล่าว
สายตาจำนวนมากเริ่มจับมาที่นักเทนนิสชาวไทยคนนี้ ผู้ซึ่งเพิ่งเล่นแกรนด์ สแลมครั้งแรกในชีวิตของเขา
เซต 3
เซทที่สามเริ่มขึ้น เสียงเชียร์เริ่มเทมาทางฝั่งบูม สายตาทั้งในและนอกสนาม ผู้ชมทางบ้าน ผู้บรรยายภาษาอังกฤษต่างหันมาโฟกัสที่เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเข้ามาเล่นแกรนด์สแลมครั้งแรก และกำลังเขย่ามือ 5 ของโลก
ด้วยลูกเล่นแพรวพราว ความกล้าที่จะเล่นในจังหวะที่มองว่าคู่ตรงข้ามกำลังพลาด และนั่นก็นำมาซึ่งช็อตที่ทั้งโลกต่างพูดถึง คือการขโมยแต้มในเกมนั้น ที่เมดเวเดฟ ระเบิดอารมณ์ใส่กล้องกล้องสนาม
“จริงๆ ก็ไม่ได้ตกใจขนาดนั้นนะครับ เพราะก็เคยเห็นเขาทำอะไรแบบนี้ในทีวีมาแล้ว แต่ก็มีนิดนึงที่ช็อค หลุดโฟกัสไปแต้มสองแต้มครับ ตกใจนิดหน่อย แต่ไม่ได้แพนิกอะไรครับ”
เซตที่สามเป็นบูมที่เอาชนะได้อีกครั้ง ด้วยสกอร์ 6-3 ถึงตอนนี้ผู้ชมเกือบทั้งหมดต่างลุ้นให้ม้านอกสายตาคนนี้ เอาชนะมื่อห้าของโลก
หลังจบเซตที่สาม เกมต้องชะงักไป เพื่อให้ทีมงานในสนามจัดการกับเศษกล้อง และเคลียร์พื้นที่สนามอีกรอบ
เซต 4
อาจเป็นเพราะกษิดิศไม่เคยเล่นเกิน 3 เซตมาก่อน เข้าเซต 4 เขาเริ่มเหนื่อยและเป็นตะคริว จนต้องเรียกแพทย์สนาม
“ที่ผ่านมาผมแข่งแค่ 2-3 เซต ไม่เคยถึง 4-5 เซต เคยซ้อมมาบ้างครับแต่ไม่ได้เข้มข้นเท่ากับตอนเจอกับเมดเวเดฟ แล้วผมเป็นตะคริวด้วย เลยวิ่งได้ไม่เท่าเดิม ตีได้ไม่เท่าเดิม"
"ตอนนั้นแพทย์สนามนวด ให้ผมดื่มน้ำอิเล็กโทรไลต์ ให้น้ำแตงกวาดองมากลั้วปากครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันช่วยอะไรครับ ผมไม่เคยดื่มเหมือนกันครับ หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นครับ”
เกมของบูมในเเซตที่ 4 แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็พ่ายไปด้วยสกอร์ (1-6)
เซต 5
เข้าเซตที่ 5 กษิดิพยายามเรียกศักยภาพทั้งหมดที่มีออกมา และด้วยเกมที่ยาวนานกินเวลากว่า 3 ชั่วโมง ร่างกายของบูมเริ่มส่อให้เห็นได้ชัดขึ้นว่าเขาเริ่มหมดแรง
"พยายามที่สุดแล้วครับ" กษิดิศกล่าวถึงแมตช์ที่เขาพ่ายให้เมดเวเดฟ มือวางอันดับ 5 ของโลก Credit: VCG/VCG via Getty Images
“เริ่มเซตที่ 5 ผมพยายามเริ่มต้นใหม่ พยายามที่สุดแล้วครับ พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้ครับ เต็มที่แล้วครับ"
แม้ท้ายที่สุดเขาจะพ่ายเมดให้เวเดฟด้วยสกอร์รวม 2-3 เซต (2-6) (6-4) (6-3) (1-6) (2-6)
"จริงๆ รู้สึกพอใจกับผลงานที่มาแข่งที่นี่นะครับ ถึงแม้ว่าจะแพ้ แต่ผมได้แรงบันดาลใจ ได้อะไรหลายๆ อย่างจากแมตซ์นี้ คิดว่าน่าจะพัฒนาต่อไปได้อีกเยอะ ได้เจอจุดด้อยของตัวเองด้วยครับ”
เกมจบลง พร้อมเสียงปรบมือ และคำชมทั้งจากคู่แข่งขัน ผู้บรรยาย และผู้ชมมากมาย วันนี้ชื่อของ กษิดิส สำเร็จ ได้กลายเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของการแข่งขันชายเดี่ยวรอบแรกที่ออสเตรเลียน โอเพน ปี 2025 อย่างไม่มีที่กังขา
ผู้ชมในเมลเบิร์น พาร์ค สถานที่แข่งออสเตรเลียน โอเพน Source: SBS / SBS Greek
กษิดิศฝากถึงคนไทยที่ส่งแรงเชียร์ให้เขาทั้งที่ออสเตรเลียและจากประเทศไทย
“ขอบคุณทุกๆ คนมากเลยนะครับทั้งที่ออสเตรเลีย ที่มาดูผมในการแข่งขันนี้ และทุกคนที่ดูทางทีวี ทางออนไลน์ ทั้งที่DMมาในไอจี มันเยอะมากเลยครับ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจผมมา ผมอยากฝากให้ช่วยเชียร์ผมต่อไปในทุกแมตซ์ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ”
เสียงจากผู้ชม
สำหรับชุมชนไทยที่ออสเตรเลีย คนไทยหลายคนส่งใจเชียร์กษิดิศในการแข่งขันครั้งนี้ คุณประพันธ์และคุณเจซีดูการแข่งขันถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์กล่าวว่า
“การได้เข้าแข่งรอบเมน ดรอว์ แกรนด์ สแลม ไม่ใช่ของง่าย อยากให้ทางการดูแล เขามีโพเทนเชียลมาก ถึงแม้จะแพ้ แต่แพ้มืออันดับ 5 เคยเป็นอันดับ 1 ด้วยซ้ำ” คุณประพันธ์กล่าว
“เมดเวเดฟเป็นอันดับ 5 เราranking 400 กว่า แต่ว่าเล่นได้สูสีมาก เกือบจะสร้างประวัติศาสตร์ได้แล้ว อยากให้สู้ต่อไป เหมือนที่เมดเวเดฟให้สัมภาษณ์ตอนจบ เขาบอกว่าน้องเล่นดีมาก ขาดแค่ความสม่ำเสมอ คิดว่าหน่วยก้านดี ยังมีอนาคตอีกไกลครับ” คุณเจซีกล่าว
คุณบีไปดูการแข่งขันในสนามร็อด เลเวอร์ อารีนา หลังทราบตารางการแข่งขัน เวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 13 มกราคม
“ทุกคนมองว่ามันไม่ง่าย แต่พอเกมเริ่มแล้วทุกคนตกใจมาก มีคนดูคนนึงที่นึกว่าเกมนี้จะจบภายในชั่วโมงครึ่ง แต่สามชั่วโมงแล้วยังเล่นอยู่ น้องมีแฟนคลับเป็นคนออสซีมากมาย มีชื่อเล่นว่า ‘แคส (Kas)’ น้องสู้สุดใจมากๆ คิดว่าถ้าน้องได้พัฒนาเพิ่มขึ้น การจะได้เป็นอันดับ 10 จะไม่ยากเลย”
"ทางสมาคมดีใจด้วยกับน้อง กับครอบครัว และแฟนกีฬาชาวไทยครับ" Credit: LTAT
“การเข้าแข่งขันเทนนิสชายเดี่ยวของเราห่างหายไปประมาณ 13 ปี หลังจากภราดร ศรีชาพันธุ์และดนัย อุดมโชค การที่บูมมีโอกาสเข้าไปแข่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว ในการแข่งขันได้พบกับเมดเวเดฟ น้องแข่งได้สมศักดิ์ศรี ถึงจะแพ้ แต่ก็ตามที่สื่อมวลชนไทยกล่าวว่าชนะใจคนดูครับ ทางสมาคมรู้สึกดีใจด้วยกับน้อง กับครอบครัว และแฟนกีฬาชาวไทยด้วยครับ”
อย่างไรก็ตามมีนักกีฬาไทยที่ลงแข่งออสเตรเลียน โอเพนในปีนี้อีก เป็นการลงแข่งในประเภทหญิงเดี่ยวตามแรงก์กิง ได้แก่ ลัลนา ธาราฤดี อันดับ 178 และมนัญชญา สว่างแก้ว อันดับ 137 ยังมีเพียงธาร ผลิพืช ซึ่งคว้าไวลด์ การ์ดลงแข่งในออสเตรเลียน โอเพน ประเภทหญิงคู่กับนักเทนนิสหญิงชาวไต้หวัน เส้า เซี๊ยะ ยี่ รวมถึงนักแข่งเทนนิสระดับจูเนียร์ กมลวรรณ ยอดเพ็ชรด้วย
สำหรับการส่งนักกีฬาไปแข่งขันในต่างประเทศ ไทยทนุกล่าวว่าทางสมาคมฯ ส่งนักกีฬาแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยให้การสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า และค่าสมัครลงแข่งขัน หากเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ทางสมาคมฯ จะให้โบนัสการแข่งขัน พร้อมฝากเป็นกำลังใจและติดตามผลงานนักเทนนิสไทยต่อไป
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
