หลังจากความพยายามของนักเคลื่อนไหว LGBTIQ+ ชาวไทยมานานกว่าสองทศวรรษ ในที่สุดร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมก็ได้ผ่าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งถือเป็นการปูทางให้ความเสมอภาคในการสมรสกลายเป็นกฎหมายในประเทศ
พิศิษฐ์ สิริหิรัญชัย (ซ้าย) และชนาธิป สิริหิรัญชัย จากกลุ่ม LGBTQ+ โชว์ใบทะเบียนสมรสของตนเอง หลังจากพระราชบัญญัติความเท่าเทียมในการสมรสมีผลบังคับใช้ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568 (AP Photo/Sakchai Lalit) Source: AP / Sakchai Lalit/AP
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
"ความรักเอาชนะอคติในไทย" หลังร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน
ในได้ระบุถึง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
epa11826129 นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร (แถวหน้า กลาง) ทักทายคู่รักเพศเดียวกันระหว่างถ่ายภาพที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย วันที่ 15 มกราคม 2568 เพื่อส่งเสริมร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม ซึ่งมีกำหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568 ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่สามในเอเชียที่ให้การแต่งงานของเพศเดียวกันถูกต้องตามกฎหมาย EPA/RUNGROJ YONGRIT Source: EPA / RUNGROJ YONGRIT/EPA
สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ระบุว่า เพื่อให้บุคคล 2 คนไม่ว่าจะเพศใดสามารถทำการหมั้นและสมรสได้ จาก กม.สมรสปัจจุบันที่การหมั้น ใช้คำว่า “ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง” แก้ไขเป็น “ผู้หมั้นและผู้รับหมั้น” หรือ “เพศ” ที่ใช้คำว่า “ชาย-หญิง” แก้ไขเป็น “บุคคลทั้ง 2 ฝ่าย”
และสถานะหลังจดทะเบียนสมรส จาก “สามีภริยา/คู่สมรส” แก้เป็น “คู่สมรส/คู่สมรส” รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่น ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่สถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทั่วโลกจะเห็นเราและรู้ว่าในประเทศเล็กๆ แห่งนี้ เรามีแนวคิดและการสนับสนุนประชาชนของเราแบบนี้ Source: AP / Wason Wanichakorn
ด้านแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทั่วโลกจะเห็นเราและรู้ว่าในประเทศเล็กๆ แห่งนี้ เรามีแนวคิดและการสนับสนุนประชาชนของเราแบบนี้
กลุ่ม LGBTQ โพสต์รูปถ่ายในงานเฉลิมฉลองร่างกฎหมายความเท่าเทียมกันทางการสมรส ณ ทำเนียบรัฐบาล ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2568 (AP Photo/Jirasak jivawavatanawanit) Source: AP / Jirasak jivawavatanawanit/AP
หลังจากที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้ผ่านสภาพและจะมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ต่อจากไต้หวันและเนปาล