อย่าปล่อยให้หนี้พอกพูนมีสายด่วนช่วยเหลือฟรี

Financial debt,

อย่าปล่อยให้หนี้สินพอกพูน ติดต่อขอความช่วยเหลือ Source: Getty

กำลังมีโครงการกระตุ้นให้ประชาชนที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินรีบขอรับความช่วยเหลือก่อนหนี้ท่วม โดยมีความช่วยเหลือทางโทรศัพท์ที่ให้บริการฟรีและเป็นความลับ


หลังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการหลักๆ ของรัฐบาลสิ้นสุดลงเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะนี้ชาวออสเตรเลียจำนวนไม่น้อยมีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ น้อยลง

องค์กรไม่มุ่งหวังผลกำไรต่างๆ จึงเตือนให้ผู้บริโภคจัดการแก้ไขปัญหาหนี้สินของตน ก่อนที่หนี้สินเหล่านั้นจะพอกพูน โดยมีความช่วยเหลือทางโทรศัพท์ที่ให้บริการฟรีและเป็นความลับ

ฟังรายงาน
LISTEN TO
Helpline urges people not to let debts spiral out of control image

อย่าปล่อยให้หนี้พอกพูนมีสายด่วนช่วยเหลือฟรี

SBS Thai

29/04/202108:38
คุณเคิร์สตี ร็อบสัน เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินที่ศูนย์กฎหมายเพื่อผู้บริโภค

เธอกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่เธอพบมานั้น คนจำนวนมากที่เดือดร้อนทางการเงินมักหลีกเลี่ยงที่จะบอกให้ผู้อื่นรู้ถึงปัญหาของตนและทนทุกข์อยู่เพียงลำพัง

“ขณะนี้เงินจ๊อบคีพเปอร์สิ้นสุดลงและเงินจ๊อบซีกเกอร์ถูกตัดลดลงอย่างมาก เราจึงกำลังมีผู้คนโทรศัพท์มาหาเรา ซึ่งพวกเขาตื่นตระหนกอย่างยิ่งว่าจะหาเงินมาจ่ายสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีพของพวกเขาได้อย่างไร” คุณร็อบสัน กล่าว

เธอกล่าวว่า บิลค่าใช้จ่าย เงินกู้ และบัตรเครดิต สามารถทำให้ผู้คนประสบปัญหาได้อย่างรวดเร็วในการหาเงินมาจ่าย และทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่มีใครช่วยเหลือตนได้

เมื่อสิบปีก่อน คุณเรเชล แบล็ก ชาวนครแอดิเลด ติดหนี้ก้อนโต หลังได้รับบัตรเครดิตฟรี ที่ส่งมาให้ทางไปรษณีย์

ก่อนหน้านั้น เธอเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ใหม่ในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และใช้เงินซื้อของต่างๆ มากกว่าที่เธอเคยใช้จ่ายในช่วงปกติ รวมทั้ง การซื้อเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน

“มันไปถึงจุดที่ว่า ฉันไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้เป็นรายเดือน ฉันไม่รู้ว่าบัตรเครดิตใบนั้นมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก” คุณแบล็ก กล่าว

เธอเล่าต่อไปว่า ปัญหาหนี้สินที่พอกพูนขึ้นส่งผลให้เธอตกอยู่ในความเครียดอย่างหนัก

“ตอนนั้นฉันไม่สามารถเปิดตู้รับจดหมายที่บ้านได้เลย ฉันรู้สึกไม่สบายขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นบิลเรียกเก็บเงินออนไลน์ ฉันไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้อีกต่อไป” คุณแบล็ก เล่า

ผู้เป็นกระบอกเสียงให้ผู้บริโภคต่างกล่าวว่า คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอับอายที่จะเล่าปัญหาด้านการเงินของตนให้แม้แต่ครอบครัวและเพื่อนฝูงรู้ และพวกเขารู้สึกไม่พร้อมที่จะก้าวไปรับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษามืออาชีพ

คุณเรเชล แบล็ก กล่าวว่า เธอเคยรู้สึกเช่นเดียวกัน

“ฉันบอกเพื่อนคนเดียวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นสิ่งที่คุณไม่บอกคนอื่น ฉันเก็บเงียบไว้คนเดียว ฉันรู้ว่าหลายคนทำเช่นนั้น ฉันได้บอกเพื่อนคนหนึ่งและพบว่าเพื่อนของฉันเคยมีปัญหาเดียวกัน เขาแนะนำหนทางแก้ปัญหาให้และบอกว่า ฉันต้องรีบจัดการด้วยการโทรศัพท์ไปปรึกษาและฉันก็ทำ” คุณแบล็ก เผย
ขณะนี้ โทรศัพท์สายด่วนให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินแห่งชาติ หรือ เนชันแนล เด็บ์ต เฮลป์ไลน์ (National Debt Helpline) มีโครงการรณรงค์ให้ประชาชนที่มีปัญหาด้านหนี้สินรีบขอรับคำปรึกษา

หลังความช่วยเหลือด้านการเงิน อย่าง เงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์สิ้นสุดลง มีความเป็นห่วงกันว่าผู้คนมากขึ้นๆ กำลังประสบความยากลำบากทางการเงิน

คุณฟิโอนา กัทรี  เป็นผู้บริหารของ ไฟแนนเชียล เคาน์เซลลิง ออสเตรเลีย (Financial Counselling Australia) ตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรึกษาทางการเงิน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรณรงค์นี้

“ชาวออสเตรเลียจำนวนมากผ่านช่วงการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิดและผ่านพ้นปัญหามาได้ แต่มีผู้คนมากมายที่ยังคงประสบความยากลำบากอยู่ และเราไม่สามารถลืมคนกลุ่มนี้ได้” คุณกัทรี กล่าว

โทรศัพท์สายด่วนให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินแห่งชาติ หรือ เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้บริการให้คำปรึกษาทางการเงินฟรีจากที่ปรึกษาที่ผ่านการรับรองคุณวุฒิ โดยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนกว่า 100,000 คนทุกปี และยังมีบริการแปลเอกสารเป็นภาษาต่างๆ กว่า 170 ภาษา

คุณกัทรี กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของเชื้อโควิดส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากจำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินเป็นครั้งแรก

“ที่ปรึกษาทางการเงินต่างกำลังบอกเราว่า พวกเขาได้รับการติดต่อจากผู้คนมากขึ้นที่กำลังประสบความตึงเครียดทางการเงินจากค่าผ่อนบ้านและค่าเช่าบ้าน ซึ่งนั่นไม่น่าแปลกใจ เพราะการเลื่อนชำระเงินกู้กำลังสิ้นสุดลง การห้ามขับไล่ผู้เช่าบ้านกำลังสิ้นสุดลง และผู้คนต่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะหาเงินมาให้พอจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างไร” คุณกัทรี กล่าว
อัตราส่วนของหนี้สินครัวเรือนในออสเตรเลียได้พุ่งสูงขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

เมื่อเทียบกับรายได้ครัวเรือนแล้ว ครอบครัวในออสเตรเลียขณะนี้เป็นหนี้ 200 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ สำหรับหนี้บัตรเครดิต หนี้เงินกู้ซื้อบ้าน และบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ

กล่าวคือ โดยเฉลี่ยมีหนี้สินเป็นสองเท่าของรายได้ที่พวกเขามี

สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ คุณเคิร์สตี ร็อบสัน ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า มีบริการให้ความช่วยเหลือที่สำคัญต่างๆ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิ์ทางกฎหมาย

“ในการช่วยเหลือใครให้หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ได้นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เราอาจต้องอธิบายให้พวกเขารู้ถึงสิทธิ์ของพวกเขาด้านการประสบความเดือดร้อนภายใต้กฎหมายการกู้ยืมเงิน ซึ่งมีอยู่นานแล้วก่อนโควิด และถูกระบุในกฎหมายว่า คุณมีสิทธิ์แจ้งเจ้าหนี้โดยอ้างว่ากำลังประสบความเดือดร้อนได้” คุณร็อบสัน ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าว

คุณเรเชล แบล็ก กล่าวว่า ก้าวแรกในการโทรศัพท์ไปขอรับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางการเงินได้เปลี่ยนชีวิตของเธอ และเธอหวังว่าคนอื่นๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงินจะทำเช่นเดียวกัน

“บอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณกำลังจะเริ่มก้าวแรกถ้าทำได้ ก้าวแรกนั้นอาจต้องใช้ความพยายามมาก แต่ทันทีที่ทำ ภาระที่หนักอึ้งจะถูกยกออกจากบ่าของคุณ และคุณจะสามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้” คุณเรเชล แบล็ก กล่าวทิ้งท้าย

คุณสามารถติดต่อโทรศัพท์สายด่วนให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินแห่งชาติ หรือ เนชันแนล เด็บ์ต เฮลป์ไลน์ (National Debt Helpline) ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1800 007 007 หรือไปที่เว็บไซต์ สำหรับบริการแปลและล่ามฟรี ให้โทรไปที่หมายเลข 131 450
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

ค่าเช่าที่อยู่อาศัยในออสฯ เกินกำลังผู้มีรายได้ขั้นต่ำ


Share