กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน
ยาต้านจุลชีพ (Anti-microbials) เป็นยาที่มักใช้ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต และไวรัสบางชนิด และมีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในออสเตรเลีย
รายงานฉบับใหม่โดยคณะกรรมาธิการความปลอดภัยและคุณภาพเรื่องการดูแลสุขภาพแห่งออสเตรเลีย (Australian Commission on Safety and Quality in Health Care) ระบุว่าการใช้ยาต้านจุลชีพในชุมชนลดลงในปี 2020
ส่วนหนึ่งเนื่องจากไม่มีเชื้อโรคอื่นที่จะต้องต่อสู้ในช่วงการระบาดของโควิด-19
แต่จำนวนการใช้ยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้นมา 10% เมื่อปีที่แล้ว
โดยรัฐที่มีการใช้ยานี้สูงสุดคือ รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรียและรัฐควีนส์แลนด์
ศาสตราจารย์จอห์น เทอร์นิดจ์ (John Turnidge) คณะกรรมาธิการความปลอดภัยและคุณภาพเรื่องการดูแลสุขภาพแห่งออสเตรเลียกล่าวว่าเราพึ่งพายาปฏิชีวนะมากเกินไป
“ตั้งแต่เมื่อเราค้นพบว่ายาเพนิซิลิน (penicillin) ตลอด 50 – 60 ปีที่ผ่านมาเราคิดว่ายาปฏิชีวนะจะรักษาโรคติดเชื้อได้ทุกประเภท"
น่าเสียดายที่เราติดอยู่ในวงจรที่ผู้ป่วยคาดว่าจะได้รับยาปฏิชีวนะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
กว่าจะมาเป็นยาหนึ่งตัวที่ออสเตรเลีย ต้องควบคุมคุณภาพเข้มแค่ไหน
แพทย์หลายท่านเตือนถึงการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปอาจทำให้ดื้อยาได้
เมื่อมีคนใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งเป็นยาต้านจุลชีพประเภทหนึ่ง มันจะฆ่าแบคทีเรียได้ประมาณ 99.99 เปอร์เซ็นต์
แต่แบคทีเรียบางประเภทมีกลไลป้องกันโดยธรรมชาติ สามารถอยู่รอด สืบพันธุ์และแบ่งยืนส์ต้านทานของพวกมันได้
ศาสตราจารย์สตีฟ ร็อบสัน (Steve Robson) ประธานสมาคมการแพทย์แห่งออสเตรเลีย (President of the Australian Medical Association) กล่าวว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นเรียกว่า “ซุปเปอร์บักส์ (superbugs)”
ซุปเปอร์บักส์นั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต คร่าชีวิตชาวออสเตรเลียและคนทั่วโลก
"เราโชคดีที่ในขณะนี้เรามียาปฏิชีวนะที่ทรงพลัง 2-3 ตัวที่ช่วยเราได้ แต่หากเราเสียพลังของยานี้ เราจะเจอปัญหาใหม่ และจะไม่สามารถรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้”
ศาสตราจารย์ร็อบสันกล่าวว่าซุปเปอร์บักส์ยังออกฤทธิ์เร็วอีกด้วย
“ผู้ป่วยจะอาการหนักขึ้นมากอย่างรวดเร็วกับแบคทีเรียที่ดื้อยาเหล่านี้ บางครั้งก่อนที่เราจะสามารถวินิจฉัยได้ ผู้ป่วยก็เสียชีวิตแล้ว สิ่งนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และเป็นปัญหาที่ร้ายแรง”
ยาหลากหลายชนิดบนโต๊ะ
แต่เมื่อปี 2021 เกือบ 1 ใน 4 ของการสั่งยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาลถือว่าไม่เหมาะสม และมีความกังวลเรื่องการจ่ายยาปฏิชีวนะมากเกินไปในบ้านพักคนชราและในภาคส่วนงานฟาร์มอีกด้วย
ศาสตราจารย์ร็อบสันกล่าวว่าไม่มีการจำกัดการสั่งยาปฏิชีวนะ
“ขณะนี้เรามียาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์แรงในจำนวนน้อย เราต้องแน่ใจว่าเราได้ปกป้องและรักษาประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะที่เรามี เพราะหากว่ายาหมด เราอาจไม่มียารักษาและกลับสู่สถานการณ์เลวร้ายเช่นช่วงเวลาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2”
แพทย์ได้ออกมาเรียกร้องให้ชะลอการใช้ยาปฏิชีวนะหากไม่จำเป็นจริงๆ โดยเราควรรักษาสุขภาพและภูมิคุ้มกันของเราก่อน
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การปรับโครงการสิทธิประโยชน์ยาอาจช่วยผู้ป่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา