กดปุ่ม 🔊ที่ภาพด้านบนเพื่อฟังรายงาน
ความคืบหน้าของกระบวนการทดลอง
ยาไฮโดรซีโคราควิน (Hydroxychloroquine) เป็นตัวยาที่ใช้กระบวนการที่ใช้ในการรักษาโรคมาลาเรียมาตั้งแต่ปี 1950 ซึ่งแต่เดิมยาตัวนี้ใช้รักษาโรครูมาตอย ในปัจจุบันนอกจากนั้นยาไฮโดรซีโคราควินใช้รักษาโรคข้ออักเสบและโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวงอีกด้วย
สถาบันวิจัยวอลเตอร์และเอลิซา ฮอล์ (Walter and Eliza Hall) ในนครเมลเบิร์นได้ทำการทดลองว่าตัวยาชนิดนี้จะสามารถใช้ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นคนทำงานด่านหน้าไม่ให้ติดเชื่อไวรัสโคโรนาจากคนไข้ได้หรือไม่ ศาสตราจารย์ มาร์ค เพลลากรีนี หัวหน้าแผนกโรคติดต่อและการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งสถาบันวิจัย Walter and Eliza Hall อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ สิ่งที่เรารู้อย่างแน่ชัดคือในกระบวนการการทดลอง ตัวยาไฮโดรซีโคราควินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากในการหยุดยั้งการแพร่กระจายตัวของไวรัส ซาร์ (SARS) และไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่”
ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ยานี้ได้หรือไม่
หลังจากที่ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายอมรับว่าเขาใช้ยาไฮโดรซีโคราควินในการป้องกันไวรัสโคโรนา ทำให้ยาตัวนี้เป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลกอย่างมาก แม้ว่าจะมีหลักฐานทางวิทยาศาตร์ยืนยันถึงประสิทธิภาพของยาตัวนี้ในการป้องกันไวรัสโคโรนาไม่มากนัก
ดร. เดเนียล แมคมูแลน ประธานสมาคมแพทย์แห่งออสเตรเลีย เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ตัวยาตัวนี้เป็นยาที่รักษาโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเองบางประเภทได้อย่างดีแต่มันเป็นตัวยาเฉพาะทาง ทางเรามีความเป็นห่วงอย่างมากว่าถ้าคนได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วจะเข้าใจไปว่ามันเป็นตัวยาที่รักษาไวรัสโคโรนาทุกประเภท”
ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพเตือนว่ายาตัวนี้มีผลข้างเคียงที่รุนแรงแก่ผู้ใช้ ซึ่งคนทั่วไปไม่ควรใช้ยาตัวนี้นอกจากจะได้รับใบจ่ายยาจากแพทย์เท่านั้น
ส่วนองค์กรอาหารและยาแห่งออสเตรเลีย (The Therapeutic Goods Administration หรือ TGA ยืนยันว่า ขณะนี้ปริมาณสตอกยาในร้านขายยาในออสเตรเลียมีสถานการณ์ดีขี้นเป็นลำดับ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบางประการที่อนุญาติให้แพทย์เฉพาะทางบางประเภทเท่านั้นที่มีอำนาจจ่ายตัวยาไฮโดรซีโคราควินให้แก่คนไข้รายใหม่ได้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
NSW จะอนุญาตให้นั่งกินที่ผับและร้านอาหารได้ 50 คน