LISTEN TO
อุตสาหกรรมก่อสร้างยังมีทัศนคติที่ล้าหลังต่อพนักงาน LGBTIQ+
SBS Thai
30/06/202110:10
อุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นนับเป็นกลุ่มผู้ว่าจ้างรายใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ถึงแม้จะขึ้นชื่อ แต่ก็ยังขาดแรงงานที่มีทักษะ
มันเป็นปัญหาที่รายงานยังหวังที่จะแก้ไขด้วยวิธีการนับรวมทุกกลุ่มคน
มันเกือบจะเป็นหัวข้อต้องห้ามที่จะพูดถึง มันเกือบจะเหมือนกับการพูดคุยเรื่องเพศสัมพันธ์ในที่ทำงาน มันเป็นความไม่สบายใจถึงขั้นนั้นสำหรับบางคน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ที่มีชายแท้ผิวขาวที่มีอายุอยู่เป็นจำนวนมาก
นี่คือความรู้สึกของคุณเทย์เลอร์ ลิง เมื่อพวกเขาพูดถึงเรื่องเพศหรือเพศสภาพในที่ทำงาน
คุณเทย์เลอร์ใช้สรรพนามเรียกตัวเองว่า พวกเขา
ในฐานะผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ใช่หญิงหรือชายที่ทำงานในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง คุณเทย์เลอร์กล่าวว่าพวกเขารู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาด
“ทุกคนอยากที่จะผูกมิตรกับคุณและสนับสนุนคุณ แต่พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสนับสนุนคุณจริงๆ ได้อย่างไร และฉันคิดว่าส่วนที่ยากที่สุดของฉันคือการถูกเรียกผิดว่าเป็นเธอ และถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง ดังนั้นฉันคิดว่าเมื่อฉันได้อธิบายเส้นทางของฉันกับคนที่ฉันทำงานด้วย พวกเขาเริ่มเข้าใจมากขึ้นอีกนิด และเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้สรรพนามและภาษาที่บ่งบอกเพศ”
เหตุผลหลักที่คุณเทย์เลอร์กล่าวว่าพวกเขาเป็นกระบอกเสียงเกี่ยวกับเพศสภาพ คำสรรพนาม และการมีอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ใช่แค่หญิงหรือชาย ก็เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของพวกเขา
“ฉันต้องการที่จะรู้สึกถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยของฉัน เพื่อให้ฉันสามารถเป็นตัวของตัวเองที่สุดในที่ทำงาน และให้คนที่อยู่รอบตัวฉันเพียงแค่ถามถึงสรรพนามที่ฉันอยากให้เรียกแทนตัวฉัน และคุณรู้ไหมว่า ความต้องการพื้นฐานเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรได้รับ และที่เหลือจะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่ว่าเราจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมอย่างไรสำหรับคนที่เป็นเฉดสีอื่นๆ ในครอบครัวสีรุ้งนั้น และนั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามหาทางอยู่เหมือนกัน และพยายามที่จะเอาชนะสิ่งเหล่านั้นในบริษัทของฉันเอง” จากผลวิจัยล่าสุดของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งออสเตรเลีย คุณเทย์เลอร์ไม่ใช่แค่คนเดียว
LGBTQIA+ Source: Sharon Muccutcheon via Unsplash
ดร.เมลิสสา จาร์ดีน ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับใหม่นี้ ได้ตรวจสอบการนับรวมกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
เธอพบว่ายังขาดนโยบายและแนวปฏิบัติ พนักงานบางคนรู้สึกว่าพวกเขาต้องสวมบทบาทเป็น ‘ผู้สนับสนุน’ เพื่อให้สถานที่ทำงานของพวกเขาเปิดกว้างมากขึ้น
บางคนรู้สึกว่าได้รับพลังใจ แต่บางคนรู้สึกว่าเป็นแรงงานด้านอารมณ์ที่พวกเขาไม่ได้รับค่าตอบแทน และมันทำให้พวกเขาไขว้เขวจากงานของพวกเขา
ในขณะที่ทัศนคติต่อพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นดีขึ้นทั่วประเทศ รายงานดังกล่าวพบว่าการเกลียดชังพวกรักเพศเดียวกัน การกลั่นแกล้ง และการล่วงละเมิดยังคงมีอยู่ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และบ่อยครั้งต่อหน้าพนักงานคนอื่นและหัวหน้า
“วัฒนธรรมความเข้มแข็งแบบแมนๆ ของผู้ชายนั้นบ่อยครั้งหมายถึงว่าการที่ผู้ชายเข้ากับสภาพแวดล้อมของพวกเขาอย่างไร ดังนั้นการที่พวก ผู้ชายเข้ากันได้ดีจะรักษาพฤติกรรมเหล่านี้ไว้ โดยยึดถือความเป็นชายที่ต้องแข็งแกร่งและบรรทัดฐานของทัศนคติแบบแมนๆ และนี่หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงให้เปิดรับกลุ่มอื่นมากขึ้น รวมถึงผู้หญิงและคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่ต่างออกไป มันมักจะยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดนั้น”
แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด
ดร.จาร์ดีนสอบถามบางคนที่ใช้เวลาหลายปีกว่าจะเผยตัวตนในที่ทำงาน
เธอกล่าวว่า เมื่อพวกเขาเอาชนะความกลัวในการเปิดเผยเพศสภาพของพวกเขาได้ พวกเขาก็ได้พบกับการตอบรับที่ดีที่พวกเขาคาดหวังไว้
สิ่งที่น่าเศร้าในเรื่องนี้คือพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเรื่องที่ดี พวกเขาคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่เลวร้าย และดังนั้นสิ่งที่พวกเราควรทำคือทำให้คนอื่นมั่นใจว่าพวกเขาสามารถเปิดเผยตัวตนได้ และมันจะไม่ทำให้หน้าที่การงานของพวกเขาต้องเสี่ยง
ดังนั้นถึงแม้ว่ากลุ่มพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศจะไม่ประสบกับการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน พวกเขาอาจไม่แน่ใจว่าเพื่อนร่วมงานจะยอมรับรสนิยมทางเพศ ลักษณะเฉพาะ หรืออัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขาหรือไม่
คุณเดวิด นูแนน เลขาธิการของ ซี-เอฟ-เอ็ม-อี-ยู (CFMEU) สหภาพหลักของการก่อสร้าง ป่าไม้ การเดินเรือ เหมืองแร่ และพลังงาน แห่งชาติ
ถึงแม้เขาจะกล่าวว่ามีความคืบหน้าอย่างมากในภาคส่วนอุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่เขาก็คิดว่ายังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ
“ผู้คนส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้มีทัศนคติที่ดีขึ้น แต่ยังมีบางคนที่ยังมีทัศนคติเกลียดชังพวกที่รักเพศเดียวกัน และเป็นทัศนคติที่ไม่ดีนัก และแน่นอนว่านั่นไม่ทำให้หลายคนรู้สึกเป็นที่ยอมรับและปลอดภัยในอุตสาหกรรมนี้ และมันเป็นหน้าที่ของคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง นายจ้าง และทุกคน ไม่ว่ามุมมองทางศาสนาหรือศีลธรรมหรือวัฒนธรรมของพวกเขาจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องยอมรับว่าทุกคนมีสิทธิ์ สิทธิ์ที่จะทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างโดยที่ไม่รู้สึกว่าพวกเขาต้องปิดบังสิ่งใด ไม่ว่าคุณจะชอบหรือปิดบังว่าพวกเขาเป็นใคร และพวกเราทุกคนต้องร่วมกันผลักดันให้มีวัฒนธรรมของยอมรับมากกว่านี้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง”
ดร.จาดีนเผยว่ากุญแจที่จะเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งองค์กรเปิดรับการมีส่วนร่วมของทุกกลุ่มคือภาวะผู้นำที่เข้มแข็ง
ผู้นำกำหนดแนวทางขององค์กร พวกเขาให้ความมั่นใจว่าองค์กรมีนโยบายที่ถูกต้องและพวกเขาทำให้แน่ใจว่าอะไรคือพฤติกรรมที่ยอมรับได้และพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้
ธงสีรุ้ง สัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBTQI+ Source: Tim Bieler via Unsplash
หนึ่งคือคำแนะนำสำหรับบริษัทก่อสร้างที่มีนโยบายเอื้อต่อกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอยู่แล้ว ให้แบ่งปันนโยบายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปใช้และต่อยอด
ข้อเสนอแนะอีกหนึ่งข้อคือให้การความรู้ในเรื่องการกีดกันทางเพศ กา รเกลียดชังพวกรักเพศเดียวกัน และการเกลียดชังคนข้ามเพศ ในการอบรมพนักงาน
รวมถึงการแนะนำให้บริษัทและการอบรมความปลอดภัยในไซต์งานให้ความสำคัญกับความหลากหลายของคนงาน และระบุว่าธุรกิจหรือไซต์งานก่อสร้างเป็นมิตรกับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และจะไม่อดทนต่อการเกลียดชังพวกที่รักเพศเดียวกันและการเลือกปฏิบัติ
หากอุตสาหกรรมก่อสร้างไม่เปิดกว้างมากขึ้น ดร.จาร์ดีนกล่าวว่าจะเสียแรงงานไป
“คนรุ่นใหม่กำลังมองหาสถานที่ที่พวกเขาสามารถผสมผสานชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานให้เป็นอย่างที่พวกเขาเป็น และคนเหล่านั้นจะไม่ไปทำงานในสถานที่ที่ไม่ให้คุณค่ากับสิ่งที่พวกเขาเป็น”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่