You can read the full article in English
เนกาทีฟเกียริงคืออะไร
คำอธิบายง่ายๆ คือ เงินลดหย่อนภาษี (tax offset) ที่ชดเชยส่วนต่าง ระหว่างค่าใช้จ่ายที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจ่ายไป กับรายได้ที่พวกเขาได้รับจากอสังหาริมทรัพย์นั้น
สำนักงานสรรพากรแห่งออสเตรเลีย หรือเอทีโอ ระบุว่า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจะเข้าสู่สภาวะเนกาทีฟเกียริงได้ ก็ต่อเมื่อค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนสำหรับอสังหาริมทรัพย์นั้น อาทิ สินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น เกินรายได้ที่ได้จากอสังหาริมทรัพย์ที่ว่า เช่น ค่าเช่าจากผู้เช่า ซึ่งก็คือเมื่อคุณขาดทุนจากการลงทุนของคุณ
ความจริงแล้ว เนกาทีฟเกียริง (Negative Gearing) สามารถใช้ได้กับการลงทุนทุกประเภท ที่ต้นทุนมากกว่ารายได้ที่ได้รับ ไม่เพียงแต่สำหรับที่พักอาศัยให้เช่าเท่านั้น
หากคุณอยู่ในสถานการณ์นี้ ก็เป็นไปได้ที่คุณจะสามารถเคลมเงินที่คุณขาดทุนไปโดยขอเป็นส่วนลดหย่อนภาษี จากภาษีที่คุณจ่ายสำหรับรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น และจากรายได้อื่นๆ รวมทั้งเงินเดือนของคุณได้
นั่นหมายความว่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ขาดทุนจากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น จะสามารถเสียภาษีรายได้น้อยลง เมื่อเทียบกับหากพวกเขาไม่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
เงินลดหย่อนภาษีที่ว่านี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนและปล่อยให้เช่าแต่ถ้าจุดประสงค์หลักของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรืออื่นๆ ก็เพื่อสร้างรายได้ แล้วใครจะอยากมีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้น้อยกว่าต้นทุน?
Labor says their plan for negative gearing will help first-time home buyers enter the market. Source: AAP
มีเหตุผลหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในเหตุผลหนึ่งคือ เจ้าของไม่ได้คาดล่วงหน้าว่าจะขาดทุน นักลงทุนยังหวังด้วยว่ารายได้จากอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือเมื่อถึงเวลาขาย กำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมากกว่าการขาดทุนจากการให้เช่า
ในสถานการณ์แรก เมื่อค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์หนึ่งเพิ่มขึ้นจนครอบคลุมต้นทุนของการลงทุน ถือว่าอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่ภาวะโพสิทีฟเกียริง (positive gearing) และเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นจะต้องเสียภาษีจากรายได้นั้น
มันจะส่งผลต่อฉันอย่างไร?
นโยบายนี้มีมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่มีหลายเหตุผลที่ทำให้มีการอภิปรายเรื่องนี้กันในปัจจุบันนี้
เหตุผลหนึ่งคือประเด็นเรื่องราคาที่พักอาศัยที่กำลังสูงเกินเอื้อมของประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินบางคนก็โต้แย้งคือ นักลงทุนต่างเข้ามาซื้อหาอสังหาริมทรัพย์เป็นของตนเองมากจนเกินพอดี ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไป
รายงานของสถาบันแกรทแทน ปี 2016 พบว่า ผู้มีรายได้สูงสุด ร้อยละ 10 ของผู้เสียภาษี ได้รับประโยชน์จากเนกาทีฟเกียริง คิดเป็นเกือบร้อยละ 50 ของการลดหย่อนภาษีจากเนกาทีฟเกียริงทั้งหมด
ในทางกลับกัน ผู้ที่สนับสนุนเนกาทีฟเกียริงแย้งว่า การยกเลิกเนกาทีฟเกียริงจะส่งผลให้ราคาบ้านตกต่ำลง (มากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน) และเป็นการพุ่งเป้าอย่างไม่ยุติธรรมไปที่นักลงทุนรายย่อยที่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพียง 1 หรือ 2 แห่ง การโต้แย้งระบุว่า หากมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ลดลง ค่าเช่าก็จะเพิ่มขึ้นตามมา -ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ใครเลยแดนีแอล วูด นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันแกรทเทน บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า ทั้งสองฝั่งของการอภิปรายต่าง “พูดเกินจริง” เกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเนกาทีฟเกียริงที่อาจเกิดขึ้น
ประชาชนในออสเตรเลีย 1.3 ล้านคนขอลดหย่อนภาษีจากเนกาทิฟเกียริง Source: AAP/SBS Source: AAP Image/Darren England
“พรรคแรงงาน ที่พูดในช่วงแรกๆ พูดเหมือนกับว่า นี่จะเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริงสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก และพรรคลิเบอรัลก็พูดเหมือนกับว่านี่จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อราคาบ้าน” คุณวูด กล่าว
“คนหนุ่มสาวจะชอบนโยบายของพรรคแรงงานมากกว่า ส่วนคนที่อายุมากหน่อยที่มีบ้านของตนเองแล้วอาจไม่ชอบนโยบายนี้สักเท่าไร”
พรรคแรงงานเสนอให้เปลี่ยนแปลงอย่างไร?
พรรคแรงงาน เถียงว่า นโยบายปัจจุบันนั้น ให้ประโยชน์เฉพาะนักลงทุนที่มั่งคั่ง ซึ่งมีบ้านหลังหนึ่ง (หรือหลายๆ หลัง) ของตนเองแล้ว ขณะที่ส่งผลเสียร้ายแรงต่อผู้ที่พยายามก้าวเข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรก รวมทั้งคนหนุ่มสาวในออสเตรเลียจำนวนมาก ที่ต้องแข่งขันกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลแล้ว
พรรคแรงงาน ชูประเด็นว่าหากพรรคชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลสหพันธรัฐของพรรคแรงงาน ให้สัญญาจะจำกัดการให้เนกาทีฟเกียริงแก่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนแห่งใหม่ๆ นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 เป็นต้นไป
นโยบายนี้จะไม่บังคับใช้กับผู้ที่ได้รับส่วนลดหย่อนภาษีจากเนกาทิฟเกียริงอยู่แล้วขณะนี้ ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอยู่แล้วขณะนี้ แต่จะไม่รวมไปถึงบ้านที่สร้างขึ้นใหม่
แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนนั้นไป นักลงทุนรายใหม่จะไม่สามารถขอสิทธิใช้เนกาทิปเกียริงจากอสังหาริมทรัพย์นั้นได้
“การเปลี่ยนแปลงของเราจะไม่มีผลกับผู้ใดก็ตามที่ขณะนี้ได้รับเนกาทีฟเกียริงอยู่แล้ว” นายชอทเทน กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. ในการตอบคำถามจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนผู้หนึ่ง
“สิ่งที่เรากำลังพูดถึงคือ การซื้อหาครั้งใหม่ของนักลงทุนสำหรับบ้านที่สร้างขึ้นนานแล้ว จะไม่สามารถนำมาขอเคลมค่าลดหย่อนจากรัฐบาลได้”
ถ้าเช่นนั้น แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงไปทำไม?
พรรคแรงงานแย้งว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะให้คนหนุ่มสาวและผู้ซื้อบ้านหลังแรกมีโอกาสมากขึ้นที่จะก้าวเข้าไปในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ ซึ่งกำลังเป็นโอกาสที่ขณะนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับหลายๆ คน
“สิ่งที่เราจะทำคือ หยุดให้ความได้เปรียบกับประชาชนที่มีอสังหาริมทรัพย์และมีการลงทุนอยู่แล้ว และทำให้สนามแข่งขันเท่าเทียมกันสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก” นายชอทเทน กล่าว
พรรคแรงงาน อ้างว่า ขณะนี้รัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์ ต่อปีสำหรับเนกาทีฟเกียริง และการให้ค่าลดหย่อนภาษีสำหรับเงินปันผลการลงทุน และแย้งว่า เงินจำนวนนี้ควรจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าสำหรับโรงเรียนและโรงพยาบาลต่างๆ
คุณวูด เห็นด้วย เกี่ยวกับการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษี โดยการพุ่งเป้าลดการให้ส่วนลดหย่อนภาษี ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเป้าหมายสำคัญด้านนโยบาย แต่เธอกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ จะไม่ใช่มาตรการมหัศจรรย์ ที่จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่างสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก
Bill Shorten and Scott Morrison are wooing Melbourne voters ahead of the May 18 federal election. (AAP) Source: AAP
พรรคร่วมว่าอย่างไร?
พรรคร่วมได้โจมตีแผนของพรรคแรงงาน โดยอ้างว่าภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่พรรคแรงงานเสนอ จะทำให้ค่าเช่าบ้านสูงขึ้น และจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ
พรรคร่วมมีความเห็นดังนี้: หากไม่มีสิทธิประโยชน์จากเนกาทิฟเกียริง มีแนวโน้มว่านักลงทุนจะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าน้อยลง นั่นหมายความว่า จะมีจำนวนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าน้อยลงในตลาด อุปสงค์และอุปทานจะหมายความว่าเจ้าของบ้านจะสามารถคิดค่าเช่าสูงขึ้นได้
ในขณะนี้ นักเศรษฐศาสตร์ต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน ว่านี่จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงหรือไม่
คุณวูด กล่าวว่า สถาบันแกรทแทนเชื่อว่า จะแทบไม่มีผลใดๆ ต่อราคาค่าเช่าบ้าน หากมีการเปลี่ยนแปลงเนกาทิฟเกียริงเกิดขึ้นจริง
ขณะที่เธอเห็นด้วยว่า อาจมีที่พักอาศัยให้เช่าน้อยลงในตลาด เธอกล่าวว่า ข้อโต้แย้งของพรรคร่วมมองข้าม เรื่องที่ว่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นยังคงมีอยู่ในตลาดต่อไป
“แทนที่จะมีนักลงทุนเป็นเจ้าของ ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นแทน ดังนั้น 'ถูก' ที่ว่าคุณจะมีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าน้อยลง แต่คุณก็จะมีผู้ที่เป็นผู้เช่าน้อยลงด้วย” คุณวูด อธิบาย
จากบทความแสดงความเห็นของนายจอช ไฟรเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลัง ที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ Herald Sun เมื่อปีที่แล้ว เขาระบุว่า การยกเลิกเนกาทิฟเกียริงจะส่งผลเสียต่อผู้เป็นเจ้าของบ้าน ผู้เช่าบ้าน และนักลงทุน หากราคาอสังหาริมทรัพย์ลดต่ำลง
“ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ตกลงอย่างมาก อาจทำให้อีควิตี้ (equity กำไรจากอสังหาริมทรัพย์ โดยคิดจากส่วนต่างระว่างราคาบ้านในตลาดกับเงินจำนองบ้านที่คุณเป็นหนี้ธนาคาร) ที่ครอบครัวมีอยู่จากบ้านของพวกเขา กลับหายไปสำหรับบางคน หากจำนวนหนี้สูงกว่ามูลค่าของสินทรัพย์” นายไฟรเดนเบิร์ก ระบุในบทความ
นายไฟรเดนเบิร์ก ได้บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อเช้าวันจันทร์สัปดาห์ที่แล้ว (6 พ.ค.) โดยเน้นย้ำความเห็นของเขาอีกครั้ง โดยอ้างว่า นโยบายของพรรคแรงงาน “ได้ทำให้มีความกังวลเกิดขึ้นแล้วในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์”
“สมาคมช่างก่อสร้าง มาสเตอร์ บิวเดอส์ จะบอกว่านโยบายนี้ จะทำให้เกิดการเลิกจ้าง 32,000 ตำแหน่ง และนำไปสู่การสร้างที่พักอาศัยน้อยลง 42,000 แห่ง” นายไฟรเดนเบิร์ก กล่าว
จากการคาดการณ์ของ ฟิตช์ เรทติง ราคาอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้กำลังตกลงและคาดว่าออสเตรเลียจะได้เห็นราคาบ้านที่ตกลงอย่างเลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งพรรคร่วมได้ฉวยโอกาสจากข้อมูลที่เผยออกมานี้ โดยอ้างว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเลวร้ายลงไปอีกหากมีการเปลี่ยนแปลงเนกาทิฟเกียริง
ในความเห็นของคุณวูด ผู้เป็นเจ้าของบ้านจะเห็นมูลค่าของบ้านที่ตนเป็นเจ้าของลดลงเล็กน้อย สถาบันแกรทแทน คาดการณ์ว่า ราคาบ้านที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลของเนกาทีฟเกียริงจะอยู่ใน “ระดับ 1-2 เปอร์เซ็นต์”
นโยบายของพรรคกรีนส์ ที่ใช้ชื่อเรียกว่า “บ้านสำหรับทุกคน” นั้น พรรคจะค่อยๆ ยกเลิกเนกาทีฟเกียริงไปทั้งหมดภายใน 5 ปี และห้ามไม่ให้มีเนกาทีฟเกียริงสำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนทั้งหมดในอนาคต พรรคกรีนส์ กล่าวว่า เงินที่ประหยัดได้จากนโยบายนี้ จะนำมาใช้เพื่อเป็นทุนสำหรับจัดหาที่พักอาศัยที่ราคาไม่แพง ใช้ปกป้องสิทธิของผู้เช่าบ้าน และสนับสนุนบริการฉุกเฉินต่างๆ
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
คาดราคาบ้านในซิดนีย์จะตกเหลือไม่ถึงล้าน
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
Tax Talk: การหักภาษีจากค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้พนักงาน