ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ชาวออสเตรเลียจะมุ่งหน้าเข้าคูหาเลือกตั้งเพื่อตัดสินใจว่าใครจะบริหารประเทศ แต่เรื่องนี้นั้นมีรายละเอียดอย่างไร
ใครสามารถไปเลือกตั้งได้?
หากคุณเป็นพลเมืองออสเตรเลียที่อายุ 18 ปี หรือมากกว่า คุณจะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
แต่ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งนั้น เป็นความรับผิดชอบของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเองที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งและรายละเอียดของพวกเขานั้นถูกต้อง ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้
การลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นปิดรับลงทะเบียนไปแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว และมีชาวออสเตรเลียมากเป็นประวัติกาลที่ลงทะเบียนขอให้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งออสเตรเลีย หรือ เออีซี
มีพลเมืองชาวออสเตรเลียทั้งสิ้น 16,424,248 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 96.8 ของประชากรทั้งหมดที่มีสิทธิเลือกตั้ง มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง
จำนวนนี้นั้นมากกว่าประชาชนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งสำหรับการเลือกตั้งสหพันธรัฐปี 2016 ราว 750,000 คน
Bill Shorten eats a sausage sandwich on 2016 election day. Source: AAP
จะเกิดอะไรขึ้นในวันเลือกตั้ง?
ขณะที่การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าสามารถทำได้ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนเป็นต้นไป แต่ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าไปยังคูหาเลือกตั้งเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง
ข้อดีที่เห็นได้ชัดของการไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยตนเองในวันเลือกตั้งคือ “ไส้กรอกประชาธิปไตย” หรือบาร์บีคิวเพื่อเรี่ยไรเงิน หน้าคูหาเลือกตั้ง
“หากคุณไปเลือกตั้งในวันเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้านคุณ ชื่อของคุณจะถูกขีดออกจากทะเบียนผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้ง และคุณจะได้รับบัตรเลือกตั้งสีเขียวสำหรับเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และบัตรเลือกตั้งสีขาวสำหรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา” คุณฟิล ไดแอค จากเออีซี บอกกับ เอสบีเอส นิวส์
“วิธีลงคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้งเหล่านี้นั้นแตกต่างกัน ดังนั้น จึงสำคัญมากที่จะต้องทำตามคำแนะนำบนบัตรเลือกตั้ง”
สภาผู้แทนราษฎร
สภาผู้แทนราษฎรนั้นยังเรียกกันว่า “สภาของรัฐบาล” ด้วย เนื่องจากใครก็ตามที่ควบคุมสภานี้จะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลของช่วงเวลานั้น
“สำหรับบัตรสีเขียวเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น คุณจำเป็นต้องเขียนตัวเลขเรียงลำดับความชอบทุกช่อง โดยเป็นตัวเลขตามลำดับตั้งแต่ 1 ไปจนถึงจำนวนของผู้สมัครทั้งหมดที่อยู่บนใบเลือกตั้ง” คุณไดแอค กล่าวผู้สมัคร ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคต่างๆ เช่น พรรคลิเบอรัล พรรคเนชันแนล พรรคแรงงาน หรือพรรคกรีนส์ ผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเสียงทั้งหมดจะชนะการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น
ตัวอย่างการลงคะแนนเลือกตั้ง สส. จากเว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งออสเตรเลีย (AEC) Source: AEC
ในการเลือกตั้งปี 2019 ครั้งนี้นั้น จะมีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 151 คน
Voters at Bondi Surf Bathers Life Saving Club. Source: AAP
ระบบจัดลำดับความชอบ (Preferential voting)
มีเหตุผลสำคัญว่าทำไมผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องเขียนตัวเลขตามลำดับความชอบในทุกช่องของบัตรเลือกตั้ง
“ระบบการเลือกตั้งของออสเตรเลียนั้น ไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ในต่างประเทศ โดยเป็นระบบที่ใช้การจัดลำดับความชอบ (Preferential voting)” นายไดแอค อธิบาย
“จุดมุ่งหมายของระบบเลือกตั้งตามลำดับความชอบคือทำให้แน่ใจได้ว่าผู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยดูจากลำดับความชอบทั้งหมดแล้ว เป็นผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง… นี่จะมีบทบาทสำคัญเมื่อไม่มีผู้สมัครคนใดเลยได้คะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 50 ในการเลือกผู้สมัครที่ชื่นชอบมากที่สุดอันดับหนึ่ง”
ดังนั้น หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 50 ในการนับคะแนนครั้งแรก ผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงน้อยที่สุดจะถูกตัดออก และสำหรับผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้พวกเขาเป็นอันดับหนึ่งนั้น จะถูกนำผู้สมัครที่ชื่นชอบอันดับสองไปนับคะแนนต่อไป
กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้สมัครคนใดคนหนึ่งได้คะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเสียงทั้งหมด
สภาผู้แทนราษฎรสหพันธรัฐ ที่กรุงแคนเบอร์รา Source: AAP Source: AAP Image/Mick Tsikas
จัดตั้งรัฐบาลกันอย่างไร?
จะมีการนับจำนวนผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งของทุกเขตเลือกตั้ง และพรรคที่มีผู้สมัครชนะการเลือกตั้งเป็นจำนวนมากที่สุด นั่นคืออย่างน้อย 76 ที่นั่น จะจัดตั้งรัฐบาล และผู้นำของพรรคนั้นจะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หากไม่มีพรรคใดเลยที่มีที่นั่งพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้ สถานการณ์ดังกล่าวเรียกกันว่า ‘สภาแขวน’ (hung parliament)
จากนั้นพรรคการเมืองต่างๆ จะเจรจากับพรรคการเมืองอื่นหรือกับผู้สมัครอิสระ และขอให้พวกเขามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมด้วยกัน
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2010 เมื่อนางจูเลีย กิลลาร์ด ต้องจัดตั้งรัฐบาลโดยได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่สังกัดพรรคใหญ่หรือเป็นผู้สมัครอิสระ
แล้ววุฒิสภาล่ะ?
ยังมีบัตรเลือกตั้งสีขาวอีก ซึ่งยาวกว่าบัตรเลือกตั้งสีเขียว
วุฒิสภาคือสภาสูงของออสเตรเลีย หรือ “สภาแห่งการตรวจสอบและกำกับการทำงานของรัฐบาลในขณะนั้น” จากข้อมูลของรัฐสภาออสเตรเลีย
แต่ละรัฐจะเลือกวุฒิสมาชิก 6 คน ขณะที่เขตนครหลวงแห่งออสเตรเลีย หรือเอซีที และนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีนั้น แต่ละพื้นที่ดังกล่าวจะเลือกวุฒิสมาชิก 2 คน
มี 2 วิธีในการลงคะแนนเลือกวุฒิสมาชิก นั้นคือลงคะแนนเหนือเส้น หรือใต้เส้นหากคุณต้องการลงคะแนนเสียงเหนือเส้น คุณจำเป็นต้องลงหมายเลขกำกับตามลำดับความชอบอย่างน้อย 6 ช่องสำหรับพรรคหรือกลุ่มผู้สมัคร
ตัวอย่างการลงคะแนนเหนือเส้นในการเลือก สว. (AEC) Source: AEC
หากคุณต้องการลงคะแนนเสียงใต้เส้น คุณจำเป็นต้องลงหมายเลขสำหรับผู้สมัครตามลำดับความชอบ อย่างน้อย 12 อันดับ
จากนั้น หากคุณต้องการ คุณยังสามารถลงหมายเลขตามลำดับผู้สมัครที่คุณชื่นชอบต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้เส้นคุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และสามารถฝึกลงคะแนนได้ ที่เว็บไซต์ของคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งออสเตรเลีย หรือ เออีซี
ตัวอย่างการลงคะแนนใต้เส้นในการเลือก สว. (AEC) Source: AEC
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ประชาชนไว้ใจนักการเมืองต่ำสุดใน 50 ปี
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
โครงการทดลองพุ่งเป้าผู้ก่อเหตุความรุนแรงในครอบครัว