โครงการทดลองที่จะนำตัวผู้ก่อเหตุความรุนแรงในครอบครัวออกไปจากบ้านจะเริ่มขึ้นที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ภายใต้โครงการริเริ่มใหม่ด้วยต้นทุน 4 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลของรัฐ
นางมิเชล เลนซิงค์ รัฐมนตรีด้านบริการมนุษย์ ประกาศเปิดตัวโครงการทดลองดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ (4 พ.ค.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มที่จะรวมไปถึงการจัดหาที่พักฉุกเฉินเพิ่มขึ้นอีก 40 เตียง
เธอกล่าวว่า ครอบครัวจำเป็นต้องอยู่ในบ้านของตนอย่างสะดวกสบายต่อไป
“มันดีกว่าที่จะนำผู้ก่อเหตุความรุนแรงในครอบครัวออกไปจากบ้าน เพื่อที่ครอบครัวจะได้ไม่ต้องย้ายโรงเรียน ไม่ต้องเปลี่ยนที่รับบริการและความช่วยเหลือที่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับ” นางเลนซิงค์ กล่าว
“เราต้องการทำให้แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำไป รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน และแน่ใจว่าครอบครัวปลอดภัย”
รัฐมนตรีช่วยด้านการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว คือนางแคโรไลน์ พาวเวอร์ กล่าวว่า โครงการริเริ่มนี้นั้นสำคัญยิ่งต่อความพยายามแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
“โครงการทดลองที่น่าตื่นเต้นนี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่นี่ในเซาท์ออสเตรเลีย” นางพาวเวอร์ กล่าว
“การที่ต้องพรากจากบ้านและชุมชนที่ตนอยู่ไปเป็นประสบการณ์ที่สะเทือนใจ”
นางกลิน สกอตต์ ผู้รณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว กล่าวว่า การนำตัวผู้ก่อเหตุออกไปจากบ้านควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนานหลายปีแล้ว
“บุตรชายคนโตของเธอถูกสังหารและบุตรคนที่สองฆ่าตัวตายเนื่องจากการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว”
“หากผู้ก่อเหตุถูกทำให้ต้องรับผิดชอบในเวลานั้นเมื่อเรื่องนี้เกิดกับฉัน ลูกของฉันสองคนคงยังมีชีวิตอยู่” นางสกอตต์ กล่าว
“หากพวกเขาออกไปจากบ้านของครอบครัว ผู้หญิงจะเผชิญกับการต้องหลบหนี การไร้บ้าน การอาศัยอยู่ในรถยนต์ และมีความเสี่ยงสูญเสียลูกๆ ไปเพราะเรื่องนี้”
สำหรับที่พักฉุกเฉินใหม่นั้น มีทั้งที่พักในยูนิต อสังหาริมทรัพย์ที่ตกแต่งใหม่ และก่อสร้างใหม่
ในจำนวนนั้นร้อยละ 75 จะให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ และที่เหลืออีกร้อยละ 25 จะให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2020
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
แฟร์เวิร์กไฟเขียวลาหยุดงานจากความรุนแรงในครอบครัว
