รัฐวิกตอเรียประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่วันนี้ 372 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อนี้เพิ่ม 14 รายในวันศุกร์ (14 ส.ค.) ส่งผลให้วิกตอเรียมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อนี้สะสม 289 ราย
นาย แดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรี (Premier) ของรัฐวิกตอเรีย เผยว่า ผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น รวมถึงชายวัย 20 ปีเศษผู้หนึ่ง โดยจนถึงขณะนี้เขาเป็นเหยื่ออายุน้อยที่สุดที่เสียชีวิตจากเชื้อนี้ในออสเตรเลีย ส่วนผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ นั้นได้แก่หญิง 3 รายและชาย 2 รายในวัย 80 ปีเศษ และหญิง 4 รายและชาย 4 รายในวัย 90 ปีเศษ
ผู้เสียชีวิต 12 รายที่ประกาศในวันศุกร์วันนี้ เชื่อมโยงกับการระบาดของเชื้อในสถานดูแลผู้สูงอายุ
นายแอนดรูส์ กล่าวว่า ขณะนี้กรณีติดเชื้อที่ยังไม่ทราบต้นตอแน่ชัดในรัฐวิกตอเรียมีทั้งหมด 3,119 ราย โดยมากกว่าเมื่อวันพฤหัสบดี 51 ราย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐวิกตอเรียเป็นห่วงอย่างหนัก
“กรณีเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเป็นห่วงมากที่สุด เพราะเราไม่สามารถระบุชี้สถานการณ์ที่มีการติดเชื้อหรือตัวบุคคลที่เป็นต้นตอที่ทำให้การติดเชื้อเริ่มขึ้น นี่เป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงและเป็นกรณีที่กินเวลานาน” นายแอนดรูส์ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์
อ่านเพิ่มเติม
ผลสำรวจชี้คนอายุน้อยไม่ทำตามกฎ-เสี่ยงติดเชื้อสูง
ศ.เบรตต์ ซัตตัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า กรณีการติดเชื้อที่ยังหาต้นตอไม่พบในการระบาดระลอกสองของวิกตอเรียนั้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของกรณีการติดเชื้อทั้งหมดในเมลเบิร์น และร้อยละ 13 ของกรณีการติดเชื้อทั้งหมดในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย
กรณีการติดเชื้อที่ไม่รู้ต้นตอแน่ชัดถูกพบเป็นสัดส่วนที่สูงในผู้ติดเชื้อที่อายุระหว่าง 20-29 ปี ศ.เบรตต์ ซัตตัน เผย
นายแอนดรูส์ กล่าวว่า สถิติที่พบนั้นไม่น่าประหลาดใจนัก
“พวกเขาเป็นผู้ที่ออกไปซื้อของข้างนอก ออกไปทำงานในอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตให้ทำได้ เป็นผู้ที่ออกไปข้างนอกด้วยเหตุผลที่ถูกต้องตามกฎหมาย มากพอๆ กับที่พวกเขาออกไปข้างนอกโดยไม่ทำตามกฎระเบียบ” มุขมนตรีวิกตอเรีย กล่าว
ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรียได้ตั้งศูนย์ตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาแห่งใหม่ขึ้นในเมืองจีลอง บัลลาแรต และเบนดิโก หลังจากทั้งสามเมืองนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกันกว่า 250 รายในช่วง 14 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ ศูนย์ตรวจเชื้อในพื้นที่ดังกล่าวที่มีอยู่แล้วจะขยายเวลาให้บริการและเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ด้วย
ขณะนี้ ผู้ที่รับการตรวจเชื้อและต้องกักตัวขณะรอผลการตรวจ ยังอาจสามารถได้รับเงินตอบแทนความยากลำบากที่ต้องกักตัวขณะรอผลการตรวจเชื้อ (coronavirus hardship isolation payment) จากเดิม 300 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 450 ดอลลาร์
ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.
ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น
ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น
รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้ ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
คนว่างงานออสฯ แตะหลักล้านครั้งแรกในประวัติศาสตร์