คณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (Australia’s Therapeutic Goods Administration หรือ TGA) ได้รับรองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาที่พัฒนาโดยแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สำหรับการใช้งานในออสเตรเลีย
กลยุทธ์ส่วนใหญ่ของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในออสเตรเลียขึ้นอยู่กับการที่วัคซีนของแอสตราเซเนกาได้รับการรับรอง ขณะที่วัคซีนตัวนี้หลายล้านโดสกำลังได้รับการผลิตในประเทศในนครเมลเบิร์น โดย ซีแอสแอล (CSL)
การรับรองวัคซีนดังกล่าว เกิดขึ้นหลังทีจีเอได้รับรองวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) ไปแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว
ทีจีเอระบุในคำแถลงว่า คณะกรรมาธิการได้รับรองวัคซีนแอสตราเซเนกาสำหรับใช้ฉีดให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป
องค์กรกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพแห่งนี้ กล่าวว่า การตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่อายุ 65 ปีหรือไม่ ควรพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ทีจีเอ กล่าวว่า ไม่มีความน่าวิตกด้านความปลอดภัยใดๆ สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปี แต่ยังไม่มีข้อมูลด้านสถิติเพียงพอที่จะระบุชี้ความมีประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้ในกลุ่มคนช่วงอายุดังกล่าว
“ชาวออสเตรเลียสามารถมั่นใจได้ว่า กระบวนการตรวจสอบของทีจีเอสำหรับวัคซีนตัวนี้นั้นเข้มข้น และมีมาตรฐานสูงสุด” ทีจีเอ ระบุ
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรเลียจะเริ่มการฉีดวัคซีนโควิดสัปดาห์หน้า
ออสเตรเลียได้จองวัคซีนแอสตราเซเนกาไว้ 53.8 ล้านโดส
“วัคซีนนี้นั้นได้ผ่านข้อกำหนดด้านมาตรฐาน ความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพ และจะฉีดให้ฟรีแก่ชาวออสเตรเลีย” นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวในวันอังคาร (16 ก.พ.)
“นั่นหมายความว่า ขณะนี้ ออสเตรเลียมีวัคซีนโควิด-19 สองตัวที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ให้ใช้ได้ วัคซีนชุดแรกที่จะส่งให้แก่ออสเตรเลียจะถูกนำเข้าจากต่างประเทศ และในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ วัคซีนแอสตราเซเนกาจะได้รับการผลิตเองที่นี่ในออสเตรเลีย” นายมอร์ริสัน กล่าว
นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหพันธรัฐ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพอใจที่วัคซีนแอนตราเซเนกา ได้รับการรับรองให้สามารถจัดส่งมาได้
“จากคำแนะนำขณะนี้ วัคซีนแอสตราเซเนากานั้น เราหวังและคาดว่าจะสามารถเดินหน้าได้ ขึ้นอยู่กับการยืนยันเรื่องการจัดส่ง อาจจะต้นเดือนมีนาคม หรือไม่ก็เร็วกว่านั้น” นายฮันต์ กล่าว
ในขั้นต้น วัคซีนแอสตราเซเนกาจะถูกนำเข้า จากนั้นซีแอสแอล จะเร่งการผลิตวัคซีนดังกล่าวภายในประเทศให้ได้ราว 1 ล้านโดสต่อเดือน
นายจอห์น สเคอร์ริตต์ หัวหน้าของทีจีเอ กล่าวว่า มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนตัวนี้ห่างกัน 12 สัปดาห์ ระหว่างโดสแรกและโดสที่สอง
แต่เขากล่าวว่า วัคซีนตัวนี้นั้น ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพดี เมื่อวัคซีนโดสที่สองฉีดห่างจากโดสแรก ระหว่าง 4-12 สัปดาห์
นี่แตกต่างจากระยะห่าง 3 สัปดาห์ระหว่างวัคซีนโดสแรกและโดสที่สองสำหรับวัคซีนไฟเซอร์
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้อยู่บ้านและติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
อนาคตไกลกับงาน จนท.ล้างเครื่องมือแพทย์