นายสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า การฉีดวัคซีนให้ชาวออสเตรเลีย 26 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ จะเป็นปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ
นายกรัฐมนตรีใช้โอกาสกล่าวสุนทรพจน์ที่สโมสรผู้สื่อข่าวแห่งชาติในวันจันทร์ (1 ก.พ.) เผยแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสำหรับโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้
เขาประกาศให้งบประมาณเพิ่มอีก 1,900 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้โครงการฉีดวัคซีนครั้งนี้มีงบประมาณรวม 6,300 ล้านดอลลาร์ สำหรับกำลังคนที่จะเกี่ยวข้องในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ผ่านแพทย์ทั่วไป (แพทย์จีพี) ร้านขายยา และศูนย์ฉีดวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติอื่นๆ อีกหลายพันแห่ง
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า ลำพังเพียงโรงงานผลิตวัคซีน ซีเอสแอล (CSL) ในนครเมลเบิร์น น่าจะสามารถผลิตวัคซีนของแอสตราเซนากาได้มากพอที่จะฉีดให้คนทั้งประเทศ
แต่การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ จะยังคงเป็นวัคซีนตัวแรกที่เริ่มฉีดให้ผู้คนได้ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า แม้จะมีวัคซีนแล้ว แต่ “เราไม่สามารถลดมาตรการยับยั้งที่สำคัญ 3 อย่าง ซึ่งรับใช้ออสเตรเลียมาอย่างดีในปี 2020 ได้ และต้องเป็นจุดมุ่งเน้นของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในปี 2021”
มาตรการยับยั้งเชื้อที่สำคัญ 3 อย่างเหล่านั้นได้แก่ การควบคุมพรมแดนระหว่างประเทศและการกักกันโรค; การตรวจหาเชื้อ การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และการบริหารจัดการฮอตสปอต; และการรักษาระยะห่างทางกายภาพระหว่างบุคคล และปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดี
“ในปี 2021 มาตรการยับยั้งเชื้อเหล่านี้ ซึ่งต้องนำไปปฏิบัติในแนวทางที่สมดุลกับการปกป้องการจ้างงานและการดำรงชีพ จะได้รับการส่งเสริมให้แข็งแกร่งขึ้นจากวัคซีนโควิด-19” นายมอร์ริสัน กล่าว
“นี่จะเป็นปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย เราจะฉีดวัคซีนให้คน 26 ล้านคน โดยเราได้จองวัคซีนไว้แล้วกว่า 140 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอที่จะครอบคลุมประชากรออสเตรเลียหลายเท่าตัว”
ภายใต้ยุทธศาสตร์ในการฉีดวัคซีน ชาวออสเตรเลียทั้งหมดจะได้รับการเสนอโอกาสให้ฉีดวัคซีน ภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2021
หน่วยงานที่จะมีส่วนร่วมในการฉีดวัคซีนใหม่นี้ให้ประชาชนได้แก่ วิทยาลัยแพทย์ทั่วไปแห่งออสเตรเลีย (Royal Australian College of General Practitioners) แพทยสมาคมแห่งออสเตรเลีย (Australian Medical Association) และบริษัทด้านโลจิสติกส์ คือ ดีเอชแอล และลินฟอกซ์ โดยแพทย์ทั่วไป และร้านขายยาชุมชนจะเป็นผู้ฉีดวัคซีนให้ประชาชน
นอกจากนี้ จะมีทีมบุคคลกรพิเศษ เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่าการฉีดวัคซีนไปถึงยังพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากทุกแห่งในประเทศด้วย
ขณะนี้ ออสเตรเลียไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน และตำแหน่งงานกว่าร้อยละ 90 ที่หายไปในช่วงเศรษฐกิจถดถอยได้คืนกลับมา
อย่างไรก็ตาม นายมอร์ริสัน กล่าวว่า ขณะที่การกลับมากำลัง “เริ่มคืบหน้าขึ้น” เชื้อไวรัสโคโรนากำลังเปลี่ยนแปลงเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีพิษสงมากขึ้น ดังนั้น ออสเตรเลียยังคงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง
เขาย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลน่าจะไม่ต่อโครงการอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) ต่อไปหลังสิ้นเดือนมีนาคม ที่โครงการจะสิ้นสุดลง โดยกล่าวว่า มาตรการฉุกเฉินทั้งหมด “เป็นมาตรการชั่วคราวและมาพร้อมกับกลยุทธ์การถอนตัว ในด้านงบประมาณที่ชัดเจน”
“คุณไม่สามารถบริหารจัดการเศรษฐกิจออสเตรเลียจากเงินภาษีประชาชนได้ตลอดไป” นายมอร์ริสัน กล่าว
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้อยู่บ้านและติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
คาดศก.ออสฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัว รัฐรณรงค์เที่ยวในประเทศ