ม็อบปลดแอกรวมตัวไม่สน พรก.ฉุกเฉินและการจับกุม

ประชาชนราว 10,000 คนได้รวมตัวกันประท้วงตั้งแต่บ่ายจนถึงเวลาดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาที่แยกราชประสงค์ ในกรุงเทพมหานคร แม้จะมีคำสั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยุติการประท้วงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายเดือน

Pro-democracy supporters rally in Bangkok

Many pro-democracy supporters turned out in Bangkok in response to appeals posted on social media. Source: Grigory Zimenkov/TASS/Sipa USA

ผู้ประท้วงราว 10,000 คนได้รวมตัวกัน โดยไม่สนใจกับความพยายามปราบปรามของทางการ เพื่อยุติการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายเดือน โดยรัฐบาลไทยได้ประกาศ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้ควบคุมตัวแกนนำผู้ชุมนุม

ในการชุมนุมเมื่อคืนนี้ ผู้ประท้วงได้พากันตะโกนว่า “ประยุทธ์ออกไป” และ “ปล่อยเพื่อนเรา” ขณะเผชิญหน้ากับตำรวจที่แยกราชประสงค์ แม้จะรัฐบาลไทยจะได้ประกาศ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งห้ามการชุมนุมเกิน 5 คน เพื่อยับยั้งการประท้วงที่มีกลุ่มนักศึกษาเป็นแกนนำ

นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีผ่านการทำรัฐประหารมาตั้งแต่ปี 2014 เป็นเป้าหมายของการประท้วง ขณะที่ผู้ประท้วงยังได้พุ่งเป้าไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยเช่นกัน

นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 กล่าวกับมวลชนที่บริเวณแยกราชประสงค์ว่า “เราไม่มีที่ให้ถอยแล้ว เราเป็นหมาจนตรอก คำว่าหมาจนตรอกคือสู้จนตัวตาย”

ในช่วงดึก ก่อนที่ผู้ประท้วงจะแยกย้ายกันเมื่อเวลาราว 22.00 น. มีการเปิดแฟลชในโทรศัพท์มือถือร่วมกันร้องเพลงเพื่อมวลชน ก่อนนัดหมายกันว่าจะชุมนุมอีกครั้งในเย็นวันนี้

ตำรวจคาดว่า มีผู้เข้าร่วมการประท้วงที่แยกราชประสงค์เมื่อวานนี้ราว 10,000 คน

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ รัฐบาลไทยได้ประกาศ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยประกาศดังกล่าวมาพร้อมกับเอกสารคำสั่งที่ระบุถึงการดำเนินมาตรการต่างๆ ซึ่งมีผลตั้งแต่เวลา 4:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 16 ต.ค. ในการจำกัดห้ามการชุมนุม และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่จำกัดห้ามการเข้าพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้มีการกำหนดไว้

นอกจากนี้ ยังได้มีการประกาศ “ห้ามเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด รวมตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์บรรดาที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนในทั่วราชอาณาจักร”

เมื่อวันพุธ (14 ต.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุม "คณะราษฎร 63" ได้รวมตัวเคลื่อนไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานครนับหมื่นคน โดยการเคลื่อนไหวในครั้งนี้มุ่งกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวยังต้องการให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ และได้เรียกร้องให้มีการลดอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการทำลายสิ่งต้องห้ามที่สืบเนื่องมายาวนานในสังคมไทยในการวิพากษ์วิจารณ์สถาบัน

โดยเมื่อวันพุธ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนโห่ร้องไปยังขบวนเสด็จที่เคลื่อนผ่านจุดที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ขณะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ชุมนุมได้เป็นจำนวน 21 คน มีผู้ชุมนุมบางส่วนแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายประชาธิปไตย โดยมีที่มาจากภาพยนตร์ Hunger Games และได้ตะโกนว่า “ออกไป” ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันขบวนเสด็จ

การกระทำดังกล่าวนับว่าไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย และเป็นการท้าทายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีอิทธิพลต่อสังคมไทยในหลายด้านอย่างเปิดเผย 

ฟังรายงานสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 15 ตุลาคม จากแยกราชประสงค์
LISTEN TO
Thai protest October 15, 2020 image

ม็อบราชประสงค์ไม่หวั่นกับ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรง

SBS Thai

15/10/202006:40
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

แม้จะโลว์เทคแต่กล้าขายผ่านไลฟ์สด


Share
Published 16 October 2020 10:42am
Updated 16 October 2020 10:55am
By SBS News
Presented by SBS Thai
Source: AFP, SBS


Share this with family and friends