(บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2020)
การประกาศใช้ข้อกำหนดในการสอบทักษะภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ยื่นสมัครวีซ่าคู่ครอง (partner visa) ตั้งแต่ปลายปี 2021 นั้น ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับคู่รักที่มีแผนจะมาอยู่ร่วมกันในออสเตรเลีย ขณะเดียวกันก็ได้สร้างความยุ่งเหยิงให้กับตัวแทนทำงานด้านการอพยพย้ายถิ่น หลังได้มีการเปิดเผยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดอในการแถลงร่างงบประมาณแผ่นดิน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวแทนสนับสนุนด้านแรงงาน พหุวัฒนธรรม และนักประชากรศาสตร์ ได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าวของรัฐบาลว่าเป็นสิ่งที่ไม่เท่าเทียม และเป็นการหวนสู่ยุคสมัยของนโยบายคนผิวขาวเป็นใหญ่ในออสเตรเลีย (White Australia Policy)
ขณะที่ นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่า “เป็นนโยบายที่สนับสนุนผู้อพยพย้ายถิ่น แต่ก็สนับสนุนออสเตรเลีย”
LISTEN TO
เสียงของคนไทยเมื่อวีซ่าคู่ครองต้องสอบภาษาอังกฤษ
SBS Thai
12/10/202020:33
นายอลัน ทัดจ์ รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีด้านตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ จะช่วยเสริมสร้าง “ความเชื่อมแน่นทางสังคม” และทำให้แน่ใจว่า จะมีผู้อพยพย้ายถิ่นจำนวนมากขึ้นที่มีงานทำ ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดใหม่นี้เพิ่มเติมภายในอีก 2 - 3 เดือนข้างหน้า
สิ่งที่เราทราบในส่วนของข้อกำหนดใหม่ดังกล่าว มีดังต่อไปนี้
มีข้อกำหนดสอบทักษะภาษาอังกฤษอยู่แล้วในบางวีซ่า
ระบบการอพยพย้ายถิ่นฐานในออสเตรเลียสามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ คือ วีซ่าสำหรับผู้มาเยือน (Visitor visa) วีซ่ามนุษยธรรม (Humanitarian visa) วีซ่าการศึกษาและฝึกทักษะ (Study and training visa) วีซ่าคู่ครองและครอบครัว (Family and partner visa) และกลุ่มวีซ่าทำงานและทักษะ (Working and skilled visa)
โดยวีซ่าในกลุ่มช่องทางการศึกษาและฝึกทักษะนั้น ได้มีการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งระดับการทดสอบนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของวีซ่าที่คุณเลือกสมัคร
ตัวอย่างเช่น Training visa (Subclass 407) ผู้สมัครจำเป็นที่จะต้องมีระดับทักษะภาษาอังกฤษในระดับพอใช้ (functional) ขณะที่ผู้ยื่นสมัครวีซ่า Employer Nomination Scheme (Subclass 186) จะต้องมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับที่มีความสามารถ (competent)
สำหรับวีซ่าบางประเภท คู่ครองหรือผู้ติดตามผู้ยื่นสมัครหลักจำเป็นที่จะต้องมีระดับทักษะภาษาอังกฤษตามข้อกำหนด หรือจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมถึง $9,000 ดอลลาร์ในบางกรณี เพื่อไม่ต้องใช้ในส่วนของข้อกำหนดทักษะภาษาอังกฤษ
ส่วนพลเมืองจากประเทศสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และนิวซีแลนด์นั้น ไม่ต้องเข้ารับการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ เนื่องจากเป็นผู้ที่พูดภาษาอังกฤษอยู่แล้ว
ระดับต่าง ๆ ของทักษะภาษาอังกฤษในการขอวีซ่า
มีทักษะภาษาอังกฤษ 5 ระดับ ซึ่งเริ่มต้นจากระดับพอใช้ (Functional) เพิ่มขึ้นไปเป็นระดับวิชาชีพ (Vocational) ระดับที่มีความสามารถ (Competent) ระดับเชี่ยวชาญ (Proficient) และระดับสูง (Superior)
โดยผู้ที่กำลังจะยื่นสมัครวีซ่า สามารถเลือกที่จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษได้จากหนึ่งในข้อสอบวัดระดับระหว่างประเทศ ที่จัดสอบโดยบริษัทภายนอก 5 บริษัท ซึ่งจะวัดระดับการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูดภาษาอังกฤษ แต่ลักษณะการจัดสอบนั้นจะแตกต่างกันไป ซึ่งอาจเป็นการสอบตามปกติในสถานที่ หรือเป็นการสอบออนไลน์
โดยการสอบในทุกระดับนั้นจะเป็นข้อสอบเดียวกัน แต่จะมีคะแนนขั้นต่ำในแต่ละหน่วยการวัดผลที่สูงขึ้นไปสำหรับทักษะภาษาอังกฤษในระดับสูง
ผู้สมัครวีซ่าสามารถเข้าทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษกี่ครั้งก็ได้ เพื่อให้ได้ระดับทักษะภาษาอังกฤษที่ต้องการ แต่พวกเขาจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเข้าสอบ เช่น การเข้าสอบในระบบทดสอบทักษะภาษาอังกฤษระหว่างประเทศ (IELTS) จะมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน $335 ดอลลาร์ ในการสอบแต่ละครั้ง โดยใช้เวลาสอบ 3 ชั่วโมง
ส่วนการทดสอบภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างชาติ (TOEFL) ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับโดยรัฐบาลออสเตรเลีย จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ $300 ดอลลาร์ต่อการสอบครั้งหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาสอบ 3 ชั่วโมง
นายจอห์น ฮูริแกน (John Hourigan) ผู้อำนวยการระดับชาติ สถาบันการอพยพย้ายถิ่นฐานออสเตรเลีย (Migration Institute of Australia) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตัวแทนด้านการอพยพย้ายถิ่น กล่าวว่า การสอบวัดระดับภาษาภาษาอังกฤษเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ในใบสมัครวีซ่านั้น มักเป็นเงื่อนไขอันดับแรกก่อนที่ตัวแทนด้านการอพยพย้ายถิ่นจะเริ่มให้บริการกับลูกค้า
หากพวกเขามาหาผม ผมก็จะบอกให้พวกเขาไปสอบภาษาอังกฤษก่อนแล้วกลับมา เพราะหากไม่มีผลการสอบวัดระดับ เราก็จะทำอะไรไม่ได้สำหรับพวกเขา แล้วก็จะไม่สามารถยื่นสมัครวีซ่าได้นายฮูริแกนกล่าว
คุณจะทำข้อสอบได้ดีแค่ไหน
จากที่กล่าวไปข้างต้น รัฐบาลยอมรับผลการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ จากผู้ให้บริการสอบหลายราย แม้คำถามในข้อสอจะแตกต่างกันไป แต่ก็เป็นการวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษในจุดเดียวกัน นั่นคือการอ่าน การฟัง การเขียน และการพูด
การอ่าน
การทดสอบทักษะการอ่านนั้น จะทำโดยให้ผู้สอบอ่านข้อความที่เตรียมไว้ เช่น คำเตือนบนผลิตภัณฑ์ รายละเอียดการจัดกิจกรรม หรือข้อความส่วนหนึ่งจากหนังสือ โดยผู้สอบจะต้องตอบคำถามสั้น ๆ เกี่ยวกับข้อความที่เตรียมไว้ในตอนแรก ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างแบบทดสอบการอ่าน จากผู้ให้บริการสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ IELTS
An IELTS practice reading test. Source: IELTS
การฟัง
สำหรับในส่วนของทักษะการฟัง จะมีการเล่นไฟล์เสียงบันทึกบทสนทนาระหว่างบุคคลสองคน แล้วเช่นเดียวกับแบบทดสอบการอ่าน ผู้เข้าสอบจะต้องตอบคำถามในกระดาษคำตอบ เกี่ยวกับสิ่งที่มีการพูดในบทสนทนาดังกล่าว
ตัวอย่างข้อสอบฝึกหัดของ IELTS ในส่วนนี้ มีไฟล์เสียงของบทสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างพนักงานในบริษัทขนส่ง และลูกค้าที่ต้องการจะส่งกล่องใบหนึ่ง หลังจากที่ฟังบทสนทนาเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้าสอบจะต้องกรอกข้อมูลในใบสั่งจองด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีการพูดคุยในบทสนทนา
การเขียน
ในส่วนของแบบทดสอบการเขียนนั้น จะทดสอบลักษณะการเขียน 2 รูปแบบ ซึ่งก็คือการเขียนทั่วไป (practical writing) อย่างจดหมาย หรือเอกสาร และเรียงความ (essay) ในการแสดงความคิดเห็น
ในตัวอย่างข้อสอบฝึกหัดของ IELTS ผู้เข้าสอบจะต้องเขียนจดหมายถึงผู้จัดการที่พักอาศัยในมหาวิทยาลัยของพวกเขา หรือผู้จัดการห้องสมุดท้องถิ่น เป็นจำนวนไม่เกิน 150 คำ ขณะที่โจทย์ในการเขียนเรียงความนั้น จะขอให้ผู้เข้าสอบแสดงทัศนะในหัวข้อเรื่องต่าง ๆ โดยในที่นี้จะเป็นเรื่อง “เพราะเหตุใดการไปจับจ่ายซื้อของถึงเป็นที่นิยม (Why is shopping so popular?)” โดยเขียนไม่เกิน 250 คำ
การพูด
ในการทดสอบทักษะการพูด ผู้เข้าสอบจะต้องแนะนำตนเอง และสนทนาตอบโต้กับผู้จัดสอบหลังจากที่ได้รับโจทย์ อย่างเช่น "อะไรคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในเมืองของคุณ (What’s the most interesting part of your town?)" หรือ "คุณอยู่ที่นี่มานานแค่ไหน (How long have you lived here?)"
A practice question for the speaking component of the IELTS test. Source: IELTS
ผู้คนที่มาจากชุมชนห่างไกล บ่อยครั้งที่พวกเขาไม่รู้หนังสือในประเทศตนเอง ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะสอบไม่ผ่านนายฮูริแกนกล่าว
ข้อกำหนดนี้จะส่งผลอย่างไรต่อการยื่นสมัครวีซ่าคู่ครอง
หน่วยงานมหาดไทยของออสเตรเลียยังคงไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของวีซ่าคู่ครอง โดยจะมีการปรึกษาหารือกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในช่วงเวลาอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
แต่เราทราบว่า ข้อกำหนดดังกล่าวจะกำหนดให้ผู้ยื่นสมัครวีซ่าคู่ครองและสปอนเซอร์ (พลเมืองออสเตรเลียหรือผู้อาศัยถาวร) มีทักษะภาษาอังกฤษในระดับ “พอใช้” หรือสามารถแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีความพยายามที่มีเหตุผลในการเรียนภาษาอังกฤษ
เอสบีเอส นิวส์ เข้าใจว่าการพิสูจน์ให้เห็นความพยายามในการเรียนภาษา สามารถทำได้โดยการเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใหญ่ฟรีของรัฐบาล (AMEP) หรือเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษาอังกฤษอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นจะต้องได้รับการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
นายทัดจ์ รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีด้านตรวจคนเข้าเมือง กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตัวอย่างหนึ่งของความพยายามในการเรียนภาษาที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ คือการเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษฟรีของรัฐบาล (AMEP) จำนวน 500 ชั่วโมง ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้ในทุกรัฐและมณฑลของออสเตรเลีย รวมถึงการศึกษาทางไกล
ทั้งนี้ ข้อกำหนดดังกล่าวจะไม่นำไปใช้สำหรับวีซ่าคู่ครองชั่วคราว (Provisional Partner Visa: Subclass 309 และ 820) โดยจะมีการนำไปใช้เฉพาะในกรณียื่นขอวีซ่าคู่ครองถาวร (Subclass 101 และ 801)
แบบคำร้องในการขอวีซ่าคู่ครองชั่วคราวและถาวรนั้น ปกติแล้วจะยื่นสมัครในเวลาเดียวกัน โดยวีซ่าชั่วคราวจะทำให้ผู้ยื่นสมัครอยู่ในออสเตรเลียได้ ในระหว่างการรอพิจารณาการอนุมัติวีซ่าถาวร หรือจนกว่าแบบคำร้องจะถูกเพิกถอน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะประกาศใช้ตั้งแต่ปลายปี 2021 เป็นต้นไป และจะมีผลสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าคู่ครองใหม่เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่ยื่นสมัครไปแล้วจะไม่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้
เอสบีเอส นิวส์ เข้าใจว่า ข้อกำหนดดังกล่าวจะไม่มีผลกับผู้ที่อยู่ในวีซ่าช่องทางมนุษยธรรม (humanitarian visa) ที่ต้องการพาสมาชิกครอบครัวมาอยู่อาศัยในออสเตรเลีย และจะมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเห็นใจ เช่น ผู้ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (LD)
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
Settlement Guide: เมื่อชีวิตแต่งงานจบลงท่ามกลางวิกฤตโควิด