จ่ายเงินซูเปอร์เพิ่มจากเงินอุดหนุนลาเลี้ยงบุตร: โครงการใหม่นี้จะทำงานอย่างไรและใครได้ประโยชน์

ครอบครัวหลายพันครอบครัวจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายที่เสนอให้จ่ายเงินซูเปอร์เพิ่มจากเงินอุดหนุนการลาเพื่อเลี้ยงบุตร โดยกฎหมายดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณา

A young mother in a white shirt feeds her son with milk from bottle while sitting on sofa in a bright home.

Campaigners say mothers on parental leave incur a "motherhood tax" which compounds over time and results in less retirement savings than men. Credit: Johner Images/Getty Images/Johner RF

คุณแม่และคุณพ่อมือใหม่เตรียมรับเงินซูเปอร์เพิ่มเติมจากรัฐบาลกลางเมื่อต้องหยุดงานเพื่อดูแลบุตรแรกเกิด

หากกฎหมายใหม่ผ่านจะทำให้คนเป็นแม่และพ่อได้รับเงินซูเปอร์เพิ่มเติมจากเงินลาคลอดที่รัฐบาลเป็นผู้จ่ายให้ ร่างกฎหมายนี้กำลังถูกนำเสนอต่อรัฐสภาในวันพฤหัสบดี

คาดว่าโครงการนี้จะมีค่าใช้จ่ายแก่ผู้เสียภาษี 250 ล้านเหรียญต่อปี
“สำหรับครอบครัวใหม่นี่คือนโยบายสมัยใหม่ที่มอบทางเลือก ความปลอดภัย และตอบแทนความปรารถนา” นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีซีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี

โครงการนี้มีกลไกการทำงานอย่างไร

ใครจะได้รับประโยชน์?

หากผ่านโครงการนี้ มันจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม 2025 และคาดว่าจะให้ประโยชน์แก่ครอบครัว 180,000 ครอบครัวที่ใช้สิทธิ์ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรที่รัฐบาลให้ทุนหลังจากคลอดบุตร

การลาครั้งนี้ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศ ซึ่งคือ 915.90 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

เงินซูเปอร์จะจ่ายแบบการันตีในอัตรามาตรฐานที่ 12 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ที่ 11.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกับที่โครงการมีผลบังคับใช้

คาดว่าพ่อแม่มือใหม่จะได้รับเงินบำนาญ 3,000 ดอลลาร์ตลอดระยะเวลาลา ซึ่งจะขยายเป็น 6 เดือนตั้งแต่ปี 2026
SuperImbalance_v2.jpg

ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 364,350 ดอลลาร์ต่อปีหรือบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 169,000 ดอลลาร์ต่อปีจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

หากครอบครัวมีรายได้มากกว่า 364,350 ดอลลาร์ แต่มีคนในครอบครัวหนึ่งมีรายได้ต่ำกว่า 175,788 ดอลลาร์ ครอบครัวนั้นก็จะมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ

หากมีคนหนึ่งมีรายได้เกิน 175,788 ดอลลาร์ ครอบครัวนั้นก็ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือหากรายได้ต่ำกว่า350,000 ดอลลาร์ของเพดานเงินได้ของครอบครัว

นักรณรงค์ได้โต้แย้งกันมานานแล้วว่าคุณแม่มือใหม่จะต้องพบกับ "ค่าปรับความเป็นแม่" เนื่องจากสูญเสียรายได้และเงินบำนาญสะสมในระหว่างลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร ซึ่งสิ่งนี้จะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ผู้หญิงมีเงินออมเพื่อการเกษียณน้อยกว่าผู้ชาย

กลุ่มรณรงค์ The Parenthood กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจทำให้มีเงินออมเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้น 30,000 ดอลลาร์ต่อครอบครัวต่อเด็ก

“ความเป็นจริงก็คือว่าในปัจจุบันนี้ในออสเตรเลียมีอุปสรรคทางการเงินมากมายในการมีครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียนและการดูแลเด็กปฐมวัย ไปจนถึงรายได้ที่สูญเสียไปในขณะที่ลางาน” จอร์จี้ เดนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ The Parenthood กล่าว

“การรวมเงินบำเหน็จบำนาญเข้าไว้ด้วยจะช่วยย้ำให้เห็นว่าการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรแบบมีเงินเดือนนั้นไม่ใช่เงินสวัสดิการ แต่เป็นสิทธิการทำงาน เช่นเดียวกับการลาพักร้อนหรือลาป่วย”

ขยายเวลาลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร

ภายใต้โครงการปัจจุบัน พ่อแม่มือใหม่ในออสเตรเลียมีสิทธิ์ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรแบบมีเงินเดือนเพียง 18 สัปดาห์เท่านั้น เมื่อเทียบกับ 39 สัปดาห์ในสหราชอาณาจักร และ 58 สัปดาห์ในญี่ปุ่น

รัฐบาลมีแผนจะขยายเวลาการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรแบบมีเงินเดือนออกไปอีก 6 สัปดาห์

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ ครอบครัวต่างๆ จะสามารถลาเพิ่มได้ 2 สัปดาห์ (รวมเป็น 22 สัปดาห์) ซึ่งจะเพิ่มเป็น 24 สัปดาห์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 และ 26 สัปดาห์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026

เมื่อขยายเวลาออกไปแล้ว ผู้ปกครองแต่ละคนจะได้รับเวลาลารวม 4 สัปดาห์ โดยยึดหลัก "ใช้หรือไม่ใช้" เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันความรับผิดชอบในการดูแลกันมากขึ้น

นักวิจารณ์โต้แย้งว่าแผนดังกล่าวยังทำไม่สุด และระบุว่าออสเตรเลียจะยังคงตามหลังประเทศ OECD อื่นๆ

โดยมีรายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าว Australian Associated Press

Share
Published 22 August 2024 2:11pm
By Charlie Bell
Source: SBS


Share this with family and friends