ประชาชนในออสเตรเลียอีก 7.4 ล้านคน กำลังจะได้รับวัคซีนบูสเตอร์โควิด-19 เข็มที่สอง หลังการเปลี่ยนแปลงล่าสุดของคำแนะนำจากกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคในการสร้างภูมิคุ้มกันของออสเตรเลีย (ATAGI)
ATAGI แนะนำวัคซีนโควิด-19 โดสที่ 4 ให้กับชาวออสเตรเลียที่มีอายุระหว่าง 50-64 ปี ส่วนผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-49 ปีอาจเลือกที่จะรับการฉีดวัคซีนดังกล่าวได้
มาร์ค บัตเลอร์ (Mark Butler) รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ว่า คำแนะนำดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อจากไวรัสสายพันธุ์ย่อยโอมิครอนที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
“สิ่งนี้จะช่วยมอบการปกป้องเพิ่มเติมจากโรคติดต่อที่มีอาการรุนแรง ซึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน และเป็นการลดภาระให้กับโรงพยาบาลในออสเตรเลีย และระบบสาธารณสุขในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” แถลงการณ์ระบุ
“รัฐบาลออสเตรเลียได้ยอมรับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนของ ATAGI และจะเปิดตัววัคซีนโดสที่ 4 ให้กับผู้มีสิทธิ์รับวัคซีนรายใหม่ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 ก.ค.นี้ โดย ATAGI ไม่สนับสนุนการให้วัคซีนโดสที่ 4 สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีซึ่งอายุน้อยกว่า 30 สิบปี เนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่าประโยชน์จะมีมากกว่าความเสี่ยงในประชากรกลุ่มนี้หรือไม่”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีสาธารณสุขยังระบุอีกว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 อาจเลวร้ายลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ATAGI ย้ำว่าวัคซีนโควิด-19 โดสที่ 4 ไม่เพียงพอที่จะยับยั้งไวรัสได้โดยสมบูรณ์ ซึ่งก็ได้มีการแนะนำความพยายามอื่น ๆ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย
“ผลจากคำแนะนำที่ได้รับการขยายขอบเขตในการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เพียงอย่างเดียวคาดว่าน่าจะมีจำกัด” ATAGI ระบุ
“ATAGI แนะนำว่า มาตรการด้านสาธารณสุขและมาตรการทางสังคมอื่น ๆ นอกเหนือจากการฉีดวัคซีน จะมีผลมากที่สุดต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4 และ BA.5 สิ่งนี้รวมถึงการใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น และการเพิ่มการใช้ยาต้านไวรัสให้ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าได้รับเชื้อโควิด-19 ซึ่งรวมถึงผู้ที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป”
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ผู้เชี่ยวชาญเร่งให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำวัคซีนโดสที่ 4 สำหรับชาวออสเตรเลียที่มีสิทธิ์รับ
ศาสตราจารย์ปีเตอร์ คอลลิญอง (Prof Peter Collignon) ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) กล่าวว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อไวรัสนี้มากกว่าผู้อื่น ควรยังได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรกในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4
“จากการมองดูทุกคนในเรื่องนี้ เรากำลังขาดคนที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้อื่นไป” ศาสตราจารย์คอลลิญอง กล่าวกับโทรทัศน์สกายนิวส์ ในวันนี้ (7 ก.ค.)
“ด้วยการทำเช่นนี้กับประชากรทั้งหมด เช่นเดียวกับที่เรากำลังทำอยู่ และเปรียบเปรยว่าเกือบทุกคนเท่าเทียมกัน เรากำลังขาดผู้ที่จะเสียชีวิตได้มากที่สุดไป ซึ่งผู้คนเหล่านั้นก็คือคนที่มีอายุมากกว่า”
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวันนี้ (7 ก.ค.) ATAGI ระบุว่า ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนบูสเตอร์ฤดูหนาวก่อนหน้านี้จะยังคงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่าในการเป็นโรคติดต่อรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด-19 และควรไปรับวัคซีนบูสเตอร์ฤดูหนาวโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้ใหญ่ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้สูงวัยหรือผู้พิการในสถานดูแล
- ชาวอะบอริจินและชาวเกาะทอเรส สเตรท ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง (ซึ่งการฉีดวัคซีนในครั้งนี้จะเป็นโดสที่ 5)
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ที่มีภาวะทางสุขภาพซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงจากโควิด-19
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ที่มีภาวะความพิการ มีความต้องการด้านสุขภาพที่สำคัญหรือซับซ้อน หรือมีหลายโรคแทรกซ้อนซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้อาการแย่ลง
นพ.คริส มอย (Dr Chris Moy) รองประธานแพทยสมาคมแห่งออสเตรเลีย (AMA) ระบุว่า ATAGI ได้ชะลอการขยายคำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 จนกว่าการระบาดระลอกใหม่จะเป็นภัยที่คุกคาม
“ATAGI อยู่ภายใต้แรงกดดันมาเป็นเวลานานในตอนนี้ ในการประกาศให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 กับทุกคน” นพ.มอย กล่าวกับวิทยุเอบีซี ในวันนี้ (7 ก.ค.)
“เรากำลังเผชิญหน้ากับคลื่นลูกใหม่ซึ่งน่ากังวลอย่างยิ่ง เรากำลังพบเห็นโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งตอนนี้ก็เต็มอยู่แล้ว กำลังเผชิญกับหายนะที่แท้จริงในแง่ของการมีคนไข้จนล้น ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ผมคิดว่าการตัดสินใจนี้กำลังจะเกิดขึ้น”
ขณะที่นายบัตเลอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของออสเตรเลียได้เตือนว่า ประเทศกำลังอยู่ในขั้นเริ่มแรกในการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19
“จำนวนผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้น จำนวนผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นหลายร้อยคนในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ รัฐบาลรัฐต่างๆ รวมถึงรัฐบาลสหพันธรัฐกำลังคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง” นายบัตเลอร์ กล่าว
ศาสตราจารย์คอลลิญอง กล่าวว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ ทำให้การกลับมาติดเชื้อซ้ำกลายเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ขึ้น
“จนกว่าเราจะได้วัคซีนใหม่ที่ทำงานได้ดีว่าในการหยุดเชื้อเหล่านั้น เราจะต้องยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการติดเชื้อรอบสอง”
“แต่มันจะมีความรุนแรงน้อยกว่าโดยทั่วไป และจะมีผลที่ตามมาน้อยกว่าการติดเชื้อครั้งแรก”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทีจีเอไฟเขียว 'ไฟเซอร์' ยื่นจดทะเบียน 2 วัคซีนใหม่ต้านโอมิครอน
สู่ฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ที่ผู้ติดเชื้อมากเป็นประวัติการณ์
แพทย์ในออสเตรเลียยังได้เตือนประชาชนให้ไปรับวัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ขณะที่ออสเตรเลียยังคงอยู่ในฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ที่มีผู้ป่วยมากเป็นประวัติการณ์
ตัวเลขจากรัฐบาลที่ได้เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่า ออสเตรเลียได้เผชิญกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในเดือนพฤษภาคมแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ มีรายงานผู้ติดเชื้อกว่า 65,000 คน ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงการระบาดใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2019
ข้อมูล ณ วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานผู้เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ 54 รายในปีนี้
มาร์ค บัตเลอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า เด็กและวัยรุ่น คือหนึ่งในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
“เกือบ 60% เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยภาวะอาการที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่คือเด็กอายุน้อยกว่า 16 ปี”
“สิ่งที่ผมอยากจะฝากไปยังพ่อแม่ก็คือ ปกป้องลูก ๆ ของพวกเขาด้วยการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ขวบ”
ทั้งนี้ วัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้นมีให้สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
จับตาการอนุมัติวัคซีนโควิดเข็มแรกให้เด็กเล็ก
เป็นไปได้ว่า เด็กเล็กในออสเตรเลียที่มีอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ขวบ จะมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนโควิด-19 โดสแรกเร็ว ๆ นี้
หน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาในสหรัฐ ฯ ได้อนุมัติวัคซีนสองชนิดสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งผลิตโดยไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
เจน ฟรอวลีย์ (Jane Frawley) นักวิจัยด้านสาธารณสุข กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในออสเตรเลียจะทำในสิ่งเดียวกัน
“พ่อแม่ของเด็กที่มีภาวะด้านสุขภาพอื่น ๆ กำลังตั้งตารอการอนุมัติวัคซีนนี้อย่างใจจดใจจ่อ แต่ถึงแม้พ่อแม่ที่มีลูกสุขภาพดี ก็ขอแนะนำว่า ถ้าเมื่อไรที่วัคซีนนี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในออสเตรเลีย พวกเขาควรพิจารณาที่จะพาเด็ก ๆ ที่มีสุขภาพดีไปรับการฉีดวัคซีนด้วยเช่นกัน” คุณฟรอวลีย์ กล่าว
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
แบงก์ชาติออสฯ ขึ้นดอกเบี้ยอีก หวั่นค่าครองชีพทะลุเพดาน