นักท่องเที่ยวเยอรมันหลงป่าอยู่เป็นสัปดาห์ในควีนส์แลนด์เพราะ Google Maps

ฟิลลิปป์ ไมเออร์ และมาร์เซล เชิน กำลังขับรถอยู่ในพื้นที่ทางเหนือของควีนส์แลนด์ เมื่อ Google Maps บอกทางให้ทั้งคู่ขับรถเข้าไปยังเส้นทางลูกรังสายหนึ่ง จากนั้นทั้งสองก็ประสบปัญหาหนัก

A truck bogged down in mud is inspected by Queensland Parks and Wildlife Service Rangers

นักท่องเที่ยวสองคนติดหล่มโคลนและพวกเขาก็หลงทางหลังหลัง Google Maps บอกทางให้พวกเขาเข้าไปยังพื้นที่ห่างไกลในป่าอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งของควีนส์แลนด์ Source: AAP / Supplied

ประเด็นสำคัญ
  • นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 2 คนรอดชีวิตมาได้ หลังหลงป่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในพื้นที่ห่างไกลของอุทยานแห่งชาติ Oyala Thumotang ของรัฐควีนส์แลนด์
  • พวกเขาหลงทางหลังจากที่ Google Maps บอกทางให้พวกเขาเลี้ยวเข้าไปยังถนนลูกรังสายหนึ่ง ซึ่งต่อมารถของพวกเขาติดหล่ม
  • ทั้งคู่ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศและเดินกลับไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด
นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 2 คนโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ หลัง Google Maps บอกทางผิด โดยบอกทางให้พวกเขาขับรถเข้าไปยังป่าอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลของรัฐควีนส์แลนด์

ฟิลลิปป์ ไมเออร์ (Philipp Maier) และมาร์เซล เชิน (Marcel Schoene) กำลังขับรถจากเมืองแคนส์ (Cairns) ไปยังบามากา (Bamaga) ทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์

Google Maps บอกทางให้ทั้งคู่ไปตามทางลูกรังเก่าที่ตัดผ่านเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติ Oyala Thumotang ซึ่งในเวลานั้นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขากังวลอะไร

“เราแค่คิดว่าก็ขับไปเถอะ เพราะบางทีถนนสายหลักอาจถูกปิดเนื่องจากมีน้ำจากแม่น้ำท่วมทาง” คุณ ไมเออร์ กล่าว

แต่หลังจากขับรถบนทางลูกรังเป็นระยะทางเกือบ 60 กม. ทั้งคู่ก็ประสบปัญหาเมื่อรถโฟร์วีลไดรฟ์ของพวกเขาติดหล่มโคลน

“จุดที่เราติดอยู่ มันดูแห้งมาก พื้นผิวแห้ง แต่ภายใต้พื้นผิวมันเปียกแฉะและเป็นโคลน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำรถออกจากจุดนั้น” คุณไมเออร์เล่า

อีกทั้งไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ทั้งคู่จึงต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี พวกเขาจึงเริ่มเดินเท้าออกจากจุดที่รถติดหล่ม
ในตอนแรก พวกนั้นเดินไปยังแม่น้ำอาร์เชอร์ (Archer) เนื่องจากดูเหมือนว่าเป็นระยะทางใกล้ที่สุดที่พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือได้

พวกเขาพยายามข้ามแม่น้ำโดยใช้ต้นไม้ที่ล้มลงไปในน้ำ แต่ไม่นานก็พบว่าแม่น้ำมีน้ำหลากและน้ำไหลเชี่ยวเกินกว่าที่จะข้ามไปได้ เนื่องจากพายุไซโคลนและฝนตกหนักเมื่อไม่นานก่อนหน้านั้น

คุณเชินกล่าวว่า พวกเขานอนอยู่ใต้ต้นไม้ซึ่งใช้เป็นที่พักพิง แต่ก็แทบไม่ได้ปกป้องพวกเขาจากสภาพอากาศเลย

ทั้งคู่จึงเดินย้อนกลับไปทางเก่าพร้อมแบกสัมภาระหนัก 12 กก. เพื่อเดินไปที่เมืองโคเอ็น (Coen) ที่อยู่ใกล้เคียง

พวกเขาเดินตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงเที่ยงวัน เมื่อความร้อนอบอ้าวถึงจุดสูงสุด

ชายทั้งสองเริ่มออกเดินเท้าอีกครั้งตั้งแต่ 16.00 น. จนถึงเที่ยงคืน

“มันยากมากที่จะออกไปจากที่นั่น” คุณเชินกล่าว
An aerial view of a truck bogged down in a Queensland park
ภาพที่ถ่ายโดยนักท่องเที่ยวสองคนที่รถติดหล่มโคลนอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Oyala Thumotang National Park ในควีนส์แลนด์ Source: AAP / Supplied
หนึ่งสัปดาห์หลังจากรถติดหล่มโคลน พวกเขาก็มาถึงเมืองโคเอ็น (Coen) และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเกิดอะไรขึ้น

คุณ โรเจอร์ เจมส์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติควีนส์แลนด์และบริการดูแลสัตว์ป่า กล่าวว่า โชคดีที่ทั้งคู่รอดชีวิตมาได้และร่างกายปกติดี

“เจ้าหน้าที่อุทยานได้ช่วยช่างเครื่องในท้องถิ่นไปนำรถยนต์ของนักท่องเที่ยวทั้งสองกลับคืนมา ซึ่งก็ดีกว่าการช่วยเหลือหน่วยฉุกเฉินในการค้นหาศพ” คุณ เจมส์ กล่าว

เขายังบอกอีกว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่ Google Maps นำผู้คนออกนอกเส้นทางเข้าไปยังป่าอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ

“ผู้คนไม่ควรไว้ใจ Google Maps เมื่อเดินทางในพื้นที่ห่างไกลของควีนส์แลนด์ และพวกเขาจำเป็นต้องปฏิบัติตามป้ายที่บอกทาง หรือใช้แผนที่ทางการ หรืออุปกรณ์นำทางอื่น ๆ” คุณ เจมส์ แนะนำ

ชายทั้งสองรู้สึกโชคดีที่รอดชีวิตจากประสบการณ์ดังกล่าวมาได้ และจะไม่เชื่อ Google Maps ไปเสียทั้งหมดในการผจญภัยครั้งต่อไปอย่างแน่นอน

“มันเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่เป็นประสบการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งผมไม่อยากต้องเจอกับเรื่องแบบนี้อีก” คุณเชิน กล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai

Share
Published 15 March 2024 11:25am
By SBS News, AAP
Presented by Parisuth Sodsai
Source: AAP


Share this with family and friends