สรุปประเด็นเด่นร่างงบประมาณแผ่นดิน 2022

พรรคร่วมรัฐบาลเปิดร่างงบประมาณแผ่นดินฉบับใหม่ด้วยตัวเลขขาดดุลน้อยกว่าที่คาดการณ์ ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองเข้มข้นก่อนศึกเลือกตั้งรัฐบาลสหพันธรัฐ

Source: SBS

เมื่อช่วงคืนวันอังคาร (29 มี.ค.) นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย แถลงร่างงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2022-23 มุ่งเน้นประเด็นค่าครองชีพ อาชีพและค่าจ้าง ตลอดจนการลงทุนภาพใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคง คาดจุดชนวนอภิปรายในแวดวงเศรษฐกิจช่วงก่อนการเลือกตั้งระดับสหพันฐรัฐในเดือนพฤษภาคม

ครั้งนี้กระทรวงการคลังประมาณการเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางเข้มแข็ง ทั้งยังคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดต่ำเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1974

ทว่า ภาวะเงินเฟ้อยังคงส่งอิทธิพลต่อเนื่องกระทบเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ต้องเผชิญความไม่มั่นคงทั้งจากโรคระบาดโควิด-19 และกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน

ปัจจัยเหล่านี้บีบให้ร่างงบประมาณแผ่นที่นายฟรายเดนเบิร์กนำเสนอต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างมาตรการทุ่มเงินบรรเทาแรงกดดันเฉพาะหน้ากับตรึงปริมาณหนี้พอกพูนจากวิกฤตโควิด-19

Australian Treasurer Josh Frydenberg hands down his fourth budget. Source: AAP

คาดว่างบประมาณขาดดุลปี 2022-23 จะอยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณร้อยละ 3.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นับว่าปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขเดิมซึ่งประเมินไว้ที่ 9.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในการทบทวนงบประมาณรอบครึ่งปีเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

“นี่คือเวลาที่เราต้องยึดตามแผนของเรา” นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภา

“แผนเพื่อเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอนาคตที่เข้มแข็งกว่าเดิม”

ต่อไปนี้คือประเด็นที่น่าสนใจจากร่างงบประมาณแผ่นดินของออสเตรเลีย ประจำปี 2022-23

มาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพ

พรรคร่วมรัฐบาลชูแพ็กเกจบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยบรรยายไว้ในร่างงบประมาณว่าเป็นมาตรการ “ชั่วคราวและมุ่งเป้า” มีวัตถุประสงค์เพื่อลดแรงกดดันจากราคาเชื้อเพลิงและราคาอาหารพุ่งสูง

ผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางกว่า 10 ล้านคนในออสเตรเลียจะมีสิทธิ์รับภาษีชดเชยค่าครองชีพ (cost of living tax offset) จำนวน 420 ดอลลาร์ ซึ่งจ่ายให้ครั้งเดียวเมื่อรายการภาษีเงินได้ประจำปี 2021-22 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้

อีกมาตรการเด่นคือปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง (fuel excise tax) จาก 44 เซนต์ต่อลิตร เหลือ 22 เซนต์ต่อลิตร เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้

Source: SBS

กระทรวงการคลังประมาณการว่า ประชาชนที่มียานพาหนะในครอบครองอย่างน้อยหนึ่งคันจะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้เฉลี่ยราว 300 ดอลลาร์ต่อครัวเรือน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังประกาศมอบเงินบรรเทาภาระค่าครองชีพจำนวน 250 ดอลลาร์แก่ผู้รับสวัสดิการรัฐกว่า 6 ล้านคนในเร็ว ๆ นี้

ผู้มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือนี้รวมถึงผู้รับเงินบำนาญ ผู้ดูแล ทหารผ่านศึก คนหางาน คนเกษียณอายุด้วยทุนส่วนตัวและผู้ถือบัตรสิทธิ์ลดหย่อนของรัฐที่เข้าเกณฑ์

Australian Federal budget 2022 Source: SBS

อาชีพการงานและค่าจ้าง

อัตราการว่างงานที่ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4 ในปัจจุบันเป็นผลดีต่อร่างงบประมาณฉบับนี้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพยากรณ์ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงอีกไปอยู่ที่ร้อยละ 3.75 ในช่วงไตรมาสที่ 3

อัตราการเติบโตของค่าจ้างมีแนวโน้ม “เร่งเติบโตขึ้นด้วยอัตราเร็วที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ” โดยพยากรณ์การเติบโตในดัชนีราคาค่าจ้าง (Wage Price Index) เพิ่มจากร้อยละ 2.75 ในปี 2021-22 ไปเป็นร้อยละ 3.25 ในปี 2022-23

ร่างงบประมาณฉบับล่าสุดนี้จัดสรรงบลงทุนก้อนใหม่กว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมการฝึกอาชีพงานช่าง (trade apprenticeship) อาทิ เงินจ่ายให้ลูกมือฝึกอาชีพจำนวน 5,000 ดอลลาร์ และเงินอุดหนุนค่าจ้างสำหรับนายจ้างจำนวน 15,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ยังวางงบประมาณอีกกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์มุ่งปฏิรูปทักษะแรงงานระดับชาติ ซึ่งจะสนับสนุนโอกาสฝึกอาชีพกว่า 800,000 ตำแหน่ง

บริการดูแลเด็กเล็กและสิทธิ์ของผู้ปกครอง

คาดว่ารัฐบาลจะใช้จ่ายกับภาคบริการดูแลเด็กเล็ก (childcare) ทำสติถิใหม่ที่ 10.3 พันล้านดอลลาร์ในปีการเงิน 2021-22 อีกทั้งการเลื่อนใช้ข้อเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเงินอุดหนุนให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 กรกฎาคม เป็น 7 มีนาคม น่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายถึง 2,200 ดอลลาร์ต่อปีแก่ราว 250,000 ครอบครัว

รัฐบาลยังประกาศงบเพิ่มเติม 40 ล้านดอลลาร์ตลอดช่วงสี่ปีจากนี้เป็นทุนสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน โดยเด็กในทุกรัฐและมณฑลจะสามารถเข้าถึงบริการดูแลเด็กก่อนวัยเรียนรวม 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คิดเป็นมูลค่า 1,340 ดอลลาร์ต่อเด็กหนึ่งคน

นอกจากนี้ รัฐบาลจะขยายสิทธิ์โครงการวันลาคลอดหรือเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดโดยได้รับค่าจ้าง (paid parental leave) ซึ่งรวมถึงให้สิทธิ์แก่พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวให้เข้าถึงวันลานี้ได้ 20 สัปดาห์เต็ม กล่าวคือมีวันลาที่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นสองสัปดาห์

ธุรกิจขนาดย่อม

ธุรกิจขนาดย่อมได้ประโยชน์จากงบประมาณปีนี้ผ่านมาตรการจูงใจทางภาษีให้ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและการฝึกอบรมทักษะ

รัฐเสนอลดภาษี 120 ดอลลาร์ต่อทุก 100 ดอลลาร์ที่ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น คลาวด์คอมพิวติ้ง (cloud computing) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และซอฟต์แวร์การบัญชี ตลอดจนเสนอลดภาษีอีก 120 ดอลลาร์แก่ธุรกิจเมื่อใช้จ่ายกับการฝึกทักษะลูกจ้าง

Source: SBS

มาตรการนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ครอบคลุมธุรกิจขนาดย่อมทั่วประเทศที่ว่าจ้างชาวออสเตรเลียเกือบ 8 ล้านคน

เจ้าของที่อยู่อาศัย

รัฐมนตรีการคลังกล่าวว่า การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยคือองค์ประกอบพื้นฐานของนโยบาลรัฐบาลพรรคร่วม (Coalition) ทั้งยังเอ่ยชมโครงการ HomeBuilder Scheme (เงินอุดหนุนก่อสร้างและต่อเติมบ้าน) โครงการ First Home Super Saver Scheme (ออมเงินซื้อบ้านหลังแรกผ่านกองทุนเงินซูเปอร์) และโครงการรับประกันการซื้อบ้าน (Home Guarantee Scheme) ที่ช่วยให้ชาวออสเตรเลียกว่า 160,000 คนซื้อบ้านหลังแรกได้ในปีที่แล้ว

ร่างงบประมาณฉบับใหม่เพิ่มจำนวนสิทธิ์โครงการ Home Guarantee Scheme เป็น 50,000 สิทธิ์ ตลอดจนจัดสรรงบ 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนที่อยู่อาศัยราคาเอื้อมถึงได้ผ่านหน่วยงานอิสระ National Housing Finance and Investment Corporation (NHFIC)

สุขภาพและชุมชนพหุวัฒนธรรม

นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่า รัฐบาลพรรคร่วมยึดมั่นจัดสรรเงินทุนเพื่อโครงการเมดิแคร์ (Medicare) โดยวางแผนลงทุนรวม 1.33 แสนล้านดอลลาร์ในระยะสี่ปี พร้อมทั้งเพิ่มทุนสนับสนุนโรงพยาบาลเกือบ 10 ล้านดอลลาร์เทียบกับงบประมาณฉบับที่แล้ว รวมอยู่ที่ราว 28 ล้านดอลลาร์

ทั้งยังเล็งลงทุน 2.4 พันล้านดอลลาร์ในโครงการสิทธิประโยชน์ด้านยา (Pharmaceutical Benefits Scheme หรือ PBS) รวมถึงการเริ่มรักษามะเร็งเต้านม โรคซิสติกไฟโบรซิส (cystic fibrosis) โรคผิวหนังอักเสบรุนแรง (severe eczema) โรคหอบหืด โรคติดเชื้อเอชไอวี และภาวะหัวใจล้มเหลว

สำหรับชุมชนพื้นเมืองและชมชุนผู้ย้ายถิ่นฐาน รัฐบาลยังจัดสรรงบประมาณเกือบ 35 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาโอกาสเข้าถึงบริหารคุณภาพสูงด้านสุขภาพจิต การป้องกันการฆ่าตัวตาย รวมถึงสุขภาวะทางอารมณ์และสังคม

งบประมาณเกือบ 18 ล้านดอลลาร์จะนำไปจัดบริการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตเพื่อชุมชนพหุวัฒนธรรมในออสเตรเลียโดยเฉพาะ

ส่วนอีก 8 ล้านดอลลาร์เตรียมนำไปจัดหาบริการแปลภาษา มุ่งขจัดกำแพงขวางกั้นการเข้าถึงบริการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตสำหรับชาวออสเตรเลียที่อาจไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

การอพยพย้ายถิ่นฐาน

อัตราการอพยพย้ายถิ่นจากต่างประเทศสุทธิ (net overseas migration) มายังออสเตรเลีย ประเมินว่าจะถึงระดับ 180,000 คนในปี 2022-23 หลังกระเทือนสาหัสจากมาตรการปิดพรมแดนเนื่องจากโควิด-19

สถานการณ์โรคระบาดใหญ่ส่งผลให้ตัวเลขการย้ายถิ่นฐานดิ่งลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

มีการพยากรณ์ว่าอัตราการอพยพย้ายถิ่นจะเพิ่มจาก -89,900 คนในปี 2020-21 มาอยู่ที่ 41,000 คนในปี 2021-22 จากนั้นแตะระดับ 180,000 คนในปี 2022-23 และเพิ่มเป็น 213,000 ในปี 2023-24

Source: SBS

ทั้งนี้ อัตราการอพยพย้ายถิ่นจากต่างประเทศสุทธิช่วงก่อนเกิดภาวะโรคระบาดใหญ่อยู่ที่ประมาณ 190,000 คนเมื่อปี 2019-20

งบประมาณฉบับใหม่นี้มุ่งเน้นความสำคัญของผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะอาชีพ โดยโยกย้ายโควตาที่จัดสรรให้หมวดวีซ่าคู่ครอง (Partner) ไปยังหมวดวีซ่าแรงงานอาชีพ (Skilled Migrant) จำนวน 10,000 วีซ่า รวมแล้วเพิ่มจำนวนวีซ่าประเภททักษะ (Skilled Visa stream) เป็น 109,000 วีซ่า

วีซ่าประเภทครอบครัว (Family stream) ซึ่งรวมถึงวีซ่าคู่ครองและวีซ่าบุตร (Child Visa) วีซ่าบิดามารดา (Parent) และวีซ่าครอบครัวอื่น ๆ (Other Family visas) มีโควตาจัดสรรรวม 50,000 วีซ่า

ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2023 รัฐบาลจะออกวีซ่าคู่ครอง “โดยขึ้นอยู่กับอุปสงค์” มุ่งเสริมสร้างความยืดหยุ่นในแต่ละปี

ทั้งนี้ เพดานโครงการย้ายถิ่นฐานแบบถาวรประจำปี 2022-23 อยู่ที่ 160,000 วีซ่า

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
sbs.com.au/thai
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
facebook.com/sbsthai