รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียกล่าวว่า ในเร็วๆ นี้ ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่เกิดและภาษาที่ใช้จะถูกเก็บรวบรวมจากประชาชนทุกคนที่ไปรับการฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนา
ข้อมูลเดียวกันนี้ได้ถูกเก็บรวมรวมแล้วจากประชาชนทั่วประเทศที่พบผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกตั้งแต่ปลายปี 2020 เป็นต้นมา
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขสหพันธรัฐ บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ถึงการตัดสินใจเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ของกระทรวงว่า มีสาเหตุมาจากการร้องขอข้อมูลเหล่านี้จากกลุ่มชุมชนต่างๆ และจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
พวกเขาหวังว่า ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยระบุชี้ส่วนที่รัฐบาลจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมเกี่ยวกับวัคซีน
“ในปี 2020 กระทรวงสาธารณสุขได้ก่อตั้งกลุ่มที่ปรึกษาด้านสุขภาพเกี่ยวกับโควิด-19 ต่อชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งประกอบด้วยผู้นำจากชุมชนหลากภาษา หลากวัฒนธรรม และหลากชาติพันธุ์ ตัวแทนองค์กรต่างๆ ของพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ แพทย์ และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข” โฆษกกระทรวง กล่าว
“วัตถุประสงค์ของกลุ่มนี้คือให้คำแนะนำด้านสุขภาพโดยอ้างอิงจากประสบการณ์ของผู้คนจากหลากวัฒนธรรม หลากชาติพันธุ์ และหลากภาษา และจากชุมชนต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19”“กระทรวงกล่าวว่า จะขอคำแนะนำจากกลุ่มที่ปรึกษาด้านสุขภาพเกี่ยวกับโควิด-19 ต่อชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรมว่า ควรหรือไม่ที่กระทรวงจะเปิดเผยข้อมูลที่ว่านี้ต่อสาธารณะ ‘ในรูปแบบที่เหมาะสมและใส่ใจต่อประเด็นที่อ่อนไหวต่างๆ’”
NSW Health worker Andrew Santoso receives his COVID-19 vaccination at the Westmead Hospital Vaccination Hub. Source: AAP
ก่อนหน้านี้ การศึกษาวิจัยในต่างประเทศได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างในการรับการฉีดวัคซีนระหว่างผู้คนจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน
ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ราชสมาคมด้านสาธารณสุข (Royal Society for Public Health) ของประเทศอังกฤษได้เผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พบว่า ขณะที่ประชาชนร้อยละ 76 จะรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่เพียงร้อยละ 57 ของผู้ตอบแบบสำรวจที่ไม่ใช่คนผิวขาวกล่าวว่า พวกเขาจะรับการฉีดวัคซีนนี้
อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 35 กล่าวว่า พวกเขาน่าจะเปลี่ยนใจและรับการฉีดวัคซีน หากแพทย์ของพวกเขาส่งเสริมให้ฉีด
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ทำไมชุมชนพหุวัฒนธรรมจึงต้องการข้อมูลวัคซีนโควิดในภาษาของตนเอง
สมาพันธ์สภาชุมชนชาติพันธุ์แห่งออสเตรเลีย (Federation of Ethnic Communities Councils of Australia หรือ เฟคกา) ยินดีกับความพยายามนี้ของรัฐบาล โดยกล่าวว่า “นี่เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม” และเป็นสิ่งที่องค์กรส่งเสริมให้รัฐบาลทำ
“สิ่งที่เราสนใจคือกระแสในชุมชนต่างๆ ในเรื่องการรับวัคซีน” นางแมรี พาเทตโซส ประธานเฟคกา กล่าว “ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการจะรู้คือ แต่ละชุมชนที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรม ภาษาและศาสนาใดโดยเฉพาะมีอัตราการรับการฉีดวัคซีนเป็นอย่างไร”
“หากมันน้อยกว่าอัตราเฉลี่ยของสมาชิกชุมชนโดยรวม เราก็ต้องการที่จะเข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และจากนั้นจะได้มีโครงการการรณรงค์ที่สื่อสารอย่างตรงเป้าหมาย เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างดีที่สุดสำหรับตนเอง”
นางพาเทตโซส ตระหนักว่า ชุมชนบางกลุ่มไม่ได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็วเพียงพอด้านสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
“เราต้องการอย่างยิ่งที่จะพุ่งเป้าไปยังชุมชนเหล่านั้น เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า พวกเขารู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น” ประธานเฟคกา กล่าว
“ใช่ เราได้เห็นการกรณีเกี่ยวกับโควิดเกิดขึ้นสูงในหมู่ชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรม ดังนั้น จึงมีการร้องขอให้รวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการเริ่มฉีดวัคซีนใหม่นี้ให้ประชาชน เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่า เรากำลังติดตามชุมชนต่างๆ เพื่อจะได้รู้ว่า พวกเขารู้ข้อมูลเป็นอย่างดีขณะตัดสินใจ”
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
รู้ได้อย่างไรว่าเมื่อใดจะถึงเวลาฉีดวัคซีนโคโรนาไวรัส
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณควรตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ให้อยู่บ้านและติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณหรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
Settlement Guide: วิธีขอวีซ่าทำงานหลังสำเร็จการศึกษา