ศาสตราจารย์ พอล เคลลี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสหพันธรัฐ ให้การสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลรัฐวิกตอเรีย ในการสั่งล็อกดาวน์ ห้ามการเข้าออกอย่างสิ้นเชิง สำหรับตึกอาคารสงเคราะห์ 9 แห่งของรัฐวิกตอเรีย โดยระบุว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวดและเด็ดขาด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
“ตึกเหล่านั้นมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในพื้นที่เล็กๆ ตึกเหล่านั้นเป็นเหมือนเรือสำราญแนวตั้ง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า การแพร่ระบาดถูกควบคุมให้น้อยลงและประชาชนได้รับการปกป้อง” ศ.เคลลี บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์รา ในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.)
เขากล่าวว่า ทุกรัฐและทุกมณฑลได้ตกลงจะให้ความสนับสนุนตามที่รัฐวิกตอเรียร้องขอ ขณะที่วิกตอเรียกำลังพยายามรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และกล่าวว่าความช่วยเหลือส่วนใหญ่ได้มาถึงรัฐวิกตอเรียแล้ว
“เราไม่เคยได้ห็นการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ในชุมชนที่อยู่ในระดับสูงขนาดนี้ตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นในออสเตรเลีย แต่เราได้เห็นมันในประเทศอื่นๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสมและสมน้ำสมเนื้อ ซึ่งต้องดำเนินการทันทีและได้รับการสนับสนุนจากพวกเราทุกฝ่าย” ศ.เคลลี ระบุ
ขณะเดียวกัน บริการให้ความช่วยเหลือด้านความรุนแรงในครอบครัวและกลุ่มปกป้องสิทธิทางกฎหมาย แสดงความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ในตึกอาคารสงเคราะห์ดังกล่าว ระหว่างช่วงล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาด
องค์กรความรุนแรงในครอบครัวแห่งรัฐวิกตอเรีย (Domestic Violence Victoria) กล่าวว่า ผู้หญิง เด็ก และประชาชนที่มีความเปราะบาง ซึ่งกำลังเผชิญความรุนแรงในครอบครัว ที่อยู่ในตึกอาคารสงเคราะห์เหล่านั้น ต้องได้รับอนุญาตให้ออกมาขอความช่วยเหลือและออกจากตึกได้ หากพวกเขามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
A sign at one of the public housing towers on Racecourse Road in Flemington, Melbourne. Source: AAP
“มีรายงานว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นรู้สึกสับสน หวาดกลัว วิตกกังวล และเมื่อคืนนนี้ ต้องพบกับคำสั่งที่ขัดแย้งกันเองจากตำรวจและเจ้าหน้าที่ ขณะที่พวกเขาพยายามเตรียมตัวให้พร้อมกับการล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาด 5 วันที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน” ศูนย์กฎหมายชุมชน กล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
“เราได้เรียกร้องมานานแล้วให้มีมาตรการทางสุขภาพที่มุ่งเน้นการดูแลและสวัสดิภาพ ไม่ใช่มาตรการที่เป็นเหมือนการลงโทษ ที่จะส่งผลให้เกิดความเสียหายมากขึ้นไปอีก” ทางศูนย์ระบุ
นอกจากนี้ยังการตำหนิการขาดข้อมูลเป็นภาษาอื่นๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตึกอาคารสงเคราะห์เหล่านั้น ที่จำนวนมากไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก
มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวปกป้องการดำเนินการของรัฐบาลวิกตอเรียในการจัดการกับสถานการณ์นี้ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า
“บริการหลากหลายได้เข้าไปยังตึกเหล่านั้นแล้วทั่วพื้นที่ โดยกรรมาธิการดูแลด้านพหุวัฒนธรรมของวิกตอเรีย ยังได้ประสานงานกัลผู้นำชุมชนต่างๆ ให้ส่งสารออกไปยังเครือข่ายกระจายข้อมูลของพวกเขา และให้พวกเขามีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวประสานงานกับชุมชน” นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีวิกตอเรีย กล่าว
“ยังมีล่ามภาษาปฏิบัติงานในตึกดังกล่าว และจะเคาะประตูห้องต่างๆ ในตึกเพื่อช่วยอธิบายคำสั่งและช่วยให้เราเข้าใจความช่วยเหลือที่ผู้เช่าตึกแต่ละคนอาจต้องการ เพื่อช่วยเหลือผู้อาศัยในตึก รัฐบาลวิกตอเรียยังได้จัดอาหารและของใช้จำเป็น รวมทั้งบริการด้านสุขภาพและสุขภาพจิตให้แก่ประชาชนด้วย” นายแอนดรูส์ เสริม
“ได้มีการเริ่มส่งกล่องกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ไปให้ในตึกแล้ว โดยข้างในกล่องจะมีดินสอสี เลโก้ และหนังสือกิจกรรมสนุกๆ และยังมีการตั้งโทรศัพท์สายด่วนเฉพาะกิจ เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า มีการให้ความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงให้แก่ผู้อยู่อาศัยในตึกทุกเมื่อที่พวกเขาต้องการ”
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
บริการแปลและล่ามฟรีในออสเตรเลีย