ความเชื่อที่ผิด ๆ และสิ่งที่แอบอ้างว่ารักษาการป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนาได้ กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัยของบุคคลและสาธารณะ เพื่อลดการแพร่กระจายของข้อมูลผิด ๆ เรานำข้อเท็จจริงมาเปิดโปงความเชื่อผิด ๆ ด้านการแพทย์ต่าง ๆ ที่พบมากที่สุด
เอสบีเอส ได้สอบถาม รศ.สันจายา เซนานายาเค ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์และโรคติดเชื้อ แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) เพื่อให้คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง สำหรับความเชื่อผิด ๆ ที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในชุมชน
รศ.สันจายา เซนานายาเค (Sanjaya Senanayake) Source: Supplied
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 1: จะไม่เกิดอะไรขึ้นกับคนหนุ่มสาวที่แข็งแรงดีหากพวกเขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา มีเพียงผู้สูงอายุและผู้คนที่มี ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพอื่น ๆ เท่านั้นที่มีความเสี่ยง?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
เรารู้ว่า ผู้คนที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะมีอาการติดเชื้อโควิดอย่างเลวร้ายหรือรุนแรง คือผู้คนที่อายุมาก โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปี หรือ 70 ปีขึ้นไป และผู้คนที่มีปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า เราได้เห็นคนหนุ่มสาวที่สุขภาพแข็งแรงล้มป่วยจากเชื้อโควิด ซึ่งลงเอยในห้องดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือแม้แต่เสียชีวิต ดังนั้น แม้ว่าคนหนุ่มสาวที่สุขภาพแข็งแรงจะติดเชื้อนี้ถึงขั้นเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่แน่นอนว่า มันก็เกิดขึ้น ผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิดบางคนมีสุขภาพแข็งแรงดีด้วยซ้ำ
Elderly care in nursing home - doctor with patient. Source: Getty Images
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 2: รังสียูวี (UV) จากแสงอาทิตย์จะฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาที่ติดอยู่ตามพื้นผิวสิ่งต่างๆ ได้ ดังนั้น การอาบแดดจะช่วยฉันให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสนี้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
มีหลักฐานบางอย่างที่ชี้ว่า รังสียูวีอาจส่งผลต่อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่มันไม่ใช้หลักฐานที่หนักแน่นมากนัก ดูเหมือนว่า รังสียูวีบางประเภท ที่เรียกว่า ยูวีซี (UVC) อาจมีประสิทธิภาพดีที่สุดที่จะกำจัดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดต่าง ๆ ได้ แต่รังสีนี้อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ขณะนี้ กำลังมีทดสอบแสงรังสียูวีชนิดพิเศษ ที่เรียกว่า รังสียูวีซี ชนิดคลื่นไกล (Far-UVC) มันอาจไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ยังคงทำอันตรายต่อเชื้อไวรัสต่าง ๆ และเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีการศึกษาวิจัยที่เหมาะสมเกี่ยวกับผลของรังสีนี้ต่อมนุษย์
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 3: การรับประทานกระเทียม การรับประทานวิตามินดีเสริมอาหาร หรือรับประทานยาสมุนไพรและยาแผนโบราณ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรสโคโรนาได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ว่าจะช่วยได้ หากคุณรู้สึกดีขึ้นจากการรับประทานกระเทียม หรืออื่น ๆ หากมันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น นั่นก็ดี แต่อย่าทำเพราะคุณคิดว่ามันจะช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิดได้
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 4: การดื่มน้ำร้อน ดื่มแอลกอฮอล์ หรือน้ำผสมมะนาว จะช่วยล้างคอของฉันให้ปราศจากไวรัสโคโรนาได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
การดื่มน้ำร้อน และดื่มน้ำผสมมะนาว อาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นภายในลำคอ แต่มันจะไม่ช่วยฆ่าไวรัสนี้ มันไม่มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อไวรัสได้
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 5: เชื้อไวรัสอยู่ในลำคอ 2-3 วันก่อนจะแพร่เชื้อลงไปที่ปอด ซึ่งเราสามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยอุณหภูมิที่สูง ดังนั้น การดื่มน้ำร้อนหลังติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะช่วยป้องกันไม่ให้เราป่วยได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ไวรัสนั้นเริ่มจากในลำคอและในจมูก แต่อย่างที่เราคุยกันไปแล้วเกี่ยวกับน้ำร้อนว่า ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่ชี้ว่า น้ำยาบ้วนปาก หรือน้ำร้อน จะฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 6: การดื่มน้ำบ่อย ๆ จะช่วยพัดพาเอาเชื้อไวรัสไปยังกระเพาะของเราได้ ซึ่งที่นั่นจะมีกรดในกระเพาะอาหารที่จะฆ่าเชื้อไวรัสให้ตาย แทนที่จะปล่อยให้เชื้อเข้าสู่หลอดลมของเรา?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าเป็นเช่นนั้น มีเหตุผลด้านสุขภาพมากมายว่าทำไมเราจึงควรดื่มน้ำมาก ๆ แต่ไม่ใช่เพราะเชื้อโควิด-19 คนที่มีเชื้อโควิด-19 อาจพบเชื้อไวรัสนี้ปะปนอยู่ในอุจจาระของพวกเขาด้วย ดังนั้น นั่นจึงหมายความว่า กรดในกระเพาะอาหารไม่ได้ฆ่าเชื้อนี้ได้เสมอไป
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 7: การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลั่นแบบแรง ๆ เช่น วิสกี้ จะช่วยฆ่าเชื้อโรคในลำคอของฉันและช่วยฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงจะช่วยฆ่าไวรัสนี้ได้ แต่มันกลับอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณจากเหตุผลอื่น ๆ ผมสงสัยว่า ข่าวลือนี้อาจมาจากการที่เรารู้ว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ มีประสิทธิภาพดีในการฆ่าเชื้อไวรัสนี้ที่มือของคุณ แต่นั่นมันสำหรับมือ ไม่ใช่ภายในร่างกายของคุณ ซึ่งเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมาก
Can children be poisoned by hand sanitisers? Source: Getty/Flavia Morlachetti
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 8: ยาเพร็พ (PrEP) ที่เป็นยาต้านเอชไอวี สามารถปกป้องเราจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ความเชื่อผิดๆ นี้อาจมาจากการที่เพราะเรามียาสำหรับเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นยาสูตรผสมระหว่างตัวยา โลพินาเวียร์ (Lopinavir) และยา รีโทรนาเวียร์ (Ritonavir) ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ามีฤทธิ์ต่อเชื้อโควิด-19 ได้ อย่างไรก็ตาม จากการทดลองแบบสุ่มที่มีการควบคุมตัวแปร ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ แสดงให้เห็นผลที่น่าผิดหวัง เราจะต้องรอดูกันต่อไปว่าการศึกษาวิจัยโครงการอื่น ๆ จะให้ผลอย่างไร แต่แม้ว่า ยาต้านเอชไอวีตัวนี้จะแสดงให้เห็นว่ามีฤทธิ์ต่อเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ได้หมายความว่ายาสำหรับเชื้อเอชไอวีตัวอื่น ๆ จะออกฤทธิ์ต่อเชื้อโควิด-19 เช่นกัน
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 9: ยาต้านมาลาเรีย ไฮดร็อกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) สามารถรักษาโควิด-19 ได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
จำเป็นต้องมีการสืบค้นกันต่อไป เพราะในห้องแล็บยานี้มีฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัสนี้ และมีการทดลองทางคลินิกโครงการหนึ่งที่ระบุว่าดูเหมือนยานี้จะฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้ แต่ถึงแม้มันออกฤทธิ์อย่างดีต่อเชื้อไวรัสนี้ แต่การศึกษาวิจัยโคงการอื่น ๆ กล่าวว่า ยานี้ไม่ได้ออกฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัสนี้ และอีกปัญหาหนึ่งของการใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน คือมันมีผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น มันอาจส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 10: การอาบน้ำร้อนบ่อย ๆ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ไม่มีหลักฐานใด ๆ ว่าการอาบน้ำร้อนบ่อย ๆ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 11: การล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ (Saline Solution) จะช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
หากโพรงจมูกของคุณอุดตัน นั่นอาจช่วยบรรเทาโพรงจมูกอุดตันได้ แต่นั่นจะไม่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส
ความเชื่อที่ผิดๆ ข้อที่ 12: เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 5จี แพร่เชื้อโควิด-19?
รศ. เซนานายาเค กล่าวว่า:
ผมไม่เข้าใจเลยว่าเทคโนโลยี 5จีจะแพร่เชื้อไวรัสนี้ได้อย่างไร มันไม่เหลวไหล การติดเชื้อโควิดเกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ที่ไม่มี 5 จีด้วยซ้ำ
เรายังได้ถาม รศ. เซนานายาเค เกี่ยวกับคำถามทั่วไปที่ผู้ฟังของเราให้ความสนใจ
Source: Getty Images
เราจะสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้จากการไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือไม่?
ในทางทฤษฎีแล้ว เรารู้ว่าไวรัสสามารถแพร่กระจายได้จากละอองน้ำมูกน้ำลาย เมื่อผู้คนไอหรือจาม พวกเขาสามารถแพร่กระจายละอองน้ำมูกน้ำลายไปได้ และละอองฝอยเหล่านั้นสามารถติดอยู่ตามพื้นผิวของสิ่งต่าง ๆ ซึ่งไวรัสสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ ในทางทฤษฎีแล้ว เป็นไปได้ที่คุณอาจได้รับเชื้อจากการจับต้องสิ่งของในซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น รถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ต หรือที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน เป็นต้น นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเมื่อเราไปข้างนอกไปในชุมชน เราจึงควรทำให้แน่ใจได้ว่าเราทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อย ๆ แต่เพราะคุณมีเชื้อติดอยู่ที่มือ ไม่ได้หมายความว่าคุณติดเชื้อแล้ว คุณมีโอกาสที่จะยับยั้งไม่ให้ตัวคุณติดเชื้อได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงจำเป็นต้องใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ เพราะนั่นจะฆ่าเชื้อไวรัสที่มือได้ และเมื่อคุณจับปาก จับจมูก หรือจับตาของตนเอง จะได้ไม่มีไวรัสปนเปื้อนที่มือของคุณ
เราจะสามารถติดเชื้อไวรัสได้หรือไม่ หากคนที่มีเชื้อโควิดไอหรือจาม แต่อยู่ห่างจากตัวเรา?
มีการศึกษาวิจัยโครงการหนึ่งพบว่า หากคุณไอหรือจาม เชื้อไวรัสสามารถกระเด็นไปได้ไกลถึง 8 เมตร แต่นั่นเป็นเพียงแค่การศึกษาวิจัยโครงการเดียว แต่สิ่งที่เราคิดคือ ผู้ที่อยู่ห่างอย่างน้อย 1.5 เมตรจากผู้ที่ไอหรือจาม ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ถ้าผู้ติดเชื้อไม่ไอหรือจาม บุคคลนั้นจะยังสามารถแพร่เชื้อไวรัสได้ไหม?
ประเด็นที่เรามองว่าใครเป็นบุคคลที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในมุมมองด้านสาธารณสุขแล้ว มีคำจำกัดความ 2 อย่างคือ หากคุณพบปะซึ่งๆ หน้ากับผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 15 นาที หรือหากคุณอยู่ในห้องเดียวกัน หรืออยู่ในพื้นที่ปิดร่วมกับผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ชั่วโมง (แม้ว่าจะอยู่ห่างจากบุคคลนั้นมากกว่า 1.5 เมตร)
เรามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสจากพื้นผิวสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตมากน้อยเพียงใด?
มีความเสี่ยงต่ำที่จะได้รับเชื้อจากพื้นผิวสิ่งของ แต่มันเป็นไปได้ และหากคุณจับต้องพื้นผิวสิ่งของที่บุคคลนั้นเพิ่งจับ ก็อาจมีไวรัสจำนวนมากติดอยู่บนสิ่งนั้น แต่หากบุคคลนั้นจับต้องสิ่งของนั้นเมื่อ 2 วันก่อน ความเสี่ยงของคุณจะน้อยลงมาก
เชื้อไวรัสโคโรนานี้จะมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวของสิ่งของที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตนานแค่ไหน และนานแค่ไหนหากอยู่บนมือคน?
เรารู้ว่าเชื้อไวรัสนี้มีชีวิตอยู่ได้บนพื้นผิวโลหะที่เป็นทองแดงนานสูงสุด 4 ชั่วโมง บนกระดาษหรือกระดาษลังสูงสุด 24 ชั่วโมง และบนพื้นผิวของโลหะสเตนเลสและพลาสติกสูงสุด 72 ชั่วโมง แต่เราไม่รู้ว่าเชื้อนี้มีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไรเป็นมือคน
Source: Pexels
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ปชช.ควรใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ขณะผู้ติดเชื้อพุ่งใน VIC