โควิด-19 กระทบการยื่นภาษีของคุณอย่างไรในปีนี้

ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้คนจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินกล่าวว่า การยื่นแทกซ์รีเทิร์น (Tax Return) ของคุณไม่จำเป็นต้องยากลำบากไปด้วย

Many Australians have been working from home due to COVID-19

Many Australians have been working from home due to COVID-19. Source: Getty Images

นาง คาเรน โฟลต รองอธิบดีสำนักงานภาษีแห่งออสเตรเลีย หรือเอทีโอ (ATO) กล่าวว่า มาตรการทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลออสเตรเลียช่วยเหลือประชาชนในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ส่งผลให้การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปี 2019-2020 นั้นแตกต่างไปจากปกติ

“ผู้คนมากมายอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไปในปีนี้ ผู้คนอาจมีรายได้ในประเภทที่พวกเขาไม่เคยจัดอยู่ในประเภทนั้นมาก่อน และประชาชนอาจมีสิทธิได้รับการลดหย่อนภาษีหลายๆ รูปแบบ นอกเหนือจากที่มีสิทธิตามปกติ” นางโฟลต บอกกับ เอสบีเอส นิวส์

“เราคาดว่าจะได้เห็นการขอเคลมลดหย่อนภาษีสำหรับการทำงานจากบ้านพุ่งสูงขึ้น แต่มีบางประเภทที่เราคาดว่าการขอเคลมจะลดลง เช่น ค่าเดินทางที่เกี่ยวกับการทำงาน”

เอทีโอ ยังคาดว่าจะมีการขอเคลมการลดหย่อนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำงาน และสำหรับอสังหาริมทรัพย์ให้เช่ามากขึ้น
A young man going over his finances ahead of tax time while working from home.
A young man going over his finances ahead of tax time while working from home. Source: Getty

ฉันจะยื่นขอภาษีคืนได้อย่าง?

เจ้าหน้าที่เตือนว่า หากคุณยื่นขอภาษีคืนด้วยตนเอง สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมบัญชี MyGov ของคุณให้เชื่อมต่อกับบริการยื่นภาษี MyTax ของเอทีโอ (ATO)

หากคุณเป็นบุคคลธรรมดายื่นขอภาษีคืน คุณจำเป็นต้องยื่นภายในวันที่ 31 ตุลาคม หากคุณวางแผนจะใช้ตัวแทนดำเนินการด้านภาษี (tax agent) คุณต้องเข้าเป็นผู้ใช้บริการของตัวแทนเหล่านั้นก่อนวันที่ 31 ตุลาคม

นางโฟลต กล่าวว่า เอทีโอตระหนักดีว่าประชาชนในออสเตรเลียประสบความท้าทายอย่างมากในปีการเงินนี้ ดังนั้น จะมีการให้ความสนับสนุนเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษสำหรับทุกชุมชน

“เรามีข้อมูลและความช่วยเหลือหลากหลายที่ช่วยให้การยื่นขอภาษีคืนของคุณง่ายขึ้น รวมทั้งมีข้อมูลหลากภาษา ที่คุณสามารถไปดูได้ที่เว็บไซต์ หรือหากประชาชนต้องการพูดคุยกับเอทีโอด้วยภาษาแม่ของตน พวกเขาก็สามารถโทรศัพท์ไปยังบริการล่ามของเราที่หมายเลข 03 9268 8332”

จะเคลมส่วนลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้างหากคุณทำงานจากบ้าน?

คุณไม่สามารถเคลมค่าผ่อนบ้าน ค่าเช่า ค่าชากาแฟ ค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเล่าเรียนจากบ้านได้

แต่คุณสามารถขอเคลมค่าไฟสำหรับเครื่องทำความอบอุ่น เครื่องปรับอากาศ หรือค่าไฟในการสร้างแสงสว่างในห้องที่คุณทำงาน แต่เฉพาะในจำนวนชั่วโมงที่คุณทำงานเท่านั้น

คุณยังสามารถเคลมค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านที่ใช้ในการทำงาน และเฟอร์นิเจอร์สำหรับพื้นที่ทำงานในบ้านของคุณ

มี 3 วิธีที่คุณสามารถเลือกเพื่อขอภาษีคืนได้

  • วิธีลัดชั่วคราว (Temporary short-cut method) ที่อนุญาตให้คุณขอส่วนลดหย่อนภาษีได้ 80 เซ็นต์ต่อชั่วโมงสำหรับทุกชั่วโมงที่คุณทำงานจากบ้านระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย.
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า วิธีลัดชั่วคราวนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการขอเคลมส่วนลดหย่อนภาษีสำหรับการทำงานจากบ้านของคุณ ซึ่งยังรวมไปถึงค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟ ค่าทำความอบอุ่น และค่าเสื่อมสภาพของอุปกรณ์

วิธีนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ขอลดหย่อนภาษีได้ และสามารถใช้ได้สำหรับหลายคนที่ทำงานในบ้านเดียวกัน

ในระหว่าง วันที่ 1 มี.ค.-30 มิ.ย. หากคุณจำเป็นต้องทำงานจากสำนักงานหรือที่ทำงาน คุณจะสามารถขอเคลมส่วนลดหย่อนภาษีได้สำหรับอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เช่น ถุงมือ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือและสเปรย์ฆ่าเชื้อ หากคุณยังไม่ได้รับการจ่ายเงินคืนให้จากนายจ้างสำหรับการซื้อสิ่งเหล่านี้เพื่อใช้ในที่ทำงาน

เอทีโอ กล่าวว่า มีกฎทอง 3 ประการเกี่ยวกับการขอเคลมค่าใช้จ่ายคือ: คุณต้องใช้เงินของคุณเองและคุณยังไม่ได้รับการจ่ายเงินคืนให้ ค่าใช้จ่ายนั้นต้องเกี่ยวข้องกับการทำงานหารายได้ของคุณโดยตรง และคุณต้องมีหลักฐานเพื่อพิสูจน์

ผู้เสียภาษียังคงสามารถเลือกใช้วิธีที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้ สำหรับคำนวณค่าใช้จ่ายจากการทำงานที่บ้านได้

  • วิธีอัตราคงที่ (Fixed Rate Method) ซึ่งรู้จักกันในชื่อวิธี 52 เซ็นต์ คือคุณสามารถขอเคลมส่วนลดหย่อนภาษีได้ 52 เซ็นต์สำหรับทุกชั่วโมงที่คุณทำงานที่บ้าน เพื่อครอบคลุมค่าไฟ ค่าแก๊ส และค่าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน จากนั้น เพิ่มค่าใช้จ่ายแยกต่างหากสำหรับโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ค่าอุปกรณ์เครื่องเขียน และค่าเสื่อมสภาพของอุปกรณ์
  • วิธีใช้ค่าใช้จ่ายจริง (Actual Expenses Method) กำหนดให้คุณต้องคำนวณค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างที่เกี่ยวกับการทำงาน โดยคำนวณแยกกันและคิดเฉพาะสัดส่วนที่เกิดขึ้นขณะที่คุณทำงานจากบ้านเท่านั้น

ฉันควรขอความช่วยเหลือในการยื่นขอภาษีคืนหรือไม่?

คุณเอลินอร์ คาซาพิดิส เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของ ซีพีเอ ออสเตรเลีย (CPA Australia) องค์กรตัวแทนวิชาชีพบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เธอกล่าวว่า ตัวแทนดำเนินการด้านภาษีสามารถประเมินสถานการณ์ของคุณ และแนะนำวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณในการยื่นขอภาษีคืนได้

“บทบาทของพวกเขาคือช่วยให้กระบวนการราบรื่น พวกเขารู้รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ และรู้ว่ามีส่วนลดหย่อนภาษีและสิทธิประโยชน์ทางภาษีใดบ้างที่อาจใช้ได้ และรู้ว่าจะทำให้ถูกต้องอย่างไร เพราะภาษีอาจเป็นเรื่องซับซ้อน”

“คุณอาจเดินเข้าไปพร้อมเอกสารต่างๆ ของคุณ และพวกเขาจะช่วยคุณพิจารณาสิ่งที่คุณสามารถขอเคลมได้ ช่วยดูรายละเอียดต่างๆ ที่คุณอาจไม่รู้ว่าคุณมีสิทธิและช่วยคุณลดภาษีที่คุณต้องจ่ายอย่างถูกกฎหมาย”

“หากคุณพบความยากลำบากในการจ่ายภาษี หรือคุณต้องการยื่นภาษีย้อนหลังที่คุณไม่ได้ทำมา 2-3 ปี ตัวแทนดำเนินการด้านภาษีสามารถช่วยคุณดำเนินการได้ และช่วยพูดคุยกับสำนักงานภาษีแทนคุณได้ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ และช่วยหาทางออกให้คุณ”

แต่อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนมากที่ยื่นขอภาษีคืนด้วยตนเอง

แล้วถ้าฉันได้รับเงินจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) ล่ะ?

ประชาชนที่ได้รับเงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) จากนายจ้าง ไม่ต้องทำอะไรแตกต่างไปจากการยื่นภาษีตามปกติ เนื่องจากเงินดังกล่าวถูกรวมลงไปเป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คุณได้รับ ซึ่งถูกระบุอยู่ในรายงานรายได้ (income statement) ตามปกติของคุณอยู่แล้ว โดยรายงานรายได้ดังกล่าวเรียกกันว่า Payment Summary ซึ่งจะสามารถดูรายงานนี้ได้จากบัญชี MyGov ของคุณเท่านั้น

หากคุณใช้ตัวแทนดำเนินการด้านภาษี พวกเขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้เช่นกัน

นางโฟลต กล่าวว่า สถานการณ์จะแตกต่างออกไป หากคุณเป็นผู้ประกอบกิจการเจ้าของคนเดียว (sole trader)

“หากคุณได้รับเงินอุดหนุนรายได้ จ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) ในฐานะผู้ประกอบกิจการเจ้าของคนเดียว (sole trader) คุณจำเป็นต้องเพิ่มเงินส่วนนี้ลงไปในส่วนรายได้จากธุรกิจของคุณ ซึ่งนั่นสำคัญมาก” นางโฟลต รองอธิบดีเอทีโอ ย้ำ

แล้วถ้าฉันได้รับเงินจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker) ล่ะ?

หากคุณได้รับเงินสวัสดิการคนว่างงานจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker) และเงินช่วยเหลือจากผลของไวรัสโคโรนา (Coronavirus Supplement) คุณจะต้องแจ้งเป็นรายได้ของคุณเมื่อคุณยื่นขอภาษีคืน

มันเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่แตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีรายได้อื่นหรือไม่

“เอทีโอ จะรวมเงินเหล่านั้นลงไปอัตโนมัติสำหรับการยื่นขอภาษีคืนของคุณ ในส่วนของการตรวจสอบเงินและเบี้ยเลี้ยงที่ได้รับจากรัฐบาลออสเตรเลีย โดยปกติแล้วข้อมูลส่วนนี้จะพร้อมสำหรับคุณภายในต้นเดือนกรกฎาคม แต่หากคุณยื่นขอภาษีคืนทันทีเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม คุณจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลเหล่านี้พร้อมสำหรับคุณแล้ว” นางโฟลต์ กล่าว

หากนายจ้างจ่ายเงินค่าเลิกจ้างให้คุณก่อนที่รัฐบาลจะประกาศโครงการเงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) เงินดังกล่าวจะต้องถูกรวมลงไปในส่วนของเงินเดือนและค่าจ้างของคุณด้วย

ถ้าฉันถอนเงินซูเปอร์แอนนูเอชันออกมาใช้ก่อนกำหนดล่ะ?

หากคุณถอนเงินซูเปอร์แอนนูเอชัน (เงินเก็บหลังเกษียณ) ออกมาใช้ก่อนกำหนด จำนวนใดๆ ที่ถอนออกมาเป็นเงินที่ไม่ต้องเสียภาษี ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องรายงานเงินส่วนนี้ในการยื่นภาษีของคุณ
雪梨住宅物業價格錄得 16 個月以來最大跌幅
雪梨住宅物業價格錄得 16 個月以來最大跌幅 Source: SBS

เคลมอะไรได้บ้างหากคุณมีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า?

ประชาชนกว่า 2 ล้านคนมีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในออสเตรเลีย และกว่าร้อยละ 60 ของอสังหาริมทรัพย์สร้างรายได้ให้น้อยกว่าต้นทุน

ผู้เช่าจำนวนมากกำลังจ่ายค่าเช่าที่ลดลงจากอัตราค่าเช่าปกติ หรือหยุดจ่ายค่าเช่า เนื่องจากรายได้ของพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19

“เรารู้ว่าเจ้าของบ้านเช่ามากมายได้รับค่าเช่าที่ลดลง หรือบางทีถูกเลื่อนการจ่ายค่าเช่าออกไป แต่พวกเขาอาจยังคงมีค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่คงเดิมอยู่ ดังนั้น จึงสมเหตุสมผลที่จะคาดการณ์ได้ว่าเจ้าของบ้านเช่าบางคนอาจขาดทุนเพิ่มขึ้นปีนี้”

ค่าเช่าจะต้องถูกรวมลงไปเป็นรายได้เมื่อมีการจ่ายค่าเช่านั้น หมายความว่าหากค่าเช่าถูกเลื่อนการจ่ายออกไปจากกว่าจะถึงปีการเงินหน้า ก็ไม่ต้องรวมค่าเช่าเหล่านั้นลงไป แต่เงินชดเชยที่จ่ายให้จากบริษัทประกันสำหรับการสูญเสียรายได้จากค่าเช่า จะต้องรวมลงไปในรายได้ที่ต้องสำแดงในการยื่นภาษีด้วย

ขณะที่ธนาคารหลายแห่งได้อนุญาตให้เลื่อนการชำระเงินกู้สำหรับผู้ที่กำลังเดือดร้อนในการจ่ายเงินกู้ซื้อบ้าน ดอกเบี้ยที่กำลังถูกเก็บสำหรับเงินกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ใช้เช่าเหล่านั้น ยังคงมีสิทธิที่จะนำมาขอลดหย่อนภาษีได้

นอกจากนี้ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้เช่ายังสามารถขอลดหย่อนภาษีเป็นเงินจำนวนไม่น้อยได้จากค่าเสื่อมราคาของอสังหาริมทรัพย์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และลักษณะของอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่ง

จะหาความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้จากไหน?

ดร.แอน เคย์อิส-กุมาร์ เป็นนักวิจัยเกี่ยวกับปัญหาเรื่องภาษีที่ประชาชนและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังเดือดร้อนทางการเงินต้องเผชิญ

เธอยังเป็นผู้อำนวยการที่ก่อตั้งคลินิกภาษี (Tax clinic) ของมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นบริการภาษีที่ดำเนินการอย่างเสรี ให้บริการฟรีและเป็นความลับ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในออสเตรเลียเรื่องภาษี

“ปัญหาหลักๆ สามอย่างที่เราได้พบคือ ภาระหนักทางใจในการที่จะต้องจัดการเกี่ยวกับภาษี”

“คนจำนวนมากมีรายงานภาษีที่ไม่ได้ยื่นมาหลายปีซึ่งต้องทำย้อนหลัง ดังนั้น มันจึงไปถึงจุดที่ว่า หลังจาก 2-3 ปีผ่านไป มันทำให้เกิดความรู้สึกท่วมท้น และนั่นทำให้ยากขึ้นไปอีกที่จะกลับมาตามทันจนอยู่ในภาวะปกติได้ และมันมีแง่มุมของความไม่แน่นอนด้วย”

“มีบริการช่วยยื่นภาษี ATO Tax Help ซึ่งเป็นบริการฟรีและดำเนินการโดยเอทีโอ และมีบริการให้คำแนะนำอย่างอิสระจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านภาษี แต่ยังคงมีช่องว่างระหว่างบริการเหล่านั้น”

คุณเอลินอร์ คาซาพิดิส ที่ปรึกษาด้านนโยบายของ ซีพีเอ ออสเตรเลีย (CPA Australia) กล่าวว่า ปี 2020 เป็นปีประวัติศาสตร์ที่จะไม่เหมือนกับปีอื่นใด

“มันเป็นปีที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้หลายอย่างหยุดชะงักไปอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่ก่อนเกิดไฟป่า ก็มีเหตุการณ์ความแห้งแล้งและน้ำท่วม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อการทำมาหากินของประชาชน ทั้งด้านการเงินและด้านจิตใจ”

“ช่วงเวลาของการยื่นภาษีปีนี้ สิ่งเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่เอทีโอและรัฐบาลออสเตรเลียต้องคำนึงถึง ดังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องมีมาตรการที่เห็นอกเห็นใจและเข้าใจสถานการณ์ของประชาชนที่เป็นอยู่ขณะนี้ และสถานการณ์ที่พวกเขาได้ประสบมา และต้องเข้าใจถึงความยากลำบากที่ชาวออสเตรเลียกำลังเผชิญ”
คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

 


Share
Published 2 July 2020 2:40pm
By Marcus Megalokonomos
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends