This article is more than 2 years old
สิ่งที่เรารู้ในขณะนี้เรื่องการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้เด็ก 5-11 ปีในออสเตรเลีย
หลังจากวัคซีนไฟเซอร์ได้รับการอนุมัติเฉพาะกาลให้ฉีดแก่เด็กที่อายุน้อยๆ เพียง 5 ขวบได้ และโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้เด็กๆ จะเริ่มในเดือนมกราคม เราจึงได้สอบถามนักระบาดวิทยาว่า คำแนะนำเกี่ยวกับขนาดยาและความเสี่ยงนั้นต่างกันอย่างไรเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่
Published 7 December 2021 5:01pm
By Akash Arora
Source: SBS News
Image: An 11-year-old receives a Pfizer vaccine in Hadera, Israel. (Getty)
คณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (Australia’s Therapeutic Goods Administration หรือ TGA) ได้อนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ ให้ฉีดให้เด็กที่อายุน้อยๆ เพียง 5 ขวบได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 ธ.ค.)
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทีจีเอ (TGA) อนุมัติวัคซีนต้านโควิดสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปในวันที่ 22 กรกฎาคม และการให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับผู้ใหญ่ในวันที่ 26 ตุลาคม และโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้เด็ก 5-11 ขวบนี้คาดว่าจะเริ่มในเดือนหน้า หากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่ปรึกษาด้านวัคซีนของประเทศ
“ทีจีเอได้ทำการประเมินอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน โดยพิจารณาแล้วว่าวัคซีนนี้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆ และชาวออสเตรเลีย ที่เด็กอายุ 5 ถึง 11 ปีที่จะได้รับการฉีดวัคซีน” นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหพันธรัฐ ระบุในงานแถลงข่าว ในเมลเบิร์นเมื่อวันอาทิตย์
ฉันจะพาลูกไปฉีดวัคซีนได้เมื่อไหร่?
การเปิดตัววัคซีนไฟเซอร์ (Comirnaty) ซึ่งเป็นวัคซีน mRNA สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 10 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงต้นปีการศึกษา
กระบวนการอนุมัติวัคซีนของรัฐบาลออสเตรเลียนั้นมีสองส่วน เมื่อผ่านส่วนของทีจีเอไปแล้ว ขณะนี้ขั้นตอนสุดท้ายจึงอยู่ในส่วนของกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (Australian Technical Advisory Group on Immunisation หรือ ATAGI)
ATAGI จะประเมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเหมาะสมของวัคซีนสำหรับเด็กในกลุ่มอายุนี้ จากนั้นจะแนะนำว่าควรให้วัคซีนแก่เด็กทุกคนพร้อมกัน หรือแนะนำให้ฉีดเฉพาะเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเป็นกลุ่มแรกก่อน
นอกจากนี้ ATAGI ยังจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการฉีดให้เด็ก รวมถึงระยะห่างระหว่างวัคซีนแต่ละโดสด้วย
“ATAGI จะประเมินรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ … จำนวนโดสที่จำเป็นต้องฉีดสำหรับเฉพาะเด็กในกลุ่มนี้รวมถึงระยะห่างระหว่างการฉีดแต่ละโดส” ศ.อเล็กซานดรา มาร์ตินิอัก ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าว
A health worker prepares to vaccinate a girl at the Sanford Civic Center in the US. Source: LightRocket/Getty Images
“ผู้ปกครองบางคนต้องการให้ลูกฉีดยาสองโดสก่อนปีการศึกษาใหม่ แต่เห็นได้ชัดว่าเราต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดในทางการแพทย์”
การอนุมัติ "เฉพาะกาล" ของไฟเซอร์สำหรับเด็กในกลุ่มอายุนี้หมายความว่า การอนุมัติครั้งนี้จะมีอายุ 2 ปี โดยในระหว่างนั้นทีจีเอจะดำเนินการประเมินไฟเซอร์อย่างต่อเนื่อง โดยอิงจากข้อมูลที่ผุดขึ้นมาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งเป็นวัคซีน mRNA เช่นกันนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของทีจีเอ
มีคำแนะนำขนาดยาเท่าไรให้แก่เด็ก?
ขนาดยา (dosage) ที่แนะนำสำหรับเด็กจะแตกต่างจากที่ฉีดให้สำหรับผู้ใหญ่
สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ขนาดยาหนึ่งโดสจะมีปริมาณ 10 ไมโครกรัม สำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีหรือมากกว่าจะมีขนาดยา 30 ไมโครกรัมในหนึ่งโดส
ขวดบรรจุวัคซีนที่มีฝาปิดสีส้มจะเป็นวัคซีนที่ใช้ฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปี ซึ่งต่างจากขวดสีเทาหรือสีม่วงที่ใช้กับกลุ่มผู้ที่มีอายุที่มากกว่า
"นั่นจะช่วยให้ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนรู้ว่าพวกเขากำลังหยิบอะไรออกมาจากตู้เย็น" ศ.อเล็กซานดรา มาร์ตินิอัก กล่าว
ทำไมเราต้องฉีดวัคซีนให้เด็ก?
แม้ว่าความเสี่ยงที่เด็กจะป่วยอย่างรุนแรงจากโควิด-19 จะต่ำ แต่มีเด็กจำนวนไม่มากนักที่ติดเชื้อโควิดและอาจสามารถป่วยหนักได้ ส่งผลให้อาจรักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิต
ระหว่างเดือนมีนาคมถึงตุลาคม เด็กกว่า 1.9 ล้านคนอายุระหว่าง 5-11 ปีในสหรัฐอเมริกาพบผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ตามข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention) ในจำนวนนั้นกว่า 8,300 รายต้องรักษาในโรงพยาบาล และ 94 รายเสียชีวิต
สหภาพยุโรป แคนาดา และอิสราเอลได้อนุมัติไฟเซอร์สำหรับฉีดให้เด็กเล็กด้วยเช่นกัน ในขณะที่ราว 10 เปอร์เซ็นต์ของเด็กอายุ 5-11 ปีในสหรัฐอเมริกาได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว
“ในออสเตรเลีย ประมาณ 1 ใน 5 ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งเป็นจำนวนที่มากอยู่” ศ. มาร์ตินิอัก กล่าว
คนในกลุ่มอายุนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการอักเสบทั่วร่างกาย (MIS-C) ที่บางครั้งอาจอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งโควิด-19 สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ได้
“แม้ว่าโดยปกติพวกเขาจะเป็นเจ็บป่วยไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการของโควิด-19 เลย แต่บางคนอาจเจ็บป่วยได้ โดยบางคนต้องเข้าโรงพยาบาล บางคนอยู่ในห้องไอซียู และเห็นได้ชัดว่าในต่างประเทศ เราเห็นเด็กจำนวนไม่มากเสียชีวิตเนื่องจากโควิด” ศ. มาร์ตินิอัก กล่าว
รายงานล่าสุดโดยศูนย์วิจัยเด็กของสถาบันเมอร์ด็อก (Murdoch) ชี้ว่า โควิด-19 อาจไม่พบอย่างแพร่หลายในเด็กเหมือนในผู้ใหญ่ แต่เด็กอายุ 5-11 ปีอาจมีอาการต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ และปวดท้อง หลังติดโควิดไปแล้วสามเดือน
“ดังนั้น เนื่องจากวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะฉีดวัคซีนให้แก่เด็กอายุ 5-11 ปี” ศ. มาร์ตินิอัก กล่าว
มีความเสี่ยงใดๆ หรือไม่ในการฉีดวัคซีนให้เด็ก?
ข้อมูลที่ครอบคลุมจากการทดลองกับเด็กในประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ โปแลนด์ และสเปน ได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบจากทีจีเอ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจด้านกฎระเบียบในเรื่องนี้
อาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนที่พบบ่อยที่สุดในการทดลอง ได้แก่ อาการปวดบริเวณที่ฉีด รอยแดงและบวม เหนื่อยล้า ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และหนาวสั่น
“สิ่งเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงที่คล้ายกับที่พบในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ซึ่งมักไม่รุนแรง” ศ. มาร์ตินิอัก กล่าว
ศาสตราจารย์ ฟิโอนา รัสเซลล์ จากศูนย์วิจัยเด็กของสถาบันเมอร์ด็อก (Murdoch) กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตระหนักว่าเด็กหลายล้านคนได้รับวัคซีนสองโดสแล้วในสหรัฐอเมริกา และจากการเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยพบว่าวัคซีนนี้นั้นปลอดภัย
People queue at a Covid-19 vaccination centre in Melbourne Source: AFP
“วัคซีนนี้ถูกพบว่าฉีดแล้วไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายอะไร สร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันได้ดี และมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันเชื้อ SARS-CoV-2 ในการทดลองทางคลินิก” ศาสตราจารย์ ฟิโอนา รัสเซลล์ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (6 ธ.ค.)
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) และภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (อาการบวมและการระคายเคืองของเนื้อเยื่อรอบหัวใจ pericarditis) เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยมากสองอย่างของวัคซีนไฟเซอร์
ในสหรัฐอเมริกา ผู้ชายน้อยกว่า 200 คนต่อ 1 ล้าน และผู้หญิงน้อยกว่า 30 คนต่อ 1 ล้านคนในกลุ่มอายุ 12-15 ปี รายงานว่าเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีน
“ในขณะที่ยังไม่มีข้อมูลที่ตีพิมพ์แล้วเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี แต่ก็ไม่มีรายงานเหตุการณ์ที่เด็กได้รับผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากวัคซีน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ให้ความมั่นใจได้อย่างมาก” ศ.สันจายา เซนานายาเค ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและรองศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียระบุในคำแถลง เมื่อวันจันทร์
วัคซีนจะมีประสิทธิภาพต่อเชื้อโอไมครอนหรือไม่?
นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกต่างแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่น่ากังวล
รายงานเบื้องต้นในสหรัฐชี้ว่า เชื้อสายพันธุ์นี้อาจแพร่กระจายได้ง่ายกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ เช่น สายพันธุ์เดลตา แต่ไม่อันตรายเท่า
“จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีระดับความรุนแรงมากนักสำหรับเชื้อสายพันธุ์นี้” ศ. แอนโธนี เฟาซี ประธานที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อวันจันทร์
แม้เราจะยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีน แต่ ศ. มาร์ตินิอัก กล่าวว่า “มีความรู้สึกอย่างทั่วไปว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพอยู่บ้าง”
“มันไม่ใช่ว่า 'ไม่มีประสิทธิภาพเลย' หรือ 'ใช่ ใช้ได้ผล' มันจะมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง” ศ. มาร์ตินิอัก กล่าว
นี่จะเป็นการยุติลงของการต้องปิดโรงเรียนหรือไม่?
โรงเรียนมากกว่า 270 แห่งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องปิดตัวลงเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ประมาณ 2 ใน 3 เป็นโรงเรียนประถมศึกษาที่เด็กส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์ที่จะรับการฉีดวัคซีน มีศูนย์ดูแลเด็กเล็กราว 300 แห่งได้รับผลกระทบเช่นกัน
การติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนยังทำให้โรงเรียนต้องปิดลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวในรัฐวิกตอเรีย ในสัปดาห์ที่แล้วการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน 36 กลุ่มจากทั้งหมด 51 กลุ่มเกิดขึ้นที่โรงเรียน
“เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน หลายสิ่งหลายอย่างจึงยังคงไม่มีข้อมูลแน่ชัด ที่จะระบุได้ว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นอย่างไรต่อไป” ศ. มาร์ตินิอัก กล่าว
“แต่เรารู้ดีว่า การฉีดวัคซีนช่วยลดโอกาสที่คุณจะติดเชื้อโควิด และลดโอกาสที่จะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ดังนั้นการฉัดวัคซีนให้แก่เด็กจะช่วยลดโอกาสที่เด็กจะนำเชื้อโควิดไปติดคนอื่นที่โรงเรียน หรือติดเชื้อโควิดที่โรงเรียน หรือนำเชื้อไปติดคนอื่น”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
โควิด-19 อัปเดต: ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มอีก
Share
