LISTEN TO
Settlement Guide: สปอนเซอร์คนที่คุณรักให้อพยพมาออสเตรเลีย
SBS Thai
09/08/202112:52
การย้ายถิ่นในระหว่างปี 2021-22 ถูกกำหนดจำนวนไว้ที่ 160,000 วีซ่า โดยประมาณครึ่งหนึ่งสงวนไว้ให้วีซ่าครอบครัว (Family Stream)
โดยจากจำนวนทั้งหมด 77,300 วีซ่าที่อยู่ภายใต้วีซ่าประเภทครอบครัว มี 72,300 เป็นวีซ่าคู่ครอง (Partner visas) 4,500 เป็นวีซ่าสำหรับผู้ปกครอง และ 500 วีซ่าสำหรับวีซ่าครอบครัวประเภทอื่น
นายเจมส์ เบย์ ประธานทนายความที่วีซ่า แพลน (Visa Plan) กล่าวว่าผู้สมัครอาจสามารถสมัครวีซ่าคู่ครองได้ หากพวกเขาแต่งงานหรือมีความสัมพันธ์ฉันท์คู่ครองโดยพฤตินัย (De Facto relationship) กับพลเมืองหรือผู้พำนักถาวรของออสเตรเลีย
“ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ $7,800 ดอลล่าร์สำหรับการยื่นขอวีซ่าคู่ครอง เพิ่มค่าตรวจสุขภาพไปอีก $300 ดอลล่าร์ และขึ้นอยู่กับว่าคุณอาศัยอยู่ในประเทศอื่นกี่ประเทศก่อนหน้านี้ เพราะคุณต้องขอหนังสือรับรองความประพฤติจากที่นั่น โดยทั่วไปเราเห็นว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี นับตั้งแต่วันที่ยื่นวีซ่าจนถึงวันที่ได้รับอนุมัติสถานะผู้พำนักถาวร ผมคิดว่าเหตุผลของการใช้เวลาดำเนินการนาน เพราะว่ากระทรวงต้องการแน่ใจว่าความสัมพันธ์จะไม่ยุติ และเป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริงและจะคงอยู่ต่อไป”
วีซ่าคู่ครองอนุญาตให้คู่รักสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในออสเตรเลีย และมีสถานะเป็นผู้พำนักถาวร Source: Getty Images/Tim Robberts
นายเบย์กล่าวว่ากระทรวงมหาดไทยพิจารณาประเมินการยื่นขอวีซ่าคู่ครองอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์นั้นแท้จริง
กระทรวงประเมินใบสมัครอย่างเข้มงวด มันอาจดูเหมือนเป็นการล่วงล้ำเล็กน้อย แต่ผู้สมัครต้องทำให้กระทรวงพึงพอใจกับการให้ข้อมูลตามที่กำหนด ซึ่งมากกว่ารูปถ่ายและใบแจ้งยอดบัญชีชื่อร่วม คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณใช้ชีวิตร่วมกันในบริบททางสังคม การเงิน และการใช้ชีวิต
นายเบน วัตต์ ทนายความด้านการย้ายถิ่นฐานที่ วีซ่า เอ็นวอย (VisaEnvoy) กล่าวว่าการยื่นวีซ่าคู่ครองสามารถนำไปสู่สถานะผู้พำนักถาวรได้โดยตรงในบางสถานการณ์ แต่โดยปกติแล้ว จะแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน ไม่ว่าผู้สมัครจะยื่นในประเทศหรือจากต่างประเทศ
“สำหรับการที่จะตัดสินใจดำเนินการสถานะพีอาร์ของคุณโดยตรง วิธีที่ทำได้คือคุณต้องมีความสัมพันธ์กันเป็นเวลา 3 ปี เช่น คุณอยู่ด้วยกันเป็นเวลาสามปี หรือคุณอยู่ด้วยกันสองปีและมีบุตรด้วยกัน หากนั่นไม่ใช่กรณีของคุณ เขาจะดำเนินการวีซ่าของคุณด้วยวิธีที่จะใช้เวลาดำเนินการภายใน 12-24 เดือน เมื่อถึงกำหนดในเกณฑ์ 24 เดือน เขาจะพิจารณากรณีของคุณอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังอยู่ด้วยกันและยังรักกัน หลังจากนั้นเขาจะดำเนินการในขั้นตอนที่สอง ซึ่งคือขั้นตอนของสถานะผู้พำนักถาวร”
หากคุณต้องการให้บิดามารดาของคุณมาอยู่ออสเตรเลีย คุณเบย์กล่าวว่าขั้นตอนแรกคือการตัดสินใจเรื่องความเชื่อมโยงของครอบครัวของคุณในออสเตรเลีย หรือที่เรียกว่าการทดสอบความสมดุลของครอบครัว (balance of family test)
“วีซ่าผู้ปกครองมี 7 ประเภท มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความสมดุลของสมาชิกครอบครัว อายุ และสถานะทางการเงิน เพื่อการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ถูกต้อง คำถามแรกคือครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกครอบครัวเป็นคนออสเตรเลียหรือไม่ ในฐานะพลเมืองหรือผู้พำนักถาวร หากคำตอบคือไม่ ทางเลือกที่มีคือวีซ่าซับคลาส 870 วีซ่าสปอนเซอร์ผู้ปกครองแบบชั่วคราว (Sponsor Parent Temporary Visa) ที่มีอายุ 3 ปี และต้องสมัครใหม่เมื่อวีซ่าหมด”
วีซ่าซับคลาส 870 หรือวีซ่าสปอนเซอร์ผู้ปกครองแบบชั่วคราวเริ่มต้นใช้เมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นประโยชน์กับครอบครัวที่ไม่ผ่านการทดสอบสมดุลของครอบครัว โดยวีซ่าจะอนุมัติให้เป็นเวลา 3-5 ปี และค่าธรรมเนียมสามารถแบ่งจ่ายได้ 2 งวด นายวัตต์อธิบาย
“สำหรับวีซ่าซับคลาส 870 ค่าธรรมเนียมแรกเริ่มคือ $1,000 ดอลล่าร์ และอีก $4,000 ดอลล่าร์สำหรับวีซ่าที่มีอายุ 3 ปี ซึ่งสามารถจ่ายเมื่อสิ้นสุดการดำเนินการ ด้วยราคาทั้งหมด $5,000 ดอลล่าร์ คุณสามารถให้พ่อแม่ของคุณอยู่ที่นี่ได้ 3 ปี และค่าธรรมเนียมแรกเริ่มของการยื่นสมัครวีซ่าที่มีอายุ 5 ปีคือ $1,000 ดอลล่าร์ โดยชำระงวดที่สองก่อนวีซ่าจะอนุมัติอีก $9,000 ดอลล่าร์”
หากผู้ปกครองของคุณผ่านเกณฑ์การทดสอบสมดุลครอบครัว พวกเขามีทางเลือกวีซ่า 6 ประเภท โดยขึ้นอยู่กับว่ายื่นวีซ่าในประเทศหรือต่างประเทศ อายุของบิดามารดา และสถานะทางการเงิน
วีซ่าที่สามารถยื่นเป็นผู้พำนักถาวรได้ (Permanent Contributory Parent Visa) ราคาประมาณ $48,000 ดอลล่าร์ต่อหนึ่งท่าน สามารถแบ่งจ่ายได้โดยการแบ่งการดำเนินการเป็นสองขั้นตอน โดยผู้สมัครยื่นขอวีซ่าชั่วคราวก่อน (Temporary Contributory Parent Visa) และภายใน 2 ปียื่นขอวีซ่าผู้พำนักถาวร
ทางเลือกที่ราคาไม่สูง คือวีซ่าผู้ปกครอง ซับคลาส 130 (Parent Visa) และวีซ่าผู้ปกครองที่มีอายุ ซับคลาส 804 (Aged Parent Visa) ราคา $6,415 ดอลล่าร์ แต่วีซ่าเหล่านี้ใช้เวลาประมาณ 30 ปีในการดำเนินการ
นายเบน วัตต์ จากวีซ่าเอ็นวอย กล่าวว่าผู้ปกครองที่ได้วีซ่าท่องเที่ยวเข้าออสเตรเลียจากประเทศที่มีข้อตกลงเรื่องการรักษาพยาบาลระหว่างประเทศกับออสเตรเลีย (reciprocal healthcare agreement) การยื่นวีซ่าซับคลาส 804 แบบยื่นในประเทศเป็นทางเลือกที่ดี หากพวกเขาไม่เกี่ยงเรื่องที่ต้องรอวีซ่านาน
“หากคุณยื่นวีซ่าสำหรับผู้ปกครองในออสเตรเลีย สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือคุณจะได้บริดจิ้ง วีซ่า (bridging visa) ซึ่งจะอนุญาตให้คุณอยู่ในช่วงที่วีซ่าดำเนินการ แต่ปัญหาคือพ่อและแม่ของคุณจะสามารถใช้สิทธิ์ได้แค่เมดิแคร์ (Medicare) หากคุณมาจากประเทศที่มีข้อตกลงเรื่องการรักษาพยาบาลระหว่างประเทศกับออสเตรเลีย เช่น สหราชอาณาจักร หรืออิตาลี หรือบางประเทศ แต่ประเทศส่วนมากไม่มีข้อตกลงเรื่องนี้กับออสเตรเลีย เช่น อินเดีย หรือ จีน ซึ่งผมคิดว่าเป็นประเทศอันดับที่หนึ่งและสองที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย”
ออสเตรเลียมีข้อตกลงเรื่องการรักษาพยาบาลระหว่างประเทศกับ 11 ประเทศ ได้แก่ เบลเยี่ยม ฟินแลนด์ อิตาลี มัลตา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ สโลเวเนีย สวีเดน และสหราชอาณาจักร
สำหรับการย้ายถิ่นฐานของบุตร ในกรณีส่วนมากบุตรที่อยู่ในอุปการะสามารถรวมอยู่ในการยื่นขอวีซ่าของผู้ปกครองได้ แต่หากผู้ยื่นคำร้องวีซ่าคู่ครองจากในออสเตรเลียในขณะที่บุตรที่ร่วมอยู่ในใบสมัครนั้นอยู่ต่างประเทศ บุตรสามารถย้ายมาอยู่ออสเตรเลียแบบชั่วคราวด้วยวีซ่าบุตรที่อยู่ในอุปถัมภ์ ซับคลาส 445 (Dependent Child visa) หลังจากที่ผู้ปกครองได้รับอนุมัติวีซ่าคู่ครองแบบชั่วคราวแล้ว
คุณต้องมีความสัมพันธ์กับเด็กในฐานะพ่อแม่บุญธรรม โดยบุตรเป็นเด็กกำพร้า หรือคุณเป็นญาติของเด็ก หรือเด็กเป็นบุตรของคุณโดยกำเนิด ในกรณีที่เด็กเป็นลูกเลี้ยงจะมีขั้นตอนที่ต่างออกไป ซึ่งคือการที่แม่ของเด็กต้องมีสถานะเป็นผู้พำนักถาวรก่อน หรือหากแม่เป็นผู้พำนักถาวรแล้ว แต่เด็กไม่ได้ร่วมอยู่ในการยื่นขอสถานะผู้พำนักถาวรด้วย คุณสามารถยื่นขอวีซ่าให้เด็กได้
วีซ่าสปอนเซอร์บุตรมี 3 ประเภท วีซ่าบุตรโดยกำเนิด วีซ่าญาติที่กำพร้า และวีซ่าอุปการะบุตรบุญธรรม Source: Getty Images/seksan Mongkhonkhamsao
นอกจากนี้ยังมีวีซ่าญาติที่เหลืออยู่ (Remaining Relative Visa) และญาติที่มีอายุมากที่ต้องพึ่งพาอาศัย (Aged Dependent Relative Visa) สำหรับผู้ที่มีญาติเพียงคนเดียวอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย
การยื่นขอวีซ่านี้สามารถยื่นได้ทั้งแบบในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะเวลาดำเนินการที่ใช้เวลานานประมาณ 50 ปี ผู้ยื่นขอวีซ่านี้สามารถอยู่ในออสเตรเลียได้ในระหว่างที่รอผลการอนุมัติวีซ่า หากยื่นวีซ่าภายในประเทศ
คุณสามารถหาตัวเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุดได้จาก หรือติดต่อเอเจ้นท์ดำเนินการที่ลงทะเบียน (registered migration agent)
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่