LISTEN TO
Settlement Guide: การรับบุตรบุญธรรมจากต่างประเทศ
SBS Thai
14/06/202109:55
ปัจจุบัน ออสเตรเลียมีข้อตกลงว่าด้วยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (Adoption) ร่วมกับ 13 ประเทศ ชาวออสเตรเลียสามารถขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมผ่านโครงการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศของรัฐบาล
รายงานอดอปต์ชัน ออสเตรเลีย (Adoption Australia) ประจำปี 2019-2020 ระบุว่า ในปีดังกล่าวมีกรณีรับบุตรบุญธรรมที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 334 กรณี ในจำนวนนี้ 37 กรณีเป็นการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ (Intercountry Adoption) นับว่าลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 15
กระบวนการรับบุตรบุญธรรมเริ่มจากติดต่อหน่วยงานกลางด้านการรับบุตรบุญธรรมประจำรัฐหรือมณฑล (State and Territory Central Authority: STCA) จากนั้นหน่วยงานอาจขอให้คุณกรอกเอกสารแจ้งความจำนง (Expression of Interest) หรือตอบแบบสอบถามประเมินคุณสมบัติเบื้องต้น
หน่วยงานยังอาจขอให้คุณเข้ารับการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ประเมินความเหมาะสมในการรับบุตรบุญธรรม รวมถึงตรวจสุขภาพ ตรวจประวัติอาชญากรรมและบุคคลอ้างอิง
ช่วงที่ผ่านมา การรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศมีระยะเวลารอนานขึ้นเพราะประเทศคู่ความตกลงหลายประเทศมุ่งให้ความสำคัญกับครอบครัวอุปถัมภ์ในประเทศมากกว่าคุณเด็บ บรูค (Deb Brook) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ขอรับบุตรบุญธรรมจากประเทศจีน กล่าวว่า ขั้นตอนที่ใช้เวลานานที่สุดคือหลังจากคำร้องขอรับบุตรบุญธรรมได้รับอนุมัติแล้ว และต้องรอให้อีกประเทศจับคู่ผู้ปกครองกับเด็ก
Australia has active adoption agreements with 13 countries, allowing Australians to adopt children through the intercountry adoption program. Source: Getty Images/Cecilie_Arcurs
“ฝ่ายออสเตรเลียใช้เวลา 1-2 ปีดำเนินการตามระบบ เพราะมีขั้นตอนคัดกรอง อบรมให้ความรู้ รวมถึงตรวจเยี่ยมโดยเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ พอเอกสารของคุณผ่านการอนุมัติแล้ว ขั้นตอนต่อไปอยู่นอกเหนืออำนาจจัดการของออสเตรเลีย เรื่องจะถูกส่งต่อไปรอที่ประเทศที่คุณเลือก”
แต่ละรัฐและมณฑลกำหนดคุณสมบัติของผู้รับบุตรบุญธรรมต่างกัน อีกทั้งพ่อแม่บุญธรรมต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของประเทศกำเนิดของบุตรบุญธรรมด้วย
“ปกติจะจำกัดอายุผู้ปกครองประมาณ 50-55 ปี... บางกรณีมีเกณฑ์รายได้ คุณต้องมีเงินพอเลี้ยงดูบุตรได้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าคุณเคยถูกปรับกี่ครั้ง ใบสั่งจราจรก็นับ ถ้าคุณมีประวัติพวกนี้เยอะเกินไปก็ไม่ผ่านการพิจารณา" คุณบรูคอธิบาย
"แต่ละรัฐไม่เหมือนกัน แต่ละประเทศต้นทางส่งมอบก็พิจารณาต่างกันเพราะพวกเขามีเกณฑ์ของตัวเอง คุณจึงต้องมีคุณสมบัติผ่านทั้งเกณฑ์ของออสเตรเลียและประเทศที่คุณเลือก”รายงานอดอปต์ชัน ออสเตรเลีย ปี 2019-20 ระบุว่า ผู้รับบุตรบุญธรรมส่วนใหญ่อายุระหว่าง 40 ถึง 44 ปี
Children with special needs may be denied a visa if there is a likelihood that their condition will cause a significant cost to the community. Source: Getty Images/SDI Productions
หลังจากรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมหรือเมื่อเริ่มกระบวนการรับบุตรบุญธรรมแล้ว ผู้ปกครองสามารถยื่นขอวีซ่าบุตรบุญธรรม ซับคลาส 102 (Adoption Visa Subclass 102)
คุณอาลี โมจตาเฮดี (Ali Mojtahedi) ทนายที่ปรึกษาจากศูนย์สิทธิและคำปรึกษาด้านการเข้าเมือง (Immigration Advice & Rights Centre) กล่าวว่า เด็กทุกคนที่ย้ายถิ่นฐานมายังออสเตรเลียต้องมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ด้านสุขภาพ
“หากเด็กไม่ผ่านเกณฑ์สุขภาพที่กำหนดไว้เนื่องจากมีภาวะด้านสุขภาพที่อาจก่อเกิดค่าใช้จ่ายจำนวนมากต่อชุมชนหรือนำมาซึ่งอคติในการเข้าถึงบริการ รัฐมนตรีอาจพิจารณายกเว้นข้อกำหนดเหล่านี้บางส่วน" คุณโมจตาเฮดีกล่าว
รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมือง สถานะพลเมือง บริการผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน และกิจการพหุวัฒนธรรม อาจเพิ่มข้อกำหนดอีกข้อหนึ่งที่เรียกว่า ผู้ค้ำประกัน (Assurance of Support)
“บุคคลนี้ต้องสัญญาว่า หากเด็กมาถึงออสเตรเลียแล้วใช้บริการต่าง ๆ ผ่านเซ็นเตอร์ลิงก์ (Centrelink) บุคคลค้ำประกันมีหน้าที่ชำระคืนเงินที่ติดค้าง” คุณโมจตาเฮดีอธิบายพลเมืองหรือผู้พำนักถาวรของออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ อาจขอรับบุตรบุญธรรมผ่านหน่วยงานหรือรัฐบาลต่างชาติขณะอาศัยอยู่ต่างประเทศ (expatriate adoption)
In Australia, all overseas adoptions are only facilitated if the principles and standards of the Hague Convention are met. Source: Getty Images/Mayur Kakade
กรณีนี้รัฐบาลออสเตรเลียมีบทบาทเฉพาะขั้นตอนยื่นขอวีซ่าเท่านั้นหลังจากกระบวนการรับบุตรบุญธรรมเสร็จสมบูรณ์แล้วในต่างประเทศ
“หากรับบุตรบุญธรรมผ่านกรณีผู้อาศัยอยู่ต่างประเทศ ผู้สปอนเซอร์ต้องพำนักในประเทศนั้นมาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน อีกทั้งต้องแสดงให้เห็นว่าวัตถุประสงค์ของการพำนักในประเทศนั้นไม่ใช่เพื่อหลบเลี่ยงกระบวนการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ แต่อยู่ด้วยเหตุผลอันชอบธรรมอื่น ๆ” คุณโมจตาเฮดีกล่าว
ในออสเตรเลีย การรับบุตรบุญธรรมจากต่างประเทศทุกกรณีจะดำเนินการได้ต่อเมื่อสอดคล้องกับมาตรฐานและหลักการของ (Hague Convention on Protection of Children and Cooperation in Respect of Intercountry Adoption) กล่าวคือ การรับบุตรบุญธรรมต้องกระทำโดยมีประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นที่ตั้ง
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลติดต่อหน่วยงานกลางด้านการรับบุตรบุญธรรมประจำรัฐหรือมณฑลได้ที่เว็บไซต์
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ค่าบริการดูแลเด็กของครอบครัวจะลดลงภายใต้แผนใหม่ของรัฐบาล