รายงานล่าสุดเตือนความเสี่ยงโควิดระลอกสอง

The persistent rise of COVID-19 cases in Victoria means people must once again cancel social plans and struggling businesses must wait (File Image).

The persistent rise of COVID-19 cases in Victoria means people must once again cancel social plans and struggling businesses must wait. Source: AAP

รายงานล่าสุดของสถาบันแกรตแทนเตือน การผ่อนคลายข้อจำกัดอาจทำให้ออสเตรเลียเสี่ยงเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกสอง ขณะเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพย้ำ การรักษาระยะห่างทางสังคมและการรักษาสุขอนามัยที่ดียังคงจำเป็นต่อไป


รายงานจากสถาบันแกรตแทน (Grattan Institute) เตือนว่า การผ่อนคลายข้อจำกัดอาจทำให้ออสเตรเลียตกอยู่ในความเสี่ยงจะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกสอง

คำเตือนดังกล่าวมีขึ้น ขณะรัฐวิกตอเรียกำลังรับมือกับการเพิ่มขึ้นอย่างมากของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในแต่ละวัน

สารสำคัญที่เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพเตือนประชาชนคือ การรักษาระยะห่างทางสังคมและการรักษาสุขอนามัยที่ดี ยังคงจำเป็น

กดปุ่ม 🔊ที่ภาพด้านบนเพื่อฟังรายงาน

การผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ เร็วเกินไป อาจนำไปสู่การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกสองได้ในออสเตรเลีย

สถาบันแกรตแทน (Grattan Institute) เตือนเรื่องนี้ ในรายงานล่าสุดของสถาบันที่ใช้ชื่อว่า ‘การออกจากล็อกดาวน์เพราะโควิด-19: ขั้นต่อไปสำหรับบริการด้านสุขภาพของออสเตรเลีย’ หรือ 'Coming out of COVID-19 lockdown: the next steps for Australian health care'

มีการเผยแพร่รายงานดังกล่าว ขณะที่รัฐวิกตอเรียขยายการประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐออกไปอีกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และนำข้อจำกัดบางอย่างกลับมาบังคับใช้ใหม่ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นายแพทย์ สตีเฟน ดักแคตต์ ผู้อำนวยการโครงการด้านสุขภาพของสถาบันแกรตแทน และเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานเรื่องนี้ กล่าวว่า

“ในตอนนั้น โดยเฉพาะรัฐบาลสหพันธรัฐ ขอให้รัฐต่างๆ ยกเลิกข้อจำกัดก่อนเวลา และสิ่งที่เราได้เห็นคือ นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิด การตัดสินใจที่ถูกต้องน่าจะเป็นการให้รักษาข้อจำกัดต่างๆ ไว้นานอีกนิด เพื่อกำจัดการแพร่ระบาดให้ได้มากขึ้นไปอีก ความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่ระบาดจะได้ต่ำลง และเราก็คงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าที่กำลังเป็นอยู่นี้” นพ. ดักแคตต์ ผู้อำนวยการโครงการด้านสุขภาพของสถาบันแกรตแทน กล่าว

จากสถิติของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า กว่าร้อยละ 80 ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในออสเตรเลียในช่วง 7 วันที่ผ่านมา อยู่ในรัฐวิกตอเรีย

ศ.เบรตต์ ซัตตัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า การชะล่าใจ ไม่เอาใจใส่ในมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมมีบทบาทสำคัญที่ทำให้มีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้น
Victoria’s Chief Health Officer Brett Sutton
Victoria’s Chief Health Officer Brett Sutton Source: AAP
“มีความเบื่อหน่ายในเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วโลก การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสนี้ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปีนี้ และมันยากอย่างยิ่งที่เราจะรักษาพฤติกรรมที่ฝืนธรรมชาติไว้ต่อไป เราทุกคนต้องการพบปะเพื่อนฝูง ต้องการพบหน้าครอบครัว ต้องการหยุดพักทางใจจากการทำในสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ ดังนั้น ผู้คนจึงปฏิบัติข้อจำกัดในชีวิตประจำวันน้อยลง นั่นเกิดขึ้นทั่วโลก” ศ.ซัตตัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของวิกตอเรีย ระบุ

นพ. ดักแคตต์ กล่าวว่า สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องกำจัดความชะล่าใจและการไม่เอาใจใส่ในมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม

เขากล่าวว่า หากประชาชนยังคงประมาท การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอาจกลับมาเกิดขึ้นอีกส่วนอื่นๆ ของออสเตรเลีย

“ความชะล่าใจ ความไม่เอาใจใส่นี้ เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องวิตกอยู่ตลอดเวลา ในรัฐวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ ประชาชนยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อไวรัสโคโรนาที่แพร่กระจายอยู่ในชุมชนของเรา ดังนั้น เราจึงต้องระมัดระวังตลอดเวลา” นพ. ดักแคตต์ ย้ำ

เขากล่าวว่า การทำให้แน่ใจได้ว่าประชาชนยังคงไม่ประมาทในเรื่องมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสารที่เข้าใจง่ายและคงเส้นคงวาจากรัฐบาล

“ผมคิดว่าสารที่รัฐบาลวิกตอเรียส่งออกไปคือ 'ดูสิ ผู้คนเหล่านี้ละเมิดข้อจำกัด ผู้คนเหล่านี้ปล่อยให้การระบาดกลับมาอีกครั้ง ดังนั้น เราจึงจะใช้ไม้แข็งกับทุกคน' และส่งสัญญาณว่า ‘เรากำลังจะเข้มงวดมากขึ้นเพื่อยับยั้งไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงจนไม่สามารถควบคุมได้’” นพ. ดักแคตต์ กล่าว

ด้าน ศ.เบรตต์ ซัตตัน กล่าวว่า ทางการของรัฐวิกตอเรียกำลังมุ่งเน้นการให้ความรู้และการให้ชุมชนได้มีส่วนร่วม เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า ประชาชนเข้าใจอย่างแท้จริงถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาระยะห่างทางสังคมต่อไป
Social distancing signs are seen prior to the Round 2 AFL match between the Port Adelaide Power and the Adelaide Crows at Adelaide Oval in Adelaide, Saturday, June 13, 2020. (AAP Image/Kelly Barnes) NO ARCHIVING
ประชาชนยังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ต่อไป Source: AAP
“จะมีความพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนและส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรมในระยะยาว ดังนั้น เราจึงจะมีการไปเคาะประตูบ้านจากหน่วยงานที่ไม่ใช่ของรัฐร่วมด้วย เรามีความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกับกรรมาธิการพหุวัฒนธรรมของวิกตอเรีย ผมเองได้พูดคุยกับกลุ่มศาสนาต่างๆ และเราจะร่วมมือกับผู้นำชุมชนที่ประชาชนไว้วางใจ ร่วมมือกับคณะผู้บริหารเทศบาล กับนายกเทศมนตรี เพื่อใช้ทุกอย่างที่เรามีในการสร้างความตระหนักรู้ เพราะนี่ไม่ใช่แค่ความเพิกเฉยต่อคำสั่งอย่างจงใจเสมอไป แต่บางครั้ง เป็นการขาดความตระหนักรู้” ศ. ซัตตัน เผย

นายแพทย์ สตีเฟน ดักแคตต์ ผู้อำนวยการโครงการด้านสุขภาพของสถาบันแกรตแทน กล่าวว่า การให้ลูกจ้างกลับไปทำงานจากที่ทำงานตามเดิมนั้น เพิ่มความเสี่ยงบางอย่างให้อาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเนื่องจากเชื้อไวรัาโคโรนาแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในที่ร่มหรือภายในอาคาร

เขากล่าวว่า สำนักงานต่างๆ ควรเปิดให้ลูกจ้างกลับไปทำงานตามเดิมอย่างช้าๆ แต่ยังคงให้ประชาชนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ทำงานจากบ้านต่อไป เพื่อจำกัดความเสี่ยงของการติดเชื้อ

“ในที่ทำงาน โดยเฉพาะที่ทำงานใหญ่ๆ จะมีการปฏิสัมพันธ์กันของผู้คนเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในห้องครัว ทั้งในหมู่คนที่เดินไปมาเพื่อพบปะกับคนอื่นๆ มันลำบากมาก เพราะเมื่อเราพูดคุยกับใคร เราก็ต้องการอยู่ใกล้บุคคลนั้นมากกว่ารัศมี 1.5 เมตร มันจะยากสำหรับเราทุกคนที่จะทำเช่นนั้น แต่เราก็จะต้องทำ” นพ. ดักแคตต์ เตือน

เขากล่าวว่า หากมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกสองเกิดขึ้นจริง มาตรการจำกัดที่บังคับให้ชาวออสเตรเลียปฏิบัติตาม จำเป็นต้องเคร่งครัดมากกว่าในการระบาดของเชื้อครั้งแรก

“อย่างหนึ่งเกี่ยวกับโรคติดเชื้อคือ เราต้องพยายามควบคุมมันให้ได้และต้องทำให้ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เราจึงต้องยับยั้งการระบาดผ่านการตรวจเชื้อและการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การปิดห้ามคนเข้าออกในย่านที่เกิดการระบาดหากทำได้ มันจึงหมายความว่า หากเราจะควบคุมการระบาดได้ เราต้องระมัดระวังต่อไป เราต้องเข้มงวดกับมาตรการล็อกดาวน์ต่อไป” นายแพทย์ สตีเฟน ดักแคตต์ ผู้อำนวยการโครงการด้านสุขภาพของสถาบันแกรตแทน กล่าวทิ้งท้าย


 

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share