พรรคร่วมจี้รัฐบาลยกเลิกคำสั่ง 'Direction 99' แทรกแซงการเพิกถอนวีซ่า

QUESTION TIME

รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองแอนดรูว์ ไจล์ส ตอบคำถามในรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ 29 พ.ค. Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE

พรรคร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลกลางยกเลิกคำสั่งที่กำหนดให้ศาลพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลนั้นๆ กับออสเตรเลีย เมื่อพิจารณาการเพิกถอนวีซ่า ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ทางปกครองแห่งออสเตรเลียได้คืนสถานะวีซ่าให้กับชาวนิวซีแลนด์ผู้หนึ่งที่มีความผิดฐานกระทำชำเราผู้อื่น



กด ▶ ฟังรายงานข่าวด้านบน


รัฐบาลสหพันธรัฐอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในเรื่องการย้ายถิ่นฐาน ครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจของรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ศาลพิจารณาความสัมพันธ์ของบุคคลกับออสเตรเลียเมื่อพิจารณาการยกเลิกวีซ่า

 วุฒิสมาชิก พรรค ลิเบอรัล เจมส์ แพเตอร์สัน กล่าวว่านี่เป็นปัญหาการตรวจคนเข้าเมืองเข้าเมืองอีกประเด็นหนึ่ง ของที่รัฐบาลจำเป็นต้องมีการแก้ไข เขาชี้่ว่า
"เมื่อคุณคิดว่ามันจะไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว แต่มันไม่จริง วันนี้เราได้เรียนรู้ว่า อดีตผู้กระทำความผิดทางเพศต่อผู้ไม่บรรลุนิติภาวะ อย่างน้อยสามคน ซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกเนรเทศออกจากออสเตรเลีย เพราะพวกเขาไม่ใช่พลเมืองของเรา ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อได้ เพราะแอนดรูว์ ไจล์ส ออกคำสั่งไปยังกระทรวงของเขาว่า เราไม่ควรเนรเทศคนที่ต้องโทษเช่นนั้น"

 พรรคร่วมเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง แอนดรูว์ ไจล์ส ยกเลิกการออกคำสั่งที่เรียกว่า 'Direction 99' ซึ่งเป็นคำสั่งพิเศษที่ให้ศาลพิจารณาความสัมพันธ์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีต่อออสเตรเลียก่อนจะถูกยกเลิกวีซ่า

ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว พรรคแรงงานได้แก้ไขกฎการเนรเทศ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในเรื่องการย้ายถิ่นฐาน

 อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์จาซินดา อาร์เดิร์นวิพากษ์วิจารณ์ออสเตรเลียในหลายวาระ เกี่ยวกับประเด็นที่ออสเตรเลียเนรเทศชาวนิวซีแลนด์ที่เคยตั้งถิ่นฐานอยู่ในออสเตรเลีย อดีตนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เคยกล่าวว่า

ส่งคนกีวีจริงๆ กลับบ้าน อย่าเนรเทศพลเมืองและนำปัญหาของประเทศคุณออกมาด้วย
อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์จาซินดา อาร์เดิร์น

 ขณะนี้ ความผูกพันกับออสเตรเลียเป็นหนึ่งในห้าประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ทางปกครองแห่งออสเตรเลีย (The Administrative Appeals Tribunal) หรือA-A-T ต้องพิจารณา เมื่อพิจารณาคำตัดสินในการเพิกถอนวีซ่าของผู้กระทำผิดกฎหมาย

และประกอบกับการพิจารณาอื่นๆ เช่นความเสี่ยงต่อชุมชนออสเตรเลีย ประเภทของความผิดที่กระทำ และผลกระทบใดๆ ต่อเด็กที่ไม่ใช่พลเมือง

 ทนายความด้านการย้ายถิ่นฐาน ฮามิช เกลนิสเตอร์ กล่าวว่าคำสั่งดังกล่าวทำให้คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ทางปกครอง สามารถใช้แนวทางการตัดสินใจที่เป็นเอกภาพมากขึ้น เขาอธิบายว่า

 "คำสั่งดังกล่าวสร้างมาตรวัดความยุติธรรมให้การพิจารณา และยังสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ซึ่งหากคุณไม่มีทิศทางในการพิจารณา คุณก็จะใช้ดุลยพินิจที่มันมีขอบเขตกว่างมากภายใต้พระราชบัญญัติและผลการตัดสินก็อาจจะออกมาแบบตามอำเภอใจ หรือมุมมองของผู้ตัดสิน ณ.ขณะนั้น"
 
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองแอนดรูว์ ไจล์ส กล่าวว่า คำสั่ง 'Direction 99' ไม่ได้ตัดสิทธิ์ในการที่คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ทางปกครอง จะนำองค์ประกอบด้านอื่นๆ มาใช้ในการพิจารณาด้วย เขาชี้แจงต่อรัฐสภาว่า

"ผมเรียนสภาดังนี้ว่า คำสั่งดังกล่าว ให้ความสำคัญในการพิจารณากับการทำความผิดร้ายแรงและการใช้ตวามรุนแรงในครอบครัว และการพิจารณาการเพิกถอนวีซ่านั้น ศาลจำเป็นต้องนำทุกองค์ประกอบมาใช้ในการตัดสิน)"

A-A-T ได้คืนสถานะวีซ่าให้กับชายชาวนิวซีแลนด์ที่รู้จักกันในชื่อ C-H-C-Y ซึ่งรับสารภาพในข้อหาข่มขืนลูกติดที่เป็นวัยรุ่นของเขาในปี 2021

โดยที่เขาอาศัยอยู่ในออสเตรเลียมาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยมีแม่ พ่อเลี้ยง ภรรยา และลูกสามคนของเขาอาศัยในออสเตรเลียด้วย และความสัมพันธ์อันยาวนานของเขากับออสเตรเลียเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วีซ่าของเขาไม่ถูกเพิกถอน

 ด้าน สส พรรคลอเบอรัลแดน เทแฮน บอกว่า เหตุผลของรัฐมนตรีไจส์นั้นยังไม่ดีพอ เขาแย้งว่า

"สิ่งแรกที่ต้องแก้ไขคือ คำสั่งของรัฐมนตรี 'Direction 99' ของรัฐมนตรีของแอนดรูว์ ไจล์ส มันเป้นคำสั่งที่ทำให้อาชญากรที่ข่มขืนเด็กหญิงอายุ 13 ปีที่ไม่ใช่พลเมืองของเรายังสามารถอยู่ในออสเตรเลียได้"

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 



 


Share