กด 🔊 เพื่อฟังเรื่องนี้
LISTEN TO
วีซ่าผู้ปกครองอาจต้องรอนานถึง 20 ปี
SBS Thai
30/05/202209:42
คุณเปรมดีพ ซิงห์ แดนดิวาล (Premdeep Singh Dandiwal) และน้องชายของเขาวางแผนให้พ่อแม่ที่อินเดียมาอยู่กับพวกเขาที่อะดิเลด
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 เวลาที่พ่อแม่ของเขาอายุ 60 ปีต้นๆ คุณเปรมดีพยื่นวีซ่าผู้ปกครองประเภทร่วมสมทบทุน (Contributory Parent Visa) ซึ่งจะอนุญาตให้พ่อแม่ของคุณเปรมดีพย้ายมาออสเตรเลียและอาศัยอยู่ใกล้กับลูกชายทั้งสอง
“เมื่อปี 2013-2014 เราเริ่มวางแผนจะพาพ่อแม่ของเรามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่เรายื่นขอสถานะผู้อาศัยถาวร เพื่อขอวีซ่าผู้ปกครองประเภทร่วมสมทบทุน ซับคลาส 143 เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 และในเวลานั้นเราหวังจะได้วีซ่าอีกสองสามปีให้หลัง เพราะเวลาในการดำเนินการไม่นานเกินไป และแม้กระทั่งเว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทยก็บอกว่าเวลาดำเนินการคือ 12-24 เดือน ซึ่งโอเคสำหรับเรา และนั่นเป็นไปตามแผนของเรา”
แต่มันไม่เป็นไปตามแผน ตอนนี้เป็นเวลากว่า 5 ปีครึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้น และสองพี่น้องยังคงรอให้วีซ่าผู้ปกครองของพวกเขาได้รับการดำเนินการ
เรื่องราวคล้ายคลึงกันเกิดขึ้นกับคุณโรยา ซาลามาติ (Roya Salamati) ผู้อพยพชาวอิหร่าน ที่อาศัยอยู่ในเมลเบิร์น
ในปี 2017 คุณซาลามาติและน้องชายของเธอยื่นขอวีซ่าผู้ปกครองประเภทร่วมสมทบทุนให้กับพ่อแม่ของเธอที่อาศัยอยู่ที่เมืองเตหะราน (Tehran) และวีซ่าของพวกเขายังไม่ได้รับการดำเนินการ
โดยมีการเพิกถอนหนึ่งในสองวีซ่าที่ยื่นไป เพราะพ่อของคุณซาลามาติเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19
ตอนที่พ่อเสีย ฉันต้องโทรหาแม่ทุกวัน เพราะฉันไม่สามารถเดินทางได้เนื่องจากความยากในการขอยกเว้นการเดินทาง และแม่ก็ขอไม่ได้ พ่อแม่ไม่ถือว่าเป็นญาติสนิท แม่เลยมาออสเตรเลียไม่ได้ มีความกดดันและมีผลกระทบกับฉันและน้องชายของฉันสูงมาก
ไม่ได้มีแค่คุณแดนดิวาลและคุณซาลามาติเท่านั้น
ณ วันที่ 30 เมษายน ปีนี้ วีซ่าผู้ปกครองกว่า 123,000 รายยังคงรอการดำเนินการโดยกระทรวงมหาดไทย (Department of Home Affairs) คุณมารีอานา จิออดานา (Marianna Giordana) เพิ่งเปิดตัวแคมเปญสะสางวีซ่าผู้ปกครองที่คั่งค้าง (Clear Parent Visa Backlog) เธอคาดการณ์ว่า จากระดับความเร็วในการดำเนินการวีซ่าในปัจจุบัน วีซ่าใหม่จะใช้เวลาประมาณ 19 ปี ถึงจะได้รับการอนุมัติ
“ในตอนนี้ใบสมัครวีซ่าของพวกเรา พวกเราส่วนใหญ่ ตามที่เราได้รับแจ้ง จะใช้เวลา 2-3 ปี ประมาณนั้น มันไม่จริง ในตอนนี้เราต้องรอนานกว่านั้นมาก”ตามที่กระทรวงมหาดไทยระบุ คำร้องยื่นขอวีซ่าผู้ปกครองแบบร่วมสมทบทุนมีค่าใช้จ่ายระหว่าง $33,000 ถึงเกือบ $48,000 ดอลล่าร์ “คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 65 เดือน ถึงจะดำเนินการขั้นสุดท้าย” คุณจิออดานากล่าวว่า ที่จริงแล้ววีซ่านี้ใช้เวลาประมาณ 16 ปีในการดำเนินการ
หลานสาวทั้งสองคนจูบกอดตาและยาย Source: Pexels/Rodnae Productions
“พ่อแม่ของพวกเราส่วนมากยื่นใบสมัครเมื่อพวกเขาอายุ 60 หรือ 65 ปี พวกเขาจะได้รับอนุมัติวีซ่าเมื่อพวกเขาอายุ 75 หรือ 80 ปี เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่อีกหรือไม่ และจะเหลือกี่ท่าน เวลาที่เคลื่อนไปในแต่ละวันเป็นเวลาที่สำคัญ ที่เราพูดถึง และนั่นยังไม่รวมถึงวีซ่าผู้ปกครองที่ใช้เวลา 30 ปีหรือมากกว่านั้นในการยื่นสมัคร”
คุณจิออดานากล่าวว่า เวลาดำเนินการวีซ่านี้กระทบต่อจิตใจของผู้ปกครองของผู้อพยพหลายท่านที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งส่วนมากอยู่คนเดียว และต้องการการดูแลจากลูกๆ ในวัยชรา
คำแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยระบุว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นหนึ่งในเหตุผลของวีซ่าที่คั่งค้าง
โดยระบุว่ามีผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูลชีวมิติ (Biometric collection) อย่างต่อเนื่อง ศูนย์สอบภาษาอังกฤษ ศูนย์รับยื่นใบสมัครแบบตัวต่อตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกของแพทย์
แต่ในกรณีของคุณแดนดิวาลและคุณซาลามาติ ปัญหาดูเหมือนจะเริ่มตั้งแต่ก่อนการระบาด
เมื่อคุณไม่สามารถวางแผนอะไรได้ เมื่อคุณไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ว่ามันจะไปทางไหน คุณไม่สามารถตัดสินอะไรได้เลย นั่นเป็นเรื่องยาก และทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เมื่อพวกเขาอยู่ที่อินเดีย
คุณตายืนโอบคุณยาย Source: Pexels/Tristan Le
ตัวอย่างเช่น ปี 2013-2014 กระทรวงมหาดไทยได้รับใบสมัครวีซ่าผู้ปกครองกว่า 26,000 ราย แต่มีเพียง 9,000 รายเท่านั้นที่ได้รับอนุมัติ
ปี 2020-21 มีใบสมัครวีซ่าผู้ปกครองกว่า 140,000 ราย แต่มีเพียง 5,000 รายที่ได้รับอนุมัติ
แล้วอะไรคือสาเหตุของวีซ่าที่คั่งค้าง?
คุณอาบูล ริซวี (Abul Rizvi) อดีตรองเลขาธิการกรมตรวจคนเข้าเมือง (Department of Immigration) กังวลถึงปัจจัยเรื่องประชากรสูงอายุ
เขากล่าวว่า การจำกัดจำนวนวีซ่าผู้ปกครองเริ่มขึ้นในปี 1996 ในสมัยรัฐบาลของนาย จอห์น โฮวาด (John Howard) เพื่อชะลออัตราประชากรสูงอายุ ต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
ออสเตรเลียมีนโยบายเรื่องการย้ายถิ่นของผู้ปกครองที่เข้มงวดที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และนิวซีแลนด์ เขากล่าวว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อน
“มันเป็นนโยบายที่เข้มงวดอย่างไม่ต้องสงสัย นี่เป็นนโยบาบที่เข้มงวด และในขอบเขตที่เป็นไปได้ นโยบายควรมุ่งอนุมัติผู้ปกครองให้สามารถเดินทางมาเยี่ยมลูกหลานที่เป็นผู้อพยพได้ในขอบเขตที่เป็นไปได้ โดยไม่กระทบกับค่ารักษาพยาบาลผู้สูงอายุและระบบเงินบำนาญ แต่การบรรลุเป้าหมายเรื่องนี้ยากมาก ในความคิดของผม ไม่มีประเทศไหนที่สามารถหาวิธีแก้ที่สมเหตุสมผล มันเป็นความท้าทายที่เราเผชิญในออสเตรเลีย”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่