ขณะนี้มีสัดส่วนผู้หางานที่เสียเปรียบผู้อื่น 8 คน ต่องานระดับเริ่มต้นที่ไม่ต้องการประสบการณ์ 1 ตำแหน่งทั่วออสเตรเลีย จากรายงานล่าสุดของแองกลิแคร์ (Anglicare)
นับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา สถิติดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นอย่างมากและชาวออสเตรเลียที่อายุมากกำลังได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างรุนแรงกว่าคนกลุ่มอื่น
ฟังรายงาน
LISTEN TO
โอกาสที่ริบหรี่ของคนหางานที่มีข้อเสียเปรียบ
SBS Thai
15/10/202005:58
คุณเวนดี้ มอร์แกน เป็นหญิงวัย 60 ปี ที่อาศัยอยู่ในนครอะดิเลด เธอทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด ที่ทำงาน 2 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์
เธอมีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง จึงไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้แรงกายมากกว่านี้ได้ แต่งานที่เธอทำนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอไม่ต้องขอรับเงินสวัสดิการผู้ว่างงานจ๊อบซีกเกอร์ (JobSeeker)
แต่เธอกล่าวว่า เธอยังคงต้องไปสัมภาษณ์งานอยู่เรื่อยๆ สำหรับงานที่เธอไม่มีคุณสมบัติพอจะทำได้ ไม่เช่นนั้น เธอจะไม่มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสำหรับผู้ว่างงาน
“นายจ้างคนไหนจะให้งานแก่คนอายุ 60 ที่ไม่เคยทำงานมาก่อนเลยสักวันในชีวิต สำหรับตำแหน่งที่ระบุในประกาศรับสมัครว่าต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปี แต่ตัวแทนจ๊อบเนตเวิร์ก (job network agency) ก็บอกว่า หากฉันไม่สมัครงานนั้น เงินช่วยเหลือสำหรับฉันจะยุติลง” คุณมอร์แกน กล่าว
อ่านเพิ่มเติม
ลดเงินช่วยเหลือ JobSeeker
โควิด-19 ได้กัดกร่อนอุตสาหกรรมทั้งหมดในปี 2020 และทำให้ออสเตรเลียตกสู่การเป็นหนี้สิน ที่จะกินเวลานานหลายปี
แต่คุณเคซี แชมเบอร์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรการกุศล แองกลิแคร์ (Anglicare) กล่าวว่า เรายังคงไม่มีภาพรวมเต็มทั้งภาพ สำหรับการตกงานของประชาชนในปี 2020
รายงานล่าสุดของแองกลิแคร์ ชื่อรายงาน จ๊อบส์ สแนบชอต (Jobs Snapshot) ได้ทำการวิเคราะห์ว่า ขณะนี้มีงานกี่ตำแหน่งสำหรับประชาชนที่มีสิ่งกีดขวางอย่างมีนัยสำคัญต่อการทำงาน เช่น ประชาชนที่อายุมากแล้ว และผู้ที่ว่างงานมาเป็นระยะยาว
“ทั่วประเทศ มีผู้กำลังหางานที่มีความเสียเปรียบผู้อื่นเหล่านั้น 8 คน ต่องานระดับเริ่มต้นที่ไม่ต้องการประสบการณ์เลย 1 ตำแหน่ง แต่โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ มีลูกจ้างที่ทำงานในสำนักงานมากมาย ซึ่งกำลังตกงาน และเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย พวกเขาก็มองหางานในสาขาอาชีพอื่นด้วยเช่นกัน” คุณแชมเบอร์ กล่าว
ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียและแทสเมเนีย จัดว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่ารัฐอื่นๆ สำหรับการขาดโอกาสในการทำงานของประชาชนที่ไม่มีวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษาและผู้ที่มีปัญหาส่วนตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
ในเซาท์ออสเตรเลีย ผู้กำลังหางานทำที่มีอุปสรรคด้านวุฒิการศึกษาที่ต่ำกว่าผู้อื่น มีสัดส่วน 10 คนต่องานระดับเริ่มต้น 1 ตำแหน่ง ขณะที่ในแทสเมเนียนั้น มีสัดส่วน 20 คนต่องาน 1 ตำแหน่ง
คุณมอร์แกน กล่าวว่า ระบบที่รัฐบาลใช้อยู่ไม่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเลย รวมทั้งโครงการจ๊อบเมกเกอร์ (JobMaker) ที่เธอกล่าวว่า ไม่แยแสต่อชาวออสเตรเลียที่อายุมากอย่างเธอ
“พวกเขากล่าวว่า ฉันต้องสมัครงานขายปลีก แต่ฉันไม่เคยทำงานขายปลีกมาก่อนเลยในชีวิต ร้านค้าส่วนใหญ่ที่จะจ้างคนที่ไม่มีประสบการณ์ขายปลีกเลย มักจะต้องการคนอายุ 15 ที่จะทำงานให้ไม่กี่ชั่วโมงหลังเลิกเรียน 2-3 วันต่อสัปดาห์” คุณมอร์แกน เล่า
แองกลิแคร์ กำลังเรียกร้องให้มีการยกเลิกโครงการจ๊อบแอ็กทิฟ (Jobactive) ที่รัฐบาลสหพันธรัฐริเริ่มด้วย
โดยโครงการนี้พุ่งเป้าไปยังชาวออสเตรเลียที่อายุต่ำกว่า 35 ปี
“มันไม่ได้ให้ผลลัพธ์อย่างที่มุ่งหวัง รายงานเกือบทุกฉบับเกี่ยวกับโครงการนี้พบว่า มันไม่ได้ทำในสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับจากโครงการ มันสิ้นเปลืองงบประมาณจำนวนมาก ดังนั้น เราควรใช้เงินในทางที่ทำให้เราได้สิ่งที่เราต้องการจะดีกว่า” คุณแชมเบอร์ ของแองกลิแคร์ กล่าว
คุณคริสเตน โอคอนเนอร์ โฆษกของสภาพลูกจ้างที่ว่างงานแห่งออสเตรเลีย เห็นด้วย เธอเชื่อว่าโครงการ จ๊อบแอ็กทิฟ (Jobactive) นี้กำลังทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
“มันบั่นทอนความมั่นใจ กระบวนการที่ต้องทำอาจทำให้ผู้คนรู้สึกว่าด้อยค่า ที่ต้องพยายามหางานทำในพื้นที่ที่ตนอาศัยอยู่ ต้องสมัครงานที่ถูกบีบให้ต้องสมัครทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะทำได้ มันทำให้ผู้คนท้อแท้และในที่สุดยังทำให้ความสามารถในการได้รับการจ้างงาน (Employability) ของพวกเขาน้อยลงด้วย” คุณโอคอนเนอร์ กล่าว
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ความสิ้นหนทางของผู้รับเงินสวัสดิการคนว่างงาน
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ไทยประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ยุติชุมนุมคณะราษฎร 63