หากคุณหายป่วยแล้วและกำลังฟื้นตัวจากการติดเชื้อโควิด-19
ขณะที่รอบๆ ตัวคุณ ชาวออสเตรเลียนับล้านๆ คนกำลังถลกแขนเสื้อขึ้นเพื่อรับการฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนา
แต่คุณอาจสงสัยว่า แล้วตัวคุณเองล่ะ ควรได้รับการฉีดด้วยหรือเปล่า?
ฟังรายงาน
LISTEN TO
ถ้าเคยติดโควิดยังต้องฉีดวัคซีนหรือไม่?
SBS Thai
17/09/202108:53
เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียระบุว่า
“แม้คุณจะเคยติดเชื้อโควิด-19 แต่คุณก็ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง หรือช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ให้ปรึกษากับแพทย์ของคุณว่าคุณควรรอนานเพียงไรหลังฟื้นตัวจากการติดเชื้อแล้ว ก่อนที่จะรับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19”
กลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (Australian Technical Advisory Group on Immunisation หรือ ATAGI) แนะนำให้ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ต้องรอสูงสุดหกเดือนหลังการติดเชื้อจึงจะฉีดวัคซีนได้
ATAGI ระบุว่า
"หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อในอดีตช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำได้อย่างน้อยหกเดือน บุคคลที่มีอาการจากโควิด-19 ยืดเยื้อเกินหกเดือนสามารถฉีดวัคซีนได้ โดยพิจารณาเป็นรายกรณี"
ศาสตราจารย์ไมเคิล คิดด์ รองประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า ประมาณหนึ่งในสิบของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีอาการที่เรียกว่า "โควิดระยะยาว" หรือ "ลองโควิด" (Long COVID)
ศาสตราจารย์โทนี่ คันนิงแฮม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยไวรัสแห่งสถาบันเวสต์มีด (Westmead Institute) เพื่อการวิจัยทางการแพทย์ ในซิดนีย์ กล่าวว่า สำหรับคนเหล่านั้นแล้ว ควรระมัดระวังเพื่อความรอบคอบ
"เพื่อเป็นการระมัดระวังเป็นอย่างมาก จึงมีคำแนะนำไม่ให้ฉีดวัคซีนเร็วเกินไป เผื่อว่ามันจะส่งผลต่ออาการโควิดระยะยาว หรือ"ลองโควิด" (Long COVID)" ศ. คันนิงแฮม กล่าว
แล้วคุณจะป้องกันการติดเชื้อซ้ำหลังจากเคยติดเชื้อโควิด-19 แล้วได้อย่างไร?
ศาสตราจารย์ ไมลส์ ดาเวนพอร์ต เป็นหัวหน้าโครงการวิเคราะห์การติดเชื้อของสถาบันเคอร์บี (Kirby Institute) ที่มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์
เขากล่าวว่าในระยะสั้นระดับการปกป้องดูเหมือนจะเป็นเช่นเดียวกันกับที่วัคซีนมอบให้
"การศึกษาวิจัยเรื่องการเคยติดเชื้อมาก่อนแสดงให้เห็นว่า มันช่วยให้การปกป้องในระดับหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างการปกป้องที่คุณได้รับจากวัคซีนแอสตราเซเนกาและการปกป้องที่คาดว่าจะได้รับจากวัคซีนไฟเซอร์ ดังนั้นจึงอยู่ที่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์" ศ. ดาเวนพอร์ต กล่าว
แต่การศึกษาวิจัยเหล่านี้เป็นการทำการศึกษาจากสายพันธุ์ที่เป็น "บรรพบุรุษ" ของโควิด-19 หรือเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม ไม่ใช่เชื้อสายพันธุ์เดลต้า
"อาจปกป้องได้น้อยกว่าสำหรับสายพันธุ์เดลต้า และการปกป้องนั้นยังลดลงด้วยเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น หลังจากหกเดือนไปแล้ว เราคาดว่าการปกป้องจากสายพันธุ์เดลต้าอาจลดลงเหลือราว 50 เปอร์เซ็นต์" ศ. ดาเวนพอร์ต กล่าว
กำลังมีการศึกษาวิจัยว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะมีภูมิคุ้มกันมากกว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ หรือไม่
"คุณอาจได้รับการปกป้องที่สูงกว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม เรายังไม่มีหลักฐานยืนยันในตอนนี้" ศ. ดาเวนพอร์ต เผย
ระดับของภูมิคุ้มกันที่ผู้คนได้รับจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้นแตกต่างกันไป
ศาสตราจารย์คันนิงแฮมกล่าวว่า ยิ่งการติดเชื้อของบุคคลนั้นรุนแรงมากเท่าใด ภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
"แต่มันแตกต่างกันไม่มากนัก หากว่าคุณติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการป่วย หรือป่วยเล็กน้อย หรือป่วยหนัก ภูมิคุ้มกันจะลดลงเล็กน้อยตามอายุ แอนติบอดีนั้นอยู่ได้ไม่นานในผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง" ศ. คันนิงแฮม อธิบาย
เขากล่าวว่าผู้ที่มีความเปราะบางมากกว่าเหล่านี้ควรพิจารณารับการฉีดวัคซีนภายในหกเดือน
สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ มีคำแนะนำให้คนที่ทำงานในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 อาจเลือกรับการฉีดวัคซีนเร็วขึ้นได้เช่นกัน
ศาสตราจารย์คันนิงแฮมกล่าวว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนหลังเคยติดเชื้อโควิด-19 มีระดับการปกป้องที่สูงกว่าผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อเลย
"การศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่าการเคยติดเชื้อโควิดมาก่อนแล้วจึงฉีดวัคซีนนั้น เทียบเท่ากับได้รับวัคซีนเข็มที่สาม หรือเข็มกระตุ้น" ศ. คันนิงแฮม เผย
ในรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้น มุขมนตรี กลาดิส เบเรจิกเลียน กล่าวว่า เมื่อบรรลุเป้าหมายการวัคซีนแล้ว ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับเสรีภาพมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่ไม่มีการสัญญาว่า จะผ่อนคลายข้อจำกัดได้สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเนื่องจากการติดเชื้อ
สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า:
“ขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยของแผนแม่บทนี้ และสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์กำลังพิจารณาเกี่ยวกับข้อยกเว้นที่ควรบังคับใช้กับผู้ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19"
ด้านศาสตราจารย์คันนิงแฮมกล่าวว่า ควรมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในเรื่องนี้
"ผมคิดว่ามันจะยุติธรรม หากเราแนะนำให้ผู้คนไม่สามารถฉีดวัคซีนได้หลังจากหายป่วยจากโควิดแล้วหกเดือน ซึ่งเราระบุเช่นนั้น เราจึงน่าจะมีผู้คนเหล่านี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ แต่ยังไม่มีการอภิปรายกันในเรื่องนี้เลย" ศ.คันนิงแฮม กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนควรปรึกษาแพทย์
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ออสฯ เตรียมพร้อมเปิดประเทศ ใช้ ‘พาสปอร์ตวัคซีน’ ต.ค.นี้