Key Points
- บ้านเช่าส่วนใหญ่ลงโฆษณาในเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ๆ
- เจ้าของบ้านและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ต้องการข้ออมูลส่วนตัวที่สำคัญของคุณ ดังนั้นต้องเตรียมหลักฐานให้พร้อม
- นัดพูดคุยกับตัวแทนในช่วงกลางสัปดาห์ อธิบายเกี่ยวกับบ้านเช่าที่คุณต้องการ รวมทั้งสอบถามวิธีการส่งใบสมัคร
- ใช้โซเชียลมีเดียในชุมชนของคุณเป็นอีกช่องทางในการหาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านเช่า
การหาเช่าบ้านในตอนที่ตลาดมีการแข่งขันสูง ต้องอาศัยการเตรียมตัวเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับการสัมภาษณ์งาน และนี่คือคำแนะนำของคุณ เกรก บาเดอร์ ประธานกรรมการบริหารของ Rent.com.au ซึ่งเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย เขาจึงเข้าใจความท้าทายในการหาเช่าที่อยู่อาศัย เขาเปิดเผยว่า
“ตัวแทนและเจ้าของบ้านบางคนไม่อยากได้คนหนุ่มสาว บางคนก็อยากได้คนเช่าที่เป็นครอบครัว โดยทั่วไปแล้วเอกสารที่ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ต้องการไม่ว่าจะเป็นหลักฐานแสดงรายได้ การจ้างงาน เป็นต้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือประวัติการเช่า แต่สำหรับผู้ย้ายถิ่นที่จะหาบ้านเช่ามันก็มีอุปสรรคที่เพิ่มเข้ามา อีกสองสามข้อ เช่น หากคุณเพิ่งย้ายมา นั่นหมายถึงว่าคุณยังไม่มีประวัติการเช่าบ้านในออสเตรเลียและนี่คือความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่ง”
จะหาบ้านเช่าจากที่ไหน
โดยปกติแล้ว อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าจะเป็นห้องว่างและไม่มีการตกแต่งใดๆ และมีการทำสัญญาเช่าหนึ่งปี ซึ่งบ่อยครั้งมักจะขยายจะขยายสัญญาออกไปนานกว่านั้นได้
อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะลงโฆษณาบนเว็บไซต์ให้เช่า เช่น realestate.com.au, domain.com.au และ rent.com.au ซึ่วจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่คุณสามารถเข้าตรวจสอบอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ และราคาค่าเช่ารายสัปดาห์
สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้เวลาไปตรวจสอบอสังหาริมทรัพย์ก่อนเช่า โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 10 ถึง 15 นาที และในช่วงสุดสัปดาห์จะมีคนที่สนใจไปตรวจดูบ้านเช่ามากกว่าในระหว่างอาทิตย์
The number of available rental properties has almost halved compared to two years ago. Source: iStockphoto / mikulas1/Getty Images/iStockphoto
การส่งใบสมัคร
ในออสเตรเลีย มีตัวแทนอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 800,000 ราย อย่างไรก็ตามขั้นตอนการสมัครขอเช่าบ้านนั้นอาจมีความแตกต่างกันไปบ้าง คุณ เกรก บาเดอร์ อธิบายว่า
เรายังขาดกฎระเบียบหรือกฎหมายการเช่าบ้านที่เป็นแบบแผนเดียวกันทั่วทั้งประเทศ แต่โดยทั่วไปแล้วคุณจะต้องมีบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายเช่น หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ และ หลักฐานการจ้างงานและรายได้ ซึ่งอาจเป็นบัญชีธนาคารในออสเตรเลียที่แสดงให้เห็นว่าคุณมีเงินพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือ จดหมายรับรองจากเจ้าของบ้านคนก่อนและประวัติการเช่าบ้าน และ การแสดงหลักฐานการยืนยันบุคคล ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นด้วยเช่นกัน
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จะตรวจสอบเอกสารของผู้สมัครทุกคน ดังนั้นคุณควรเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้พร้อม
หากคุณไม่มีหลักฐานประวัติการเช่า คุณอาจจะแนบหลักฐานอย่างอื่นที่ตัวแทนจะใช้พิจารณาได้
ตัวอย่างเช่น คุณ นิก ซึ่งเป็นช่างฝีมือและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจากเมลเบิร์นก็ไม่มีหลักฐานประวัติการเช่า เขาเลยส่งอีเมลถึงตัวแทนในพื้นที่พร้อมจดหมายแนะนำตัว โดยอธิบายถึงสถานการณ์ของเขา เขาชี้ว่า
“หลังจากเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เองมานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดเช่าบ้าน มันเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะฉันไม่มีหลักฐานรับรองประวัติการเช่าที่ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ต้องการ ฉันพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าฉันเป็นผู้เช่าที่เชื่อถือได้ โดยการแนบหลักฐานการเงินและอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าฉันจำเป็นต้องหาบ้านเช่า หลังจากที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เองมานานและทำให้พวกเขาเชื่อว่าฉันเป็นตัวเลือกที่พวกเขาควรเสี่ยง"
It is important to speak to the realestate agent directly before applying for a rental property. Credit: andresr/Getty Images
การหาบ้านเช่าจากแหล่งอื่นๆ
คุณ บาเดอร์ กล่าวว่า การติดต่อตัวแทนโดยตรง อาจเป็นวิธีหนึ่งที่คุณจะสามารถจะทำการเช่าบ้านได้สำเร็จ เขาเปิดเผยว่า
"ผมแนะนำว่าคุณควรจำกัดพื้นที่ในการหาบ้านเช่าและเมื่อตัดสินในได้แล้วคุณควร ติดต่อตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่น นัดพูดคุยกับตัวแทนในช่วงกลางสัปดาห์ เพราะว่าในระหว่างการไปตรวจสอบบ้านเช่า คุณจะไม่มีเวลาที่จะแนะนำตัวเองและทำความรู้จักกับตัวแทน ดังนั้นการไปนัดพบปะกับตัวแทนเพื่ออธิบายสิ่งที่คุณกำลังมองหา แนะนำตัวเอง สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยได้”
หากคุณทำการสมัครเช่าบ้านออนไลน์ ทางเว็บไซต์ให้เช่าจะมีการเตรียมใบสมัครออนไลน์ที่สามารถเก็บข้อมูลของคุณไว้เพื่อการสมัครในอนาคต
เนื่องจากมีใบสมัครออนไลน์หลายเจ้า คุณอาจต้องใช้เวลาในการอัปโหลดรายละเอียดของคุณไปยังเว็บไซต์ของเอเจนท์หลายแห่ง แต่เคล็ดลับในการเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการหาเช่นบ้านคือ การพูดคุยกับตัวแทนก่อนสมัคร คุณ เกรก บาเดอร์ แนะนำต่อไปว่า
"เนื่องจากมีการแข่งขันสูงในการหาเช่าบ้าน สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือเมื่อคุณไปตรวจสอบบ้านเช่าคือ คุณต้องถามตัวแทนว่าพวกเขาอยากได้ใบสมัครและหลักฐานของผู้เช่าจากทางใด เพราะตัวแทนจะได้รับใบสมัครมาจากหลายแห่ง เช่นอีเมล โทรศัพท์ ออนไลน์ ถ้าคุณถามตัวแทนคุณจะมั่นใจได้ว่าอย่างน้อยคุณอยู่ในรายชื่อที่จะได้รับการพิจารณา”
คุณนิก เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เช่าบ้านได้โดยไม่ต้องส่งใบสมัครออนไลน์ เพราะหลังจากที่เขาตัดสินใจหาเช่าบ้าน คุณนิก ได้พูดคุยกับตัวแทนโดยตรงว่าเขาต้องการที่จะย้ายไปอยู่บ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เขาเล่าว่า
"มันเยี่ยมมากที่พบว่า เจ้าของมีบ้านอีกหลังที่เหมาะกับผมและผมสามารถย้ายไปอยู่ได้ ผมไม่คิดว่ามันเป็นไปได้ แต่ผมก็ลองถามๆ ดู และมันปรากฎว่าผมได้บ้านเช่าหลังใหม่เพราะผมถาม"
คุณ เกรก บาร์เดอร์ เห็นด้วยว่ามันยังมีทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากการหาบ้านเช่าออนไลน์ แต่ว่ามันก็มีข้อควรระวังด้วย เขากล่าวว่า
"ถ้าคุณมองหาบ้านเช่าในโซเชียลมีเดียทั่วๆ ไป คุณก็จะพบอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า แต่คุณต้องระวังเกี่ยวกับมิจฉาชีพและการหลอกลวงต่างๆ อย่าตกลงทางโทรศัพท์และโอนเงินโดยไม่ได้ไปดูว่ามีที่อยู่อาศัยนั้นๆจริง คุณต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นเจ้าของหรือตัวแทนจริงๆ”
การหาบ้านเช่าจากโชเชียลมีเดียอื่นๆ
คุณ บาร์เดอร์ ยังแนะนำต่อไปอีกว่า เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่าคุณต้องการอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด คุณควรลองถามๆ ดูว่าเพื่อนหรือคนรู้จักของคุณรู้จักใครที่เป็นตัวแทนในชุมชนนั้นๆ ไหม เพราะมันอาจเป็นประโยชน์กับคุณ เขาเปิดเผยว่า
"ลองถามคนที่คุณรู้จักดูว่าพวกเขาพอจะรู้จักตัวแทนหรือเจ้าของบ้านเช่าในพื้นที่นั้นหรือไม่ เราพบว่ามีตัวแทนจากหลายเมืองที่มองหาผู้เช่าที่เป็นผู้ย้ายถิ่น และมันอาจทำให้อุปสรรคเรื่องภาษาง่ายขึ้น"
ด้านคุณ ไบซาน ราฮีมิ หัวหน้าฝ่ายเช่าอสังหาริมทรัพย์ บริษัท Love & Co ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของนครเมลเบิร์นกล่าวว่า เขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนที่พูดภาษาฟาร์ซีในท้องถิ่นเพื่อลดอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรม และช่วยเหลือผู้คนในการหาที่อยู่อาศัย เขาเผยว่า
"หลายคนที่เป็นผู้ย้ายถิ่นและกำลังหาบ้านเช่าในเขตทางตอนเหนือ และผมเริ่มได้พูดคุยกับลูกค้าเหล่านี้สองสามราย แล้วมันก็มีการบอกต่อ ผมเลยโพสต์ลง เฟซบุคและสื่อออนไลน์ มันก็เลยมีชุมชนที่แลกเปลี่ยนพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เป็นภาษาฟาร์ซี คนย้ายถิ่นที่เพิ่งมาใหม่ก็สามารถใช้ภาษาที่พวกเขาถนัดบอกกล่าวเกี่ยวกับบ้านเช่าที่พวกเขากำลังมองหา"
บริการเข้าถึงชุมชนเช่นบริการการศึกษาวัฒนธรรมนานาชาติสำหรับผู้ใหญ่ (AMES) ก็เป็นอีกแหล่งข้อมูลหนึ่งที่เชื่อม คุณราฮิมี กับผู้ย้ายถิ่นหน้าใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย คุณ ราฮิมี เล่าว่า
"ผมรับโทรศัพท์วันละ 2-3 สาย จากผู้ย้ายถิ่นหน้าใหม่ มันช่วยได้มากเมื่อคุณรู้จักที่ไปที่มาของพวกเขาและสามารถพูดภาษาของพวกเขาได้ มันช่วยทำให้พวกเขารู้จักกระบวนการการเช่าบ้านที่ออสเตรเลีย และพวกเขาต้องมีหลักฐานและเข้าใจว่าข้อบังคับต่างๆ เป็นอย่างไร มันทำให้กระบวนการเช่าบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น และผมก็มีลูกค้าเช่นนี้ เพราะผมรู้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เช่าที่ดีและจะไม่มีปัญหาภายหลัง"
แหล่งข้อมูลการเช่า เช่น Rent.com.au มีทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเช่า รวมถึงเคล็ดลับการสมัครและสิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจในการเช่าบ้าน เช่นการจ่ายเงินประกันการเช่าบ้านเมื่อคุณทำสัญญาเช่า เป็นต้น
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
“ผู้ดูแล” สามารถรับความช่วยเหลืออะไรจากรัฐได้บ้าง
เรื่องราวที่น่าสนใจ
คนไร้บ้าน-ไร้ที่ไปในออส ฯ เพิ่มขึ้น ‘แย่กว่าที่เคยเห็นมา’