ผู้คนในออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังหันหลังให้ชีวิตในเมือง เพื่อไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท เพื่อจัดการกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น
สถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย (Regional Australia Institute) กล่าวว่า คนรุ่นมิลเลนเนียลและผู้ที่เกิดในต่างประเทศกำลังเป็นหัวหอกในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งได้รับการผลักดันจากตลาดงานที่แข็งแกร่งในพื้นที่ส่วนภูมิภาค และผลประโยชน์อื่น ๆ ด้านไลฟ์สไตล์
กระแสที่กำลังเกิดขึ้นได้ถูกเรียกว่า regional renaissance หรือ ยุคแห่งการเกิดใหม่ของพื้นที่ส่วนภูมิภาค
คุณลิซ ริตชี ซีอีโอของสถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย (Regional Australia Institute)
เธอกล่าวว่า ผู้คนในออสเตรเลียมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังละทิ้งชีวิตในเมือง เพื่อไปอาศัยอยู่ในบ้านท่ามกลางต้นยูคาลิปตัสในชนบท
คุณริตชีกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ส่วนหนึ่งได้รับแรงผลักดันจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น
"เราตระหนักดีว่าความสามารถในการจ่ายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักเสมอ แต่เราก็รู้ด้วยว่าโอกาสในการจ้างงานก็เป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานมากเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค โดยเพิ่มมากกว่า 3 เท่าในช่วงปีที่แล้ว เราได้เห็นงานเพิ่มมากเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับเขตเมืองใหญ่ ดังนั้น การที่มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดคนรุ่นมิลเลนเนียลของเราให้ย้ายมาที่นี่"
สถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย (Regional Australia Institute) กล่าวว่า ผู้คนที่เกิดในต่างประเทศและชาวออสซี่ที่เป็นคนหนุ่มสาว ซึ่งมีอายุระหว่าง 25-39 ปี กำลังขับเคลื่อนกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้
เมื่อ 7 ปีที่แล้ว คุณแนต แอนสัน ย้ายจากย่านเซาท์ยาร์รา ในเมลเบิร์น มายังเมืองจีลอง (Geelong) และบอกว่าเป็นการย้ายอย่างถาวร
"อยู่ถาวรอย่างแน่นอน เราจะไม่คิดที่จะย้ายกลับไปที่เมลเบิร์น เราอยู่ที่นั่นเพื่อเรียนระดับมหาวิทยาลัยและอยู่ในช่วงเริ่มต้นอาชีพ แต่ทันทีที่ตัดสินใจย้าย เราก็ได้ประจักษ์ถึงประโยชน์ที่พื้นที่อย่างจีลองมอบให้เราได้คือ การเริ่มต้นใช้ชีวิตครอบครัว ไม่เพียงแค่เรื่องการศึกษาเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องชุมชนที่อยู่ที่นี่ เราเคยไม่คิดที่จะย้ายกลับไปยังเมลเบิร์นเลย" คุณแอนสัน กล่าว
ข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรล่าสุดเผยให้เห็นว่า มีชาวเมืองกว่า 600,000 คนละทิ้งนครหลวงต่าง ๆ เพื่อหันไปใช้ชีวิตในพื้นที่ภูมิภาคในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ซิดนีย์และเมลเบิร์นเป็นนครหลวงที่มีผู้คนย้ายออกไปอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคมากที่สุด ในขณะที่บริสเบนและเพิร์ทเป็นนครหลวงสองแห่งเท่านั้นที่มีรายงานการหลั่งไหลเข้ามาของผู้คน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแม้ว่าโควิดจะเป็นตัวเร่งสำคัญให้ผู้คนย้ายออกไปยังพื้นที่ส่วนภูมิภาค แต่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และความแออัดคับคั่งที่ลดลงกำลังช่วยผลักดันกระแสการย้ายจากนครหลวงไปอยู่ชนบทที่กำลังเกิดขึ้นนี้
คุณแนต แอนสัน กล่าวต่อไปว่า
"เราอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียงไม่กี่ร้อยเมตร หรือไม่กี่ร้อยเมตรจากซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อยู่ห่างไม่กี่ร้อยเมตรจากแม่น้ำบาร์วอน ซึ่งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะที่สวยงาม ผมขี่จักรยานไม่ถึง 10 นาที ไปทำงานในย่านใจกลางเมือง และจากมุมมองด้านความสะดวกสบายและการไปไหนมาไหนภายในเมืองแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก" คุณแอนสัน เล่า
READ MORE
สิ่งที่ควรทำเมื่อต้องย้ายไปต่างรัฐ
คุณลิซ ริตชี จากสถาบันพื้นที่ส่วนภูมิภาคออสเตรเลีย กล่าวว่า แต่เมื่อจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ก็จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น
"เราต้องการบ้านเพิ่มขึ้น เราต้องการที่อยู่อาศัยแบบผสมผสานมากขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องการทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น ต้องการอะพาร์ตเมนต์เพิ่มขึ้น อย่างที่เห็นคือมันเกี่ยวกับทางเลือก คนรุ่นมิลเลนเนียลเหล่านี้อาจไม่ต้องการพื้นที่บ้านขนาดครึ่งเอเคอร์ พวกเขาอาจไม่สนใจที่จะทำสวนในวันหยุดสุดสัปดาห์เสมอไป เรารู้เรื่องนี้เกี่ยวกับพวกเขา ดังนั้นนี่จึงเป็นความท้าทาย" คุณริตชี แสดงความเห็น
นักเศรษฐศาสตร์อย่าง ศาสตราจารย์ เดวิด ออร์สมอนด์ จากมหาวิทยาลัยแมกควารี กล่าวว่า การแข่งขันกันระหว่างพื้นที่ส่วนภูมิภาคและเมืองเช่นนี้เป็นผลดีต่อประเทศ
"ยิ่งเรามีรัฐบาลท้องถิ่น ทั้งในพื้นที่ภูมิภาคและผู้มีอำนาจตัดสินใจในเขตเมืองต่าง ๆ ที่กำลังคิดถึงสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวย้ายไปอยู่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีสำหรับผู้คนที่ย้ายไปอยู่ที่นั่นและผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นอยู่แล้วด้วย การแข่งขันกันดังกล่าวนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของทุกคน และว่าไปแล้วมันยังช่วยขยายฐานทางเศรษฐกิจออกไปด้วย" ศาสตราจารย์ ออร์สมอนด์ อธิบาย
ดูเหมือนว่าชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จะค้นพบสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเองในเร็ว ๆ นี้
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘วีซ่าภายใน 3 วัน’ สำหรับครูและพยาบาลที่ต้องการมาออสเตรเลีย
