กดปุ่ม 🔊 ด้านบนเพื่อฟังรายงานเรื่องนี้
ศูนย์กฎหมายเพื่อผู้บริโภค คอนซูเมอร์ แอ็กชัน ลอว์ เซนเตอร์ (Consumer Action Law Centre) เป็นห่วงว่าประชาชนที่มีความเปราะบางในออสเตรเลีย ซึ่งรวมไปถึงผู้ย้ายถิ่นฐานที่มาอยู่ใหม่ มักมีภาวะทางการเงินย่ำแย่ลง หลังใช้บริการเงินกู้ประเภทที่เรียกกันว่า เงินกู้สำหรับวันเงินเดือนออก หรือเพย์ เดย์ โลนส์ (pay day loan)
สัญญาให้กู้ยืมเงินในระยะสั้นที่มีค่าใช้จ่ายสูงนี้นั้น มักกำหนดเวลาให้พอดีกับวันเงินเดือนออกของลูกค้า แต่กลับทำให้หลายคนตกเป็นหนี้ ขณะที่ผู้ให้กู้เงินได้กำไรจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่พ่วงมากับเงินกู้ประเภทนี้
ปัจจุบัน มีการออกเงินกู้เพย์ เดย์ โลน เหล่านี้แก่ประชาชนกว่า 135,000 ก้อนทุกเดือน
รายงานชื่อ เดบ์ต แทรป รีพอร์ต (Debt Trap Report) ซึ่งเกี่ยวกับภาวะหนี้สินที่ย่ำแย่ของประชาชน ระบุว่าเมื่อ 3 ปีและ 6เดือนที่ผ่านมา ได้มีการออกเงินกู้ประเภทที่เรียกกันว่า เงินกู้สำหรับวันเงินเดือนออก หรือเพย์ เดย์ โลน (pay day loan) ให้แก่ประชาชน 4.7 ล้านก้อน
โดยผู้หญิงเป็นผู้ใช้บริการกลุ่มที่มีเพิ่มจำนวนขึ้นสูงสุด และร้อยละ 41 เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งโดยมากอาศัยอยู่ในที่พักให้เช่าของเอกชน
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจเตือนคนไทยระวังเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ
คุณเจอราร์ด โบรดี้ จากศูนย์กฎหมายเพื่อผู้บริโภค คอนซูเมอร์ แอ็กชัน ลอว์ เซนเตอร์ (Consumer Action Law Centre) และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรเพื่อยุติกับดักหนี้ (Stop the Debt Trap Alliance) ซึ่งมีสมาชิกเป็นกลุ่มพิทักษ์สิทธิประชาชนกว่า 20 กลุ่ม เขากล่าวว่า
"พวกเขาอาจถูกล่อใจด้วยคำสัญญาจะให้เงินกู้วันเงินเดือนออก ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาด้านการเงินของพวกเขาได้ แต่เมื่อเงินชำระหนี้ถูกหักไปจากบัญชีเงินฝากของพวกเขาโดยตรง พวกเขามักพบว่าไม่มีเงินพอจ่ายค่าเช่าสำหรับ 2 สัปดาห์ข้างหน้า ไม่พอจ่ายค่าอาหาร ไม่พอจ่ายค่าน้ำค่าไฟ พวกเขาถูกล่อใจให้กลับไปกู้เงินเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงเป็นการเริ่มวงจรของการพึ่งพาเงินกู้ที่มีค่าใช้จ่ายสูงเหล่านี้" คุณโบรดี้ อธิบาย
กลุ่มผู้รณรงค์ยุติกับดักหนี้ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลีย มีกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อปกป้องประชาชนจากผู้ให้กู้ยืมเงินที่ไม่มีความรับผิดชอบ
กลุ่มพันธมิตรยุติกับดักหนี้ กล่าวว่า เงินกู้เพย์ เดย์ โลน (pay day loan) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้ กำลังทำให้ผู้กู้ยืมติดกับเข้าไปอยู่ในวงจรหนี้ที่ผู้กู้เสียเปรียบ
ชาวออสเตรเลียที่มีรายได้ต่ำ ซึ่งดิ้นรนชักหน้าให้ถึงหลัง กำลังกลายเป็นผู้กู้ที่ใช้บริการเงินกู้ประเภทนี้ซ้ำ และคาดกันว่าร้อยละ 15 ของผู้กู้จะตกอยู่ในภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่กว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงตามมาต่อพวกเขา เช่นการล้มละลาย
คุณโบรดี้ เป็นห่วงว่าประชาชนกำลังเข้าถึงเงินกู้ประเภทนี้ได้ง่ายดายเกินไป
"ในชุมชนหลายชุมชนที่มีประชากรผู้อพยพย้ายถิ่นจำนวนมาก เราพบว่ามีร้านให้บริการเงินกู้เพย์ เดย์ โลนตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก สถิติยังชี้ว่ามีการให้เงินกู้ประเภทนี้ออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยร้อยละ 85 ของการกู้เงินประเภทนี้นั้นทำผ่านแพลตฟอร์ม ดิจิทัล หรือออนไลน์" คุณโบรดี้ ระบุ
คุณจอห์น ฮูเปอร์ ผู้บริหารของโครงการเงินกู้ไร้ดอกเบี้ย (No Interest Loan Scheme) ในแทสเมเนีย วิตกว่าบริษัทให้กู้เงินประเภทนี้ กำลังพุ่งเป้าไปที่สมาชิกที่มีความเปราะบางที่สุดในสังคม
"สำนักงานของพวกเขาที่ลูกค้าเดินเข้าไปใช้บริการได้ตั้งอยู่ค่อนข้างติดกับสำนักงานเซนเตอร์ลิงก์ และพวกเขายังมีฐานอยู่ในชุมชนที่มีรายได้ต่ำในแทสเมเนีย พวกเขาวางตำแหน่งตนเองอยู่ในที่ที่ผู้มีความเปราะบางที่สุดจะไปเมื่อต้องการเงิน เป็นการดำเนินธุรกิจอย่างชาญฉลาดของพวกเขา แต่ความจริงแล้วกำลังฉวยประโยชน์จากประชาชนที่กำลังรู้สึกสิ้นหวัง" คุณฮูเปอร์ กล่าว
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
เข้าใจเงินกู้ในระบบที่ออสเตรเลีย
เขากล่าวต่อไปว่า ประชาชนมากขึ้นๆ กำลังพบเห็นโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ประเภทนี้ตามสื่อโซเชียลมีเดียด้วย
"หากผู้คนค้นหาออนไลน์เพื่อหาผู้ให้เงินกู้เพย์ เดย์ โลน เพราะอัลกอริทึมที่ระบบใช้ โฆษณาบริการของผู้ให้กู้เหล่านั้นจะปรากฎในเฟซบุ๊กฟีดและโซเชียลมีเดียของพวกเขาอยู่เรื่อยๆ อีกอย่างที่ผู้คนบอกกับเราคือ เมื่อพวกเขาถึงช่วงสิ้นสุดสัญญากู้เงินแล้ว พวกเขาก็จะได้รับการเสนอให้เงินกู้เพิ่มขึ้นๆ ดังนั้น บริษัทเหล่านี้จึงพยายามและทำให้ผู้คนอยู่ในวงจรกู้เงินที่ไม่สิ้่นสุด" คุณฮูเปอร์ อธิบาย
พันธมิตรยุติกับดักหนี้ กล่าวว่า การที่รัฐบาลสหพันธรัฐขาดการควบคุมดูแลอุตสาหกรรมเงินกู้เพย์ เดย์ โลนนั้น ไม่ยุติธรรมกับผู้บริโภค
ด้านนายมิลตัน ดิค ส.ส.พรรคแรงงาน เตือนให้ประชาชนที่คิดจะกู้เงินเพย์ เดย์ โลน ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง
"พยายามทำให้แน่ใจว่าคุณอ่านเงื่อนไขสัญญาอย่างละเอียด เพราะสัญญาเงินกู้เพย์ เดย์ โลนเหล่านี้บางสัญญา คิดดอกเบี้ยถึงร้อยละ 170 ดังนั้น ผมจึงขอเตือนประชาชนว่า ก่อนจะลงชื่อในสัญญาใดๆ ขอให้อ่านเงื่อนไขให้ละเอียด และหากไม่แน่ใจ ให้ไปหาเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาทางการเงิน" นายดิค ส.ส.พรรคแรงงาน แนะนำ
ในแถลงการณ์ จากนายไมเคิล ซูกคาร์ รัฐมนตรีช่วยด้านการคลังของสหพันธรัฐ โฆษกของเขาระบุว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาการเปลี่ยนแปลง ที่มุ่งปกป้องแก่ผู้บริโภคสำหรับสัญญาเงินกู้ก้อนเล็กและสัญญาการเช่าต่างๆ
รัฐบาลกำลังพิจารณาข้อเสนอขั้นสุดท้ายสำหรับการปฏิรูปในเรื่องนี้ให้มีความสมดุล เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่าบริการเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
กาชาดออสฯ วอนบริจาคเลือดช่วยผู้ประสบภัยไฟป่า