ออสเตรเลียกำลังอยู่ท่ามกลางปัญหาไข่ขาดตลาดจากหลายปัจจัย ทำให้สินค้าประเภทไข่เริ่มหายไปจากชั้นวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต เมนูในร้านอาหารเริ่มเปลี่ยนแปลง หรือในบางครั้งอาจพบว่าราคาอาหารเมนูไข่มีราคาแพงขึ้น
เกิดอะไรขึ้น
ทั่วออสเตรเลียในตอนนี้ ไข่เป็นสินค้าประเภทล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตห่วงโซ่การผลิต หลังเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้กับสินค้าประเภทเนื้อไก่ ผักกาด เช่นเดียวกับกระดาษชำระซึ่งเกิดขึ้นจนเป็นข่าวใหญ่ในช่วงเริ่มแรกของการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19
ปัญหาห่วงโซ่การผลิตดูเหมือนจะส่งผลไปทั่วทั้งตลาด ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ทั้งหมดต่างได้รับผลกระทบในบางภูมิภาคของประเทศ บางส่วนเริ่มจำกัดปริมาณการซื้อสินค้า บางส่วนก็ปรับราคาขึ้น ขณะที่ชั้นวางจำหน่ายสินค้าในร้านค้าบางแห่งว่างเปล่า
READ MORE
ไฟไหม้รถบรรทุกกระดาษชำระอันมีค่า
สำหรับอาหารนอกบ้าน เวส แลมเบิร์ต (Wes Lambert) ผู้อำนวยการหน่วยงานสนับสนุนธุรกิจบริการอาหารออสเตรเลีย (Australian Foodservice Advocacy Body) กล่าวว่า ธุรกิจบริการต่าง ๆ เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงเมนู หรือไม่ก็ขึ้นราคาอาหารในเมนูที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ
“เมื่อเกิดการหยุดชะงักหรือเพิ่มต้นทุนในห่วงโซ่อุปทาน มีไม่กี่อย่างที่คุณทำได้ในฐานะธุรกิจ” คุณแลมเบิร์ตกล่าว
“หากคุณหาซัพพลายได้ ปกติแล้วสิ่งที่คุณจะส่งผ่านไปถึงลูกค้าหากทำได้ก็คือราคาที่เพิ่มขึ้น หรือบางครั้งก็อาจเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบทดแทน”
“แต่ถ้าคุณไม่มีไข่แล้ว มันก็ยากที่คุณจะมีเมนูขนมปังปิ้งกับไข่ดาวน้ำ หรือขนมปังปิ้งกับไข่คน”
ทำไมไข่ถึงขาดตลาด
มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไข่ แต่โดยหลัก ๆ แล้วเป็นเรื่องของความต้องการที่มีมากกว่ากำลังการผลิต
ข้อมูลจากสมาคมเกษตรกรผู้ผลิตไข่แห่งออสเตรเลีย (Egg Farmers of Australia) พบว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการผลิตไข่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหลายอย่าง ทั้งไฟป่า อุทกภัย ภัยแล้ง ปัญหาหนูระบาด ผลกระทบจากโควิด-19 และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
คุณแลมเบิร์ตกล่าวว่า มีปัจจัยหนุนหลักอยู่ 4 อย่าง เขาเสริมว่า “เรามีสงครามในยุโรปที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต เรามีสภาพอากาศ (ที่ไม่ปกติ) ทั้งในออสเตรเลียและทั่วโลก เรามีราคานอกเหนือจากต้นทุนการผลิต (input cost) ที่เพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางในหลายอุตสาหกรรม และท้ายที่สุดคือ เรากำลังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรงในออสเตรเลีย”
“การรวมกันของปัจจัยทั้งหมดได้นำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งลูกค้าจะได้พบเห็นอย่างแน่นอนในเมนูอาหาร” คุณแลมเบิร์ตกล่าว
แล้วปัญหานี้จะกระทบต่อคุณอย่างไร
สำหรับผู้บริโภคนั้น ผลกระทบจากการขาดแคลนไข่ไก่เริ่มรับรู้ได้เมื่อออกไปจับจ่ายซื้อของ รวมถึงราคาสินค้าบนชั้นวางขาย
ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง อย่างเช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตในกลุ่มโคลส์ (Coles Group) ได้เริ่มใช้นโยบายจำกัดการซื้อแล้ว โดยลูกค้าสามารถซื้อไข่ได้ไม่เกิน 2 แพ็คต่อคน
ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตในกลุ่มโคลส์ (Coles Group) ได้เริ่มใช้นโยบายจำกัดจำนวนไข่ที่ลูกค้าซื้อได้ Source: SBS / Rayane Tamer
“(ธุรกิจต่าง ๆ) กำลังพบกับการเพิ่มขึ้นของราคาไข่อย่างแน่นอน และแน่นอนว่าสิ่งนี้จะถูกส่งผ่านไปยังลูกค้า เช่นเดียวกับของต้นทุนอื่น ๆ ที่การเพิ่มขึ้น กำลังจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนี้” คุณแลมเบิร์ตกล่าว
“การขาดแคลนในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาหลายเดือนหลายสัปดาห์แล้ว และอุตสาหกรรมธุรกิจบริการก็กำลังส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นในรูปแบบของราคาอาหารในเมนูที่เพิ่มขึ้น”
คุณแลมเบิร์ต์ กล่าวอีกว่า การรวมกันของปัญหาขาดแคลนอาหารและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่สูงขึ้นได้ทำให้ธุรกิจบริการจำนวนมากเพิ่มราคาขึ้นไปถึงร้อยละ 15
โควิด-19 เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร
แมทธิว เฟเนค (Matthew Fenech) เจ้าของฟาร์มไข่ เฟเนค แฟมิลี ฟาร์มส์ (Fenech Family Farms) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า โควิด-19 ยังคงเป็นสิ่งขับเคลื่อนสำคัญในเรื่องความแตกต่างระหว่างการผลิตและความต้องการในธุรกิจของเรา
“ตลอดช่วงโควิด-19 ยอดขายเราลดลงในช่วงเวลากว่า 2 ปีนั้นเราจึงไม่มีทางเลือก ... ซึ่งตอนนั้นไก่พร้อมแล้วที่จะถูกแทนที่ แต่พวกมันก็ไม่ถูกแทนที่” คุณเฟเนคกล่าว
“และเมื่อความต้องการได้เพิ่มขึ้น การผลิตกลับตามทันได้ไม่เร็วพอ เพราะมันต้องใช้เวลาในการแทนที่สินค้าเหล่านั้น”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
วิกฤตผักขาดแคลนทำอาหารฟาสต์ฟู้ดในออสฯ รสชาติเปลี่ยนไป
โรวน์ แม็กมอนนีส์ (Rown McMonnies) กรรมการผู้จัดการ ออสเตรเลียน เอกส์ (Australian Eggs) บริษัทวิจัยและพัฒนาที่ให้บริการแก่เกษตรกรฟาร์มไก่ กล่าวว่า ขณะที่เกษตรกรสามารถผลิตให้ทันความต้องการได้ตลอดปีผ่านการวางแผน แต่การหยุดชะงักจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ทำให้สิ่งนี้เป็นเรื่องยากลำบาก
“เมื่อมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลงเมื่อปีที่แล้ว ความต้องการไข่ค้าปลีกลดลงทันที ส่งสัญญาณให้กับเกษตรกรหลายคนว่ามีความต้องการไข่น้อย” คุณแม็กมอนนีส์กล่าว
“แต่มันฟื้นตัวขึ้นมาเร็วกว่าที่เราคาด และความต้องการไข่ได้เพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา”
สิ่งนี้เกิดขึ้นทุกปีหรือเปล่า
ขณะที่ปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงได้รับการเน้นย้ำนับตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในปี 2020 การขาดแคลนผลิตภัณฑ์อาหารสดรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารประเภทอื่น ๆ เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้โดยทั่วไป
อย่างเช่นในฤดูหนาว คุณเฟเนคกล่าวว่า ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกแบบอิสระมักประสบปัญหากำลังการผลิตที่ลดลง
“จะมีช่วงหนึ่งของปีที่กำลังการผลิตเพิ่มเติมและความต้องการอาจลดลงไป ... มันเหมือนกับผลไม้กับผัก เรื่องเดียวกัน” คุณเฟเนคกล่าว
“ตลาดมีขึ้นมีลงตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนี้”
เมื่อไหร่อะไร ๆ จะกลับไปเป็นปกติ
คุณเฟเนคกล่าวว่า แม้จะแทบคาดเดาไม่ได้เลยว่าการขาดแคลนจะจบลงเมื่อไหร่ แต่การเพิ่มกำลังการผลิตให้พอกับความต้องการนั้นจะใช้เวลาหลายเดือน
“เมื่อถึงเวลาคุณตัดสินใจ (เพิ่มกำลังการผลิต) เอาไข่ใส่ตู้ฟัก ฟักไข่เหล่านั้น เลี้ยงไก่พวกนั้นจนโต ... ก็ประมาณ 6-8 เดือน” คุณเฟเนคกล่าว
“ผมคิดว่าเราแค่ต้องรอให้มันผ่านไป ไก่ไม่เหมือนกับกระดาษชำระ คุณทำให้เครื่องจักรทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไก่ออกไข่ได้แค่ (วันละ) ฟองเดียว และนั่นคือสิ่งที่คุณทำได้”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
แชร์ลูกโซ่:ภัยร้ายคู่ชุมชนไทย