การหลอกลวงของมิจฉาชีพในหลากหลายรูปแบบกำลังเกิดขึ้นอย่างชุกชุมในช่วงนี้ที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นอกจากจะมีเหยื่อผู้ที่ถูกหลอกให้สูญเสียเงินแล้ว ยังมีเหยื่อลำดับสอง หรือ secondary victims ที่ถูกหลอกอย่างไม่รู้ตัวให้กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเหล่ามิจฉาชีพ ซึ่งเหยื่อลำดับสองเหล่านี้ อาจเป็นคุณก็ได้
ฟังพอดคาสต์เรื่องนี้
LISTEN TO
ตำรวจเตือนระวังถูกอาชญากรหลอกใช้เป็นตัวกลางส่งเงิน
SBS Thai
15/10/202110:06
ตำรวจรัฐวิกตอเรียเผย ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะ นักเรียนต่างชาติ และผู้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใหม่ อาจติดร่างแหในคดีอาชญากรรมอย่างไม่รู้ตัว จากการอนุญาตให้คนอื่นเข้าถึงบัญชีเงินฝากของตน หรือเปิดบัญชีเงินฝากให้ผู้อื่นเข้าถึงได้
ตำรวจสายสืบ สิบตำรวจเอก เบ็ก สโตค จากหน่วยสืบสวนอาชญากรรมบริมแบงค์ (Brimbank Crime Investigation Unit) ในรัฐวิกตอเรีย เผยกับ เอสบีเอส ไทย ว่า ตำรวจกำลังเห็นเรื่องนี้เกิดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
"ขณะนี้เราเห็นแนวโน้มที่นักต้มตุ๋นมุ่งเป้าไปที่นักเรียนต่างชาติหรือผู้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใหม่ในออสเตรเลีย โดยขอให้พวกเขาเปิดบัญชีธนาคาร หรืออนุญาตให้นักต้มตุ๋นเหล่านี้เข้าถึงบัญชีธนาคารส่วนตัวของพวกเขาได้"
"หลังจากนั้นบัญชีเหล่านั้นกลายเป็นบัญชีเพื่อใช้ในการฉ้อโกง เงินที่ถูกฉ้อโกงมาจะถูกโอนผ่านบัญชีเพื่อการฉ้อโกงเหล่านี้ และโดยทั่วไปแล้วเงินจะถูกโอนออกจากบัญชีเหล่านี้ไปยังต่างประเทศในทันที" สิบตำรวจเอก เบ็ก สโตค เผย
เงินที่ถูกฉ้อโกงมาจะถูกโอนผ่านบัญชีเพื่อการฉ้อโกงเหล่านี้ และโดยทั่วไปแล้วเงินจะถูกโอนออกจากบัญชีเหล่านี้ไปยังต่างประเทศในทันที
เธอเล่าต่อไปว่า มิจฉาชีพมีกลอุบายที่แนบเนียบในการหลอกลองประชาชน โดยเอาผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ มาล่อใจ เพื่อให้เปิดบัญชีเงินฝากให้
“มิจฉาชีพจะขอให้คนเหล่านี้เปิดบัญชีธนาคารแทนพวกเขา โดยพวกเขาจะเสนอค่าตอบแทนที่มักเป็นเงินจำนวนไม่มากให้ อาจจะเป็นเงิน 200-300 เหรียญ ซึ่งนักเรียนต่างชาติหรือผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่อาจได้รับเพื่อตอบแทนจากการอนุญาตให้เข้าถึงบัญชีเงินฝากได้” สิบตำรวจเอก สโตค กล่าว
หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะใช้บัญชีเงินฝากเหล่านี้สำหรับกิจกรรมอาชญากรรมต่างๆ โดยที่ผู้ที่เปิดบัญชีหรือผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีเหล่านี้ไม่ตระหนักเลยว่า บัญชีถูกใช้เป็นเส้นทางส่งเงินจากเหยื่อที่สูญเสียเงินไปยังมือมิจฉาชีพ และพวกเขาถูกหลอกใช้ให้เป็นตัวกลาง
สิบตำรวจเอก เบ็ก สโตค กล่าวว่า หากมีการสอบสวนจากตำรวจเกิดขึ้น ประชาชนทั่วไป หรือนักเรียนต่างชาติ หรือผู้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใหม่ ที่เป็นมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากดังกล่าวจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
“พวกเขาอาจติดร่างแหในการโยกย้ายเงินที่ถูกฉ้อโกงมา พวกเขาอาจถูกสอบสวนจากตำรวจ และนั่นอาจนำไปสู่การถูกตั้งข้อหากระทำความผิดทางอาญาได้ ขึ้นอยู่กับระดับการมีส่วนร่วมในอาชญากรรมของพวกเขา” สิบตำรวจเอก สโตค ตำรวจสายสืบจากหน่วยสืบสวนอาชญากรรม ในวิกตอเรีย อธิบาย
อย่าไปเปิดบัญชีธนาคารให้ใคร หรือไปเปิดบัญชีแทนคนอื่น และอย่าอนุญาตให้ใครเข้าถึงบัญชีธนาคารส่วนตัวของพวกเรา
ประชาชนต้องรักษาข้อมูลระบุอัตลักษณ์ส่วนบุคคลของตนให้ดี อย่าให้ใครรู้รหัสผ่านหรือพาสเวิร์ดต่างๆ ของตน Source: Pixabay
“สำคัญอย่างมากๆ ที่ประชาชนจะต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัว อัตลักษณ์ส่วนบุคคล และเอกสารที่ระบุข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ให้ดี อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ หรือให้รหัสผ่าน (password) แก่ผู้ใด อย่าไปเปิดบัญชีธนาคารให้ใคร หรือไปเปิดบัญชีแทนคนอื่น และอย่าอนุญาตให้ใครเข้าถึงบัญชีธนาคารส่วนตัวของพวกเรา เพราะมันจะโยงกลับมาถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี”
สิบตำรวจเอก สโตค จากกรมตำรวจวิกตอเรีย แนะนำผู้ที่อาจเข้าไปพัวพันกับการให้มิจฉาชีพเข้าถึงบัญชีธนาคารให้รีบแจ้งเรื่องกับตำรวจโดยด่วน
“หากผู้ใดพบเห็นเรื่องนี้หรือเชื่อว่าตนได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประเภทใดก็ตาม สำคัญมากที่พวกเขาจะต้องแจ้งเรื่องนี้กับตำรวจเพื่อให้ตำรวจทำการประเมินว่าเกิดอะไรขึ้น หากพวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งให้ตำรวจทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและให้ตำรวจประเมิน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์แก่ตำรวจให้มากที่สุด นอกจากนี้ คุณอาจให้ปากคำอย่างเป็นทางการกับตำรวจ ว่าคุณเข้าไปพัวพันกับการหลอกลวงนี้ได้อย่างไร หากทำเช่นนี้ ตำรวจวิกตอเรียจะสามารถสืบสวนต่อได้” เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐวิกตอเรียผู้นี้ย้ำ
เหตุใดนักเรียนต่างชาติและผู้อพยพยย้ายถิ่นฐานมาอยู่ใหม่ จึงถูกมิจฉาชีพเพ่งเล็งที่จะใช้ประโยชน์ สิบตำรวจเอก สโตค คาดว่า อาจมาจากความไม่ตระหนักถึงการหลอกลวงที่กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังระบาดในออสเตรเลีย
“ฉันเดาว่าพวกเขาอาจมีความเสี่ยงถูกหลอก เพราะพวกเขาอาจมีความเข้าใจที่จำกัดเกี่ยวกับประเภทของหลอกลวงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ นักต้มตุ๋นเหล่านี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมาก คนเหล่านี้รู้วิธีทำให้คนวางใจ สิ่งที่ฉันอยากกล่าวก็คือ บางทีมันอาจจะเป็นแค่เพราะพวกเขามีความเข้าใจที่จำกัดเกี่ยวกับการหลอกลวงต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องการสร้างความตระหนักในชุมชนทั่วไป เพื่อพยายามจำกัดการเข้าไปพัวพันของประชาชน และลดการที่มิจฉาชีพจะเข้าถึงบัญชีธนาคารเพื่อการฉ้อโกงให้มากที่สุด” ตำรวจสายสืบ สิบตำรวจเอก เบ็ก สโตค จากหน่วยสืบสวนอาชญากรรมบริมแบงค์ (Brimbank Crime Investigation Unit) ในรัฐวิกตอเรีย กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับอาชญากรรมเหล่านี้ที่กล่าวในบทความ หรือสงสัยว่าตนอาจเข้าไปพัวพัน สามารถแจ้งเรื่องได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือแจ้งผ่าน หรือแจ้งกับ นอกจากนี้ผู้ตกเป็นเหยื่อสามารถขอความช่วยเหลือและสนับสนุนได้ที่
คุณสามารถฟังสัมภาษณ์ ตำรวจสายสืบ สิบตำรวจเอก เบ็ก สโตค อย่างเต็มๆ เป็นภาษาอังกฤษได้ที่นี่
Victoria Police warns new migrants not to get involved in fraudulent bank accounts
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ป้องกันอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อหลอกลวงต้มตุ๋นช่วงโควิด