ประเด็นสำคัญ
- ผู้อพยพย้ายถิ่นใหม่อาจพบกับสถานการณ์ที่ท่วมท้น เมื่อบุคคลอันเป็นที่รักเสียชีวิตไปอย่างไม่คาดฝัน
- ผู้จัดงานศพ (funeral director) จะเป็นผู้ทำให้แน่ใจว่าพิธีการต่าง ๆ ในพิธีศพดำเนินไปอย่างเหมาะสม
- เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพจะเข้ามามีส่วนรวมในบางกรณีที่จำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลนั้น
- สำนักงานทะเบียนราษฏร์ (Births, Deaths and Marriages Registry) จะให้บริการต่าง ๆ ตั้งแต่การออกใบมรณบัตร ไปจนถึงการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลนั้นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ
เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น สมาชิกในครอบครัวมักตกใจ เศร้าโศก และไม่ทราบว่าต้องทำอะไรต่อไป นี่อาจเป็นประสบการณ์ครั้งแรกสำหรับใครหลายคน และแตกต่างไปจากประเทศอื่น โดยเฉพาะที่เมืองไทย
แต่เมื่อวันนั้นมาถึง คุณจะต้องทำอย่างไร
กดฟังเรื่องนี้ในรูปแบบเสียง
สิ่งที่ควรรู้ในการจัดงานฌาปนกิจที่ออสเตรเลีย
SBS Thai
27/06/202212:57
ติดต่อผู้จัดงานศพ (funeral director)
คุณสก็อตต์ ดันคอมบ์ (Scott Duncombe) ผู้อำนวยการของซิดนีย์ ฟิวเนอรัลส์ โค (Sydney Funerals Co.) กล่าวว่า เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือติดต่อผู้จัดงานศพ
"เมื่อเวลานั้นมาถึง สิ่งสำคัญที่สุดคือติดต่อผู้จัดงานศพ (Funeral Director) เพราะพวกเขามีความรู้ เข้าใจทุกคนและกระบวนการที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการศพในออสเตรเลียหรือส่งไปต่างประเทศ”
คุณดันคอมบ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญคืออย่ารีบร้อน เพราะนี่เป็นเวลาของความไม่แน่นอนและความท้าทาย ผู้จัดงานศพจะประสานกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยจัดหาบริการจัดพิธีศพที่เหมาะสมและมีราคาย่อมเยา
"บ่อยครั้งที่เราจะดูแลบุคคลอันเป็นที่รักก่อน หลังจากนั้นเราจะนัดเจอพวกเขาอีกสองสามวันถัดมา จากนั้นงานศพจะถูกจัดขึ้น 5-10 วัน หลังจากที่มีการเสียชีวิต”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Settlement Guide: พินัยกรรมสำคัญอย่างไรในออสเตรเลีย
การแจ้งตาย
การแจ้งตายคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องทำในการจัดพิธีศพ ผู้จัดงานศพจะประสานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานทะเบียนราษฏร์ (Births, Deaths and Marriages Registry) และช่วยในการจดแจ้งการเสียชีวิต
อามิต ปาเดียร์ (Amit Padhiar) รักษาการณ์นายทะเบียนที่สำนักทะเบียนราษฏร์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ในหลายกรณีผู้จัดงานศพจะให้ข้อมูลที่จำเป็นกับสำนักทะเบียนราษฎร์เพื่อจดแจ้งการเสียชีวิต
หน้าที่ของสำนักทะเบียนราษฏร์ทั่วประเทศที่เกี่ยวกับการเสียชีวิต ประการแรกคือทำให้แน่ใจว่าเราจดทะเบียนการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นภายในรัฐหรือมณฑลของเราอามิต ปาเดียร์ (Amit Padhiar) รักษาการณ์นายทะเบียนที่สำนักทะเบียนราษฏร์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์
"ขั้นตอนนี้มักทำผ่านผู้จัดงานศพซึ่งเราทำงานด้วยอย่างใกล้ชิด จากนั้นพวกเขาจะให้ข้อมูลที่จำเป็น หรือส่วนหนึ่งของข้อมูลที่จำเป็นกับเรา ในการจดแจ้งการเสียชีวิตของบุคคลนั้น"
ใบมรณบัตร (Death certificate)
ใบมรณบัตรคือเอกสารยืนยันการเสียชีวิตของบุคคลนั้นอย่างเป็นทางการ และเป็นหลักฐานพิสูจน์ความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิต ใบมรณบัตรจะช่วยครอบครัวในกระบวนการเอกสารต่าง ๆ หลังจากมีผู้เสียชีวิต
สำนักทะเบียนราษฎร์จะออกใบมรณบัตรให้ หลังการยืนยันรายละเอียดของผู้เสียชีวิตเสร็จสิ้น
ใบมรณบัตรจะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรายละเอียดของผู้เสียชีวิต ความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขา และสาเหตุการเสียชีวิตทางการแพทย์ที่ระบุโดยแพทย์เวชปฏิบัติ หรือเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ
ในบางกรณี อาจมีความจำเป็นที่จะต้องทำการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลนั้น เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ (Coroner) จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้
Source: Getty / Getty Images/Kris Loertscher/EyeEm
บทบาทของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ
แจ็คกี ฮอว์กินส์ (Jacqui Hawkins) รองผู้อำนวยการการชันสูตรศพในรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า การระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตคือหนึ่งใน 3 หน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ
"เราสืบสวนการเสียชีวิตที่ไม่คาดคิดและไม่ทราบสาเหตุ ได้แก่ การฆาตกรรม อุบัติเหตุบนท้องถนน การฆ่าตัวตาย และการใช้ยาเกินขนาด และนั่นนับเป็นประมาณ 7,000 รายต่อปีในวิกตอเรีย"
จากที่คุณฮอว์กินส์อธิบายเมื่อข้างต้น หน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพคือการกำหนด 3 สิ่งดังต่อไปนี้
- ตัวตนของผู้เสียชีวิต
- สาเหตุของการเสียชีวิต
- สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
"เรายังพยายามที่จะให้คำแนะนำเพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากกรณีเดียวกันเพื่อปกป้องชุมชนรัฐวิกตอเรีย" คุณฮอว์กินส์ กล่าว
เมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ระยะเวลาก่อนที่จะจัดงานศพได้อาจแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับการทดสอบต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพต้องทำเพื่อระบุสาเหตุของการเสียชีวิต
โดยงานศพจะจัดขึ้นได้หลังจากมีการออกใบมรณบัตรและเมื่อกระบวนการอื่น ๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว
Japanese funeral scene Source: Getty / Getty Images/Arrow
การจัดงานศพในรูปแบบต่าง ๆ
รูปแบบของการจัดงานศพ โดยหลัก ๆคือการฝังและการเผา โดยครอบครัวจะเลือกได้ว่าต้องการงานศพแบบใด สิ่งนี้อาจขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและพิธีกรรมทางศาสนาของทางครอบครัว
คุณดันคอมบ์ จากซิดนีย์ ฟิวเนอรัลส์ โค กล่าวว่า ออสเตรเลียคือสังคมพหุวัฒนธรรม และผู้จัดงานศพจะประสานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนที่แตกต่างเพื่อทำให้แน่ใจว่าพิธีศพเป็นไปตามข้อกำหนดทางวัฒนธรรม
ด้วยออสเตรเลียเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างที่เราเป็นอยู่เช่นนี้ ผู้จัดงานศพส่วนมากจะทำงานร่วมกับทุกชุมชนและทุกวัฒนธรรม
สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องสอบถามผู้จัดงานศพหลาย ๆ เจ้า และเลือกเจ้าที่ให้บริการตามความต้องการเรื่องวัฒนธรรมและศาสนาของครอบครัวคุณได้มากที่สุด เช่น การจัดการศพตามหลักของศาสนาอิสลาม งานศพจะต้องจัดทันทีหลังจากมีผู้เสียชีวิต และต้องฝังศพให้เร็วที่สุด
โดยครอบครัวสามารถติดต่อองค์กรอิสลามท้องถิ่นเพื่อช่วยในการจัดพิธีศพแบบมุสลิมได้ มีความเชี่ยวชาญในการจัดพิธีศพแบบอิสลามและอาจมีประสบการณ์ในการทำงานกับครอบครัวชาวมุสลิมมาก่อน
Funerals can be costly Source: Getty / Getty Images/Peter Dazaeley
ค่าทำศพ
แมททิว คูริอะโคส (Mathew Kuriakose กล่าวว่า ในหลายกรณี โดยเฉพาะสำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นใหม่ ค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีศพอาจเป็นเรื่องที่ท่วมท้น
"ผมต้องมองหาบริการจัดงานศพที่ราคาย่อมเยา ผมโทรหาอยู่ 2-3 เจ้า แล้วในที่สุดก็เจอเจ้าที่ดี"
โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีศพในออสเตรเลียจะอยู่ที่ระหว่าง $4,000 ถึง $15,000 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้น
หากครอบครัวไม่สามารถจ่ายค่าจัดงานศพได้ และผู้เสียชีวิตมีเงินไม่พอในกองมรดก รัฐบาลจะจ่ายค่าจัดงานศพแบบพื้นฐานที่สุดให้ ซึ่งครอบครัวสามารถเข้าร่วมพิธีได้
ความช่วยเหลือในภาษาของคุณ
คุณฮอว์กินส์กล่าวว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพได้เข้ามามีส่วนด้วย มีหลายมาตรการเพื่อสนับสนุนสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงการส่งต่อเพื่อพบจิตแพทย์ที่ให้คำปรึกษาในกรณีความสูญเสีย
ทุกครอบครัวจะได้รับโบรชัวร์ที่เรียกว่า ‘เกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ (What happens now)’ ซึ่งจะอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ คุณสามารถหาเอกสารนี้และเอกสารอื่น ๆ ได้จาก มีบางเอกสารได้รับการแปลไว้ 15 ภาษาที่มักใช้อย่างแพร่หลาย
คุณปาเดียร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือและการสนับสนุนหลายอย่างสำหรับจัดการธุระเรื่องงานศพของคุณ หนึ่งในบริการนั้นคือ
"รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์มีเครื่องมือในการวางแผนเมื่อชีวิตล่วงลับ ที่เปิดโอกาสให้คุณทำให้แน่ใจได้ว่าธุระของคุณได้รับการจัดการอย่างที่คุณต้องการให้เป็น เมื่อคุณสูญเสียความสามารถในการตัดสินใจด้วยตนเองหรือเสียชีวิต ... ได้แก่การเตรียมเอกสารสำคัญ อย่างเช่น พินัยกรรมของคุณ และใบมอบอำนาจ"
Family at grave Source: Getty / Getty Images/Phillippe Lissac
การส่งศพหรือเถ้าถ่านกลับประเทศต้องได้รับการอนุมัติก่อน หากมีการเผาศพหรือฝังศพที่นี่ กระบวนการขออนุมัตินั้นไม่จำเป็น และผู้จัดงานศพจะบอกกับสถานฑูต (ของประเทศเกิดของผู้เสียชีวิต) เช่นนั้นได้
บริการแจ้งการเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต สิ่งสำคัญคือการแจ้งข้อมูลแก่องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร บริษัทสินเชื่อ บริษัทให้บริการประปาและไฟฟ้า
คุณปาเดียร์กล่าวว่า เป็นช่องทางที่จะช่วยแจ้งเรื่องไปยังหลายองค์กรเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลนั้น บริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายและมีองค์กรต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประมาณ 70 แห่งทั่วออสเตรเลีย และยังให้บริการแปลใน 50 ภาษา
บางองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งของ DNS คือองค์กรอย่างธนาคาร โทรคมนาคม สาธารณูปโภค ประกัน และหน่วยงานรัฐอื่น ๆ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในงานศพ ไปที่เว็บไซต์ของ หรือไปที่ลิงก์ด้านล่างตามรัฐและมณฑลที่ท่านอาศัย
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ผู้เดินทางมาออสเตรเลียถูกปรับเพราะนำแฮมเบอร์เกอร์ติดตัวเข้ามาจากอินโดนีเซีย