Analysis

ขอ PayID ของคุณได้ไหม?: วิธีป้องกันการถูกหลอกเมื่อขายของออนไลน์

กลการหลอกลวงเรื่อง PayID คือการที่มิจฉาชีพพยายามหลอกเอาเงินจากคุณโดยนำวิธีจ่ายเงินผ่าน PayID มาเป็นข้ออ้าง ซึ่งมีผู้คนในออสเตรเลียสูญเงินไปกับการหลอกลวงประเภทนี้แล้วกว่า 260,000 ดอลลาร์ในปี 2022

A young man holding a phone and looking at it.

More than $45 million was reported lost through fraudulent buying and selling schemes in 2022. Source: AAP / Jaap Arriens/PA/Alamy

คุณเพิ่งซื้อโซฟาใหม่ที่คุณอยากได้อย่างมาก แต่โซฟาเก่าก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ ดังนั้น คุณจึงประกาศขายมันออนไลน์เพื่อลองหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากโซฟาตัวเก่านี้

ในแต่ละวัน มีผู้คนในออสเตรเลียหลายพันคนประกาศขายสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการแล้วผ่านเว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์ เช่น Facebook Marketplace และ Gumtree มันเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและสะดวกสบาย และยังช่วยให้เราไม่ต้องนำสิ่งของเหลือใช้ไปทิ้งลงหลุมฝังกลบขยะ

แต่น่าเสียดายที่มิจฉาชีพกำลังพุ่งเป้าอย่างต่อเนื่องไปยังผู้ซื้อและผู้ขายที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยมีผู้คนรายงานว่าถูกหลอกให้สูญเงินไปแล้วรวมกันกว่า 45 ล้านดอลลาร์จากการหลอกลวงผ่านการซื้อหรือขายของออนไลน์ในปี 2022

การที่ตลาดออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมากจึงทำให้กลายเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยมิจฉาชีพ แม้กระทั่งมีรายงานล่าสุดว่า มิจฉาชีพใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อทำร้ายร่างกายเหยื่อที่เป็นผู้ขายของออนไลน์

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มสูงกว่าที่มิจฉาชีพจะพยายามหลอกเอาเงินผ่านวิธีการชำระเงินต่าง ๆ กลการหลอกลวงโดยอ้าง PayID เป็นตัวอย่างวิธีหลอกลวงที่ได้รับความนิยม โดยมีผู้คนในออสเตรเลียสูญเงินไปกับกลการหลอกลวงนี้แล้วกว่า 260,000 ดอลลาร์ในปี 2022

PayID คืออะไร?

PayID (เพย์ไอดี) เป็นรูปแบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเริ่มใช้ในออสเตรเลียในปี 2018 เพื่อลดการชำระเงินเข้าผิดบัญชีและลดการฉ้อโกง โดยแสดงชื่อผู้รับเงินให้ผู้นำเงินเข้าบัญชีได้ทราบ PayID มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้การโอนเงินง่ายขึ้น ที่สำคัญ PayID ช่วยลดความจำเป็นต้องจดจำบัญชีธนาคารและหมายเลข BSB และแก้ปัญหาการป้อนข้อมูลไม่ถูกต้อง

การที่จะมี PayID ใช้นั้น ผู้บริโภคสามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือ ABN เป็นข้อมูลสำหรับระบุอัตลักษณ์ได้ โดยธนาคารจะตรวจสอบยืนยันบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลนี้ จากนั้นจะเชื่อมโยงบัญชีธนาคารของบุคคลนั้นกับ PayID
หากต้องการโอนเงินโดยใช้ PayID ระบบธนาคารออนไลน์ส่วนใหญ่จะขอ PayID ของผู้รับ คุณเพียงแค่พิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือ ABN ก็จะแสดงชื่อผู้รับที่ต้องการ หากถูกต้อง ลูกค้าสามารถอนุมัติการชำระเงินได้ หากชื่อที่แสดงไม่ถูกต้อง ลูกค้าก็สามารถยกเลิกการชำระเงินได้อย่างง่ายดาย

การหลอกลวงโดยอ้าง PayID มีวิธีการอย่างไร?

หากคุณกำลังโฆษณาขายสินค้าทางออนไลน์ มิจฉาชีพจะติดต่อคุณเพื่อซื้อสินค้าดังกล่าว พวกเขามักจะไม่ถามเรื่องราคา และแทบไม่อยากจะดูสินค้าก่อนด้วยซ้ำ ในหลายกรณี พวกเขาจะบอกว่าสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนจะไปรับของจากคุณ

มิจฉาชีพจะขอให้คุณยอมรับการชำระเงินผ่าน PayID เมื่อคุณแจ้ง PayID ของคุณให้ผู้ซื้อทราบ (โดยปกติจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมล) จากนั้นก็อาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นคือ
Examples of PayID scam messages received via Facebook Marketplace.
The popularity of online marketplaces has made them a fertile ground for fraudsters. Credit: The Conversation
มิจฉาชีพจะบอกว่าได้ชำระเงินแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากคุณไม่มีบัญชี PayID ที่เหมาะสม คุณจะได้รับแจ้งว่าคุณจำเป็นต้อง "อัปเกรด" บัญชีและ/หรือชำระเงินเพิ่มเติมเสียก่อนจึงจะได้รับเงินค่าสินค้า

หรือมิจฉาชีพจะบอกว่าพวกเขาได้จ่ายเงินเกินราคาสินค้า และขอให้คุณคืนเงินที่จ่ายเกิน หากคุณโอนเงินไปตามที่บอก คุณก็จะสูญเงินไปทันทีให้แก่มิจฉาชีพหรือสแกมเมอร์

กลการหลอกลวงอีกส่วนหนึ่งคือ มิจฉาชีพจะสร้างข้อความและอีเมลที่ดูเหมือนว่ามาจาก PayID เพื่อยืนยันการชำระเงินหรือแจ้งปัญหา น่ากลัวตรงที่ข้อความเหล่านี้อาจปรากฎอยู่ในช่องทางการรับข้อความ SMS ที่คุณเคยได้รับจากธนาคารของคุณ คุณอาจคิดว่าข้อความหรืออีเมลเหล่านั้นเป็นของจริง แต่มันเป็นของปลอมที่ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกคุณให้โอนเงินให้แก่มิจฉาชีพหรือสแกมเมอร์

เราจะหลีกเลี่ยงการถูกหลอกเกี่ยวกับ PayID ได้อย่างไร?

มีสิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนหลายประการที่ต้องเราระวังเมื่อขายสินค้าออนไลน์:
  • PayID เป็นบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมใด ๆ
  • PayID ถูกบริหารจัดการผ่านธนาคารแต่ละแห่ง PayID จะไม่สื่อสารกับลูกค้าโดยตรงผ่านข้อความ อีเมล หรือโทรศัพท์ ดังนั้นการติดต่อใด ๆ ที่ระบุว่า "มาจาก PayID" ถือเป็นของปลอม
  • ผู้ซื้อที่บริสุทธิ์ใจมักขอดูสินค้าและมารับสินค้า ผู้ซื้อที่บอกว่าจะส่งสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนไปรับสินค้าถือเป็นสัญญาณอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาไม่เต็มใจที่จะจ่ายเป็นเงินสด

จะทำอย่างไรถ้าคุณถูกหลอกลวง?

หากคุณคิดว่าคุณตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเกี่ยวกับ PayID คุณควรติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินของคุณทันที ยิ่งคุณติดต่อเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งดีเท่านั้น

คุณสามารถรายงานการสูญเสียทางการเงินต่าง ๆ ผ่านทาง ​​ได้ซึ่งเป็นพอร์ทัลออนไลน์สำหรับแจ้งตำรวจเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์

นอกจากนั้น คุณยังสามารถ ได้อีกด้วย เพื่อช่วยในด้านกิจกรรมการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ในหมู่ประชาชนทั่วไป

หากข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของคุณรั่วไหลหรือถูกโจรกรรม คุณสามารถ ได้

สำหรับปี 2023 จนถึงขณะนี้ มีผู้คนในออสเตรเลียรายงานว่าสูญเสียเงินไปแล้วกว่า 32 ล้านดอลลาร์จากการหลอกลวงผ่านการซื้อและขายของออนไลน์ รวมถึงการหลอกลวงเกี่ยวกับ PayID ดังนั้น คุณจึงควรระมัดระวังเมื่อซื้อหรือขายสินค้าออนไลน์ และไปที่ เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับกลการหลอกลวงประเภทต่าง ๆ


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 



Share
Published 18 September 2023 1:14pm
By Cassandra Cross
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends