เมื่อ วิชา สันยาสี ซึ่งอาศัยอยู่ที่นครเพิร์ท และครอบครัวของเธอรีบกลับไปที่ประเทศมอริเชียสในเดือนมีนาคม 2020 เพราะเหตุฉุกเฉินในครอบครัว เธอไม่เคยคิดเลยว่าพวกเธอจะติดอยู่ที่นั่นนานถึงสองปีหลังจากนั้น
คุณสันยาสี วัย 36 ปี ถือบริดจิงวีซ่าประเภทบี (Bridging Visa B หรือ BVB) ที่มีอายุจนถึงเดือนกรกฎาคม 2020 บริดจิงวีซ่าประเภทบีของเธอหมดอายุลงในขณะที่เธอติดอยู่ที่ต่างประเทศ หลังสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้พรมแดนของออสเตรเลียปิดลง
ขณะนี้ เธอไม่มีหนทางกลับบ้านที่ออสเตรเลีย เธอจึงตัดใจนำสุนัขของเธอไปให้คนอื่นช่วยเลี้ยง และจ่ายค่าเช่าบ้านที่ไม่มีคนอาศัยอยู่อย่างเจ็บปวด
“เรารักออสเตรเลีย เราทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเศรษฐกิจของออสเตรเลีย แล้วทำไมถึงทิ้งเราไว้อย่างนี้” คุณสันยาสี บอกกับ เอสบีเอสนิวส์
"เราแค่ต้องการชีวิตของเราคืน"
Visha Sunyasi, who hasn't seen her dog in two years, has been forced to put him up for adoption. Source: Supplied/Visha Sunyasi
วีซ่าที่ถูกแบ่งแยก
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียได้ประกาศเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวีซ่าหลายครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจออสเตรเลีย โดยอนุญาตให้ผู้ย้ายถิ่นฐานที่มีทักษะอาชีพเดินทางเข้าประเทศได้
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีขึ้น เนื่องจากออสเตรเลียเผชิญปัญหาขาดแคลนทักษะอาชีพที่สำคัญ หลังจากประสบการขาดแคลนผู้อพยพสะสมกว่า 375,000 คนในหนึ่งปี ตามรายงานการขาดแคลนทักษะ EY 2021
มีให้สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ผู้ถือวีซ่าเวิร์กกิง ฮอลิเดย์ และรวมถึงการขยายระยะเวลาวีซ่าสำหรับผู้ถือวีซ่าชั่วคราวบางกลุ่ม และให้เส้นทางสำหรับการเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรสำหรับผู้ถือวีซ่าประเภทอื่นๆ
ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2021 ผู้ถือวีซ่าที่มีสิทธิ์สามารถเดินทางเข้า-ออกจากออสเตรเลียได้ โดยไม่ต้องขอยกเว้นการเดินทาง ซึ่งสอดคล้องกับแผนฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล
“ข่าวดีก็คือ รายการ 'วีซ่าที่มีสิทธิ์' ค่อนข้างละเอียด และอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวส่วนใหญ่สามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องขอยกเว้นการเดินทาง” คุณไมฮาน ฮานนาน ทนายความด้านการย้ายถิ่นฐาน จาก Hannan Tew Lawyers กล่าว
แต่ผู้ถือบริดจิงวีซ่า (Bridging Visa) ไม่รวมอยู่ในรายการวีซ่าที่มีสิทธิ์นี้ด้วย
“หากไม่ได้รับยกเว้นการเดินทาง ผู้ถือบริดจิงวีซ่ายังคงสามารถเดินทางออกจากออสเตรเลียได้ แต่อาจไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาได้จนกว่าข้อจำกัดด้านการเดินทางจะผ่อนคลายลง (หรือพวกเขาได้รับการยกเว้นการเดินทาง)” คุณฮานนาน กล่าว
'ถูกเลือกปฏิบัติ'
คุณอะนิช ไร มาที่ออสเตรเลียในปี 2013 ในฐานะนักเรียนต่างชาติ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้เรียกออสเตรเลียว่าเป็นบ้านของเขา และได้ทำงานเป็นเชฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในนครเพิร์ท
ระหว่างรอดำเนินการขอวีซ่าทำงานประเภท 186 (Subclass 186) ที่มีนายจ้างเป็นผู้เสนอชื่อ เขาและภรรยาของเขาคือ จิกยาชา คาร์คี ได้รับบริดจิงวีซ่า
แต่ในเดือนสิงหาคม 2021 แม่ของเขาที่ประเทศเนปาลมีสุขภาพย่ำแย่ เขาและภรรยาจึงเดินทางไปที่นั่นเพื่อดูแลแม่ โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถกลับมายังออสเตรเลียได้ในที่สุด ภายใต้การยกเว้นให้แก่แรงงานทักษะ
แม้จะพยายามขอยกเว้นการเดินทางเข้ามาสามครั้ง แต่พวกเขาก็ถูกปฏิเสธทั้งสามครั้ง คุณไรและภรรยาจึงรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก
“มันน่าเศร้าใจจริงๆ เพราะทุกคนกำลังกลับสู่ชีวิตปกติ แต่พวกเรากลับยังคงติดอยู่ที่นี่” เขาบอกกับเอสบีเอส นิวส์
“นายกฯ เอาใจทุกคน ทั้งนักศึกษาและนักท่องเที่ยว ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้ แต่แรงงานทักษะที่ติดอยู่นอกประเทศล่ะ? พวกเราสามารถทำอะไรได้มากมายเพื่อเศรษฐกิจออสเตรเลีย”
“เรารู้สึกเหมือนว่าเราถูกเลือกปฏิบัติเพียงเพราะวีซ่าของเรา เรารู้สึกเหมือนถูกตัดสินเพียงเพราะประเภทของวีซ่าของเรา แค่นั้นจริงๆ” คุณคาร์คี กล่าว
และไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่ประสบเหตุการณ์เช่นนี้
กระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2021 มีผู้ถือบริดจิงวีซ่าประเภทบี (BVB) 23,239 คน และในจำนวนนั้นร้อยละ 18 กำลังอยู่นอกประเทศออสเตรเลีย
จำนวนนี้ไม่รวมอดีตผู้ถือวีซ่า BVB ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวีซ่าของพวกเขาได้หมดอายุลง
ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 ถึง 30 เมษายน 2021 มีอดีตผู้ถือวีว่า BVB จำนวน 7,315 คน
ขณะนี้ได้มีการรณรงค์ออนไลน์สำหรับบริดจิงวีซ่าประเภทบี (BVB) โดยรวบรวมลายเซ็นผู้สนับสนุนได้แล้วขณะนี้ 16,000 ลายเซ็น เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มบริดจิงวีซ่าประเภทบี (BVB) ลงในรายการวีซ่าที่ได้รับยกเว้นให้เดินทางเข้า-ออกออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องขอยกเว้นการเดินทาง
“ควรมีการขยายข้อจำกัดการเดินทางให้ครอบคลุมผู้ถือบริดจิงวีซ่า เพราะเป็นสิ่งถูกต้องที่ควรทำ เพื่อจะได้ให้พวกเขามีส่วนร่วมสร้างสรรค์สิ่งที่มีความหมายให้แก่ประเทศออสเตรเลีย” คุณ ฮานนาน กล่าว
แล้ววิศวกรที่มีทักษะล่ะ?
คุณซาอีฟ อัลนาจาม วัย 28 ปีเป็นหนึ่งในหลายพันคนที่ได้รับวีซ่าบัณฑิตด้านวิศวกรรมที่มีทักษะอาชีพ (Subclass 476) เพื่อเติมเต็มการขาดแคลนลูกจ้างผู้มีทักษะในด้านนี้ในออสเตรเลียหลังจากขายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของเขาที่มาเลเซีย จัดกระเป๋า และรับข้อเสนอจากนายจ้างเพื่อมาทำงานในซิดนีย์ในปี 2020 แต่พรมแดนก็ปิดลง และเขาก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามายังออสเตรเลียได้
Saif Alnajam is pleading for the government for an explanation as to why skilled recognised graduate visas have not been renewed. Source: Supplied/Saif Alnajam
แม้ว่าวีซ่าของเขาจะได้รับการต่ออายุให้หนึ่งครั้งจนถึงเดือนมีนาคม 2021 แต่รัฐบาลไม่ได้ขยายเวลาในวีซ่าเพิ่มเติมให้เขา และความฝันของเขาที่จะทำงานเป็นวิศวกรโยธาในออสเตรเลียก็ต้องหยุดชะงักลง
“มันน่าผิดหวังมากเพราะ … เรามีสิทธิ์ทำงานอย่างเต็มที่ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากที่จะได้ไปทำงานที่นั่น” เขาบอกกับเอสบีเอสนิวส์
ความสับสนของเขาเกิดจากการตัดสินใจของรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่จะขยายระยะเวลาในวีซ่าให้สำหรับวีซ่าที่เมื่อก่อนนี้เรียกกันว่า วีซ่าชั่วคราวสำหรับบัณฑิตที่จบการศึกษา (Subclass 485) เพื่ออนุญาตให้พวกเขาเดินทางมายังออสเตรเลียได้ หากพวกเขาถือวีซ่าอยู่ในช่วงที่มีการปิดพรมแดน
“ทำไมถึงอนุญาตให้คนบางกลุ่มต่ออายุวีซ่าและเริ่มต้นชีวิตในออสเตรเลียได้ แต่ไม่อนุญาตให้สำหรับคนอื่น ผมยังคงไม่เข้าใจ” คุณ อัลนาจาม กล่าว
"ให้ความกระจ่างแก่พวกเราหน่อย"
“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สนับสนุนการกลับมายังออสเตรเลียโดยเร็วที่สุดของผู้ถือวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้สำเร็จการศึกษา ก่อนการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมที่วางแผนไว้ว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2022 ซึ่งตั้งแต่วันนั้นจะให้ทางเลือกในการต่ออายุวีซ่าเพิ่มเติมแก่อดีตบัณฑิตด้วย” นายเอล็กซ์ ฮอร์ก รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมือง ระบุในคำแถลง
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 ถึง 30 พฤศจิกายน 2021 มีผู้ถือวีซ่าบัณฑิตด้านวิศวกรรมที่มีทักษะ 2,232 คน ซึ่งวีซ่าของพวกเขาได้หมดอายุลงแล้วและยังไม่ได้ต่อวีซ่าตั้งแต่พรมแดนเปิด
ภาระด้านการเงิน
แม้ว่าคุณสันยาสีและครอบครัวยังคงหวังว่า บริดจิงวีซ่าของพวกเขาจะได้รับการยอมรับให้เดินทางกับมายังออสเตรเลียได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายตามมาที่แสนแพงและก่อให้เกิดความวุ่นวายในชีวิตอย่างมาก
พวกเขาต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่หมด และยังคงจ่ายค่าบ้านที่พวกเขาเช่าในเพิร์ธ รวมทั้งจ่ายค่าอาหารสำหรับโบ สุนัขของพวกเขาที่คนอื่นช่วยนำไปเลี้ยงดู
“ฉันไม่สามารถทำจะได้แม้แต่การสมัครงานที่เหมาะสม เพราะเราต้องยื่นเอกสารตัวจริงเมื่อเราไปสัมภาษณ์งาน” คุณสันยาสี กล่าว
“เราทิ้งสูติบัตรของลูกชายฉันไว้ที่ออสเตรเลีย ประกาศนียบัตรการศึกษาของฉัน ใบรับรองของฉัน ทุกอย่างอยู่ที่นั่น”
ชอน ลูกชายของคุณสันยาสี ที่เกิดในออสเตรเลียนั้น อายุเก้าขวบเมื่อเขามาถึงมอริเชียสเป็นครั้งแรก และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ขาดการศึกษาไปสองปี
เพราะไม่มีบัตรประจำตัวชาวมอริเชียส หรือไม่สามารถพูดภาษาครีโอลหรือภาษาฝรั่งเศสได้ คุณสันยาสีจึงไม่สามารถลงทะเบียนให้ชอนเรียนในระบบโรงเรียนของรัฐได้เธอบอกว่าเธอต้องใช้เงินหลายพันดอลลาร์เพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนในโรงเรียนเอกชน เพื่อให้แน่ใจว่าชอนจะไม่ล้าหลังในด้านการศึกษา
Ms Sunyasi and her son, Shaun, eagerly await the opportunity to return back home. Source: Supplied/Visha Sunyasi
ชอนกล่าวว่า การต้องย้ายไปอยู่มอริเชียสอย่างไม่ได้เตรียมตัวนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ "ตึงเครียดมาก" และเขาเฝ้ารอที่จะได้กลับไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านค้ากับเพื่อนๆ ของเขาที่เพิร์ท ซึ่งไม่ได้เจอกันมาสองปีแล้ว
“ผมแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปออสเตรเลียเพื่อจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ พวกเรากำลังคุยกันว่าจะออกไปใช้เวลาด้วยกันเมื่อผมกลับไป”
เอสบีเอส นิวส์ ได้ติดต่อนายเอล็กซ์ ฮอร์ก รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอความคิดเห็น
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรเลียงดเว้นค่าวีซ่านักเรียน-เวิร์กกิงฮอลิเดย์