การอพยพย้ายถิ่นมายังออสเตรเลียลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เริ่มต้นขึ้น จากมาตรการจำกัดห้ามการเดินทางในหลายพื้นที่ รวมถึงการปิดพรมแดนระหว่างประเทศ มีการคาดการณ์ว่าทุกอย่างจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2022
ข้อมูลดังกล่าว มาจากรายงานด้านเศรษฐกิจช่วงกลางปีงบประมาณของหน่วยงานการคลัง () ที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2021 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้การอพยพย้ายถิ่นสุทธิของประเทศในปีงบประมาณ 2021-22 จะได้รับการคาดการณ์ไว้ที่ราว -41,000 คน แต่ก็คาดว่าการอพยพย้ายถิ่นสุทธิในปีงบประมาณ 2022-23 จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 180,000 คน (หรือคิดเป็นสองเท่าของการคาดการณ์ในครั้งก่อน)
ทั้งนี้ โครงการอพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลียได้มีการจัดตั้งขึ้นทุกปี เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายนของทุกปีงบประมาณ ขณะที่คาดการณ์จำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นสุทธิในปีงบประมาณ 2024-25 ยังคงเดิมอยู่ที่ 235,000 คน
ผู้ถือวีซ่าออสเตรเลียชนิดใดบ้างที่เดินทางเข้ามาได้
ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา พรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียกลับมาเปิดอีกครั้งสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และผู้ถือวีซ่าทักษะอาชีพบางชนิดที่มีสิทธิ์ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ในร่างงบประมาณแผ่นดินของรัฐบาลสหพันธรัฐเกือบ 6 เดือน
โอกาสมากขึ้นสำหรับผู้ถือวีซ่าชั่วคราว
นายเบ็น วัตต์ (Ben Watt) ทนายความด้านการอพยพย้ายถิ่นจาก Visa Envoy ระบุว่า ระหว่างที่ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวจำนวนมากเดินทางออกจากออสเตรเลียไปในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ เนื่องจากขาดการสนับสนุนสำหรับการทำงานและสวัสดิการ เขาคาดว่ารัฐบาลจะมุ่งเป้าเพื่อเสนอหนทางสู่การได้เป็นผู้อาศัยถาวรให้กับผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่เหลือซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศ ซึ่งบางอย่างก็ได้ประกาศออกมาแล้ว
ระดับการวางแผนในโครงการอพยพย้ายถิ่นปีงบประมาณ 2021-22 ยังคงรักษาระดับอยู่ที่ 160,000 ตำแหน่ง โดยอยู่บนพื้นฐานของการจัดสรรตำแหน่งเมื่อปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่า จะมีตำแหน่งสำหรับวีซ่าในช่องทางทักษะ (Skill stream) 79,600 ตำแหน่ง ช่องทางครอบครัว (Family stream) 77,300 ตำแหน่ง ช่องทางสำหรับผู้มีสิทธิ์เป็นกรณีพิเศษ (Special Eligibility) 100 ตำแหน่ง และช่องทางสำหรับเด็ก (Children) จำนวน 3,000 ตำแหน่ง
“สำหรับผม ดูเหมือนว่าหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลียต้องการที่จะเติมตำแหน่งในโครงการเหล่านั้น 160,000 ตำแหน่ง ด้วยผู้คนจำนวนหนึ่งที่อยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่าชั่วคราว พวกเขาพยายามที่จะโน้มน้าวผู้คนที่อยู่ในออสเตรเลียอยู่แล้วมาเป็นผู้อพยพย้ายถิ่นถาวร” นายวัตต์ กล่าว
“นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเขากำลังผ่อนคลาย และมอบหลายหนทาง รวมถึงจุดต่อยอดสำหรับผู้คนซึ่งอยู่ที่นี่แล้ว เพื่อให้ได้คว้าฝันในการอพยพย้ายถิ่นมาอยู่ที่นี่”
“รัฐบาลได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงด้านวีซ่าหลายอย่างในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ไปแล้ว และจะพิจารณาข้อกำหนดและเงื่อนไขด้านวีซ่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของออสเตรเลีย” โฆษกหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์
เส้นทางสู่ผู้อาศัยถาวรสำหรับผู้อพยพที่มีทักษะงานด้านสุขภาพ-งานบริการ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศ เพื่อรักษาจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะสูง (highly skilled migrants) ในภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงกล่าว ผู้อพยพย้ายถิ่นที่เลือกจะอาศัยและทำงานอยู่ในออสเตรเลียในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ จะได้รับสิทธิ์ในการได้เป็นผู้อาศัยถาวร
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อาจเป็นผลดีสำหรับผู้ถือวีซ่าขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะสูงชั่วคราว หรือ Temporary Skill Shortage (subclass 482) ในช่องทางจ้างงานระยะสั้น (short-term stream) ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจำกัดด้วยเวลาอาศัยอยู่ในออสเตรเลียสูงสุดเพียง 2 ปี โดยไม่มีเส้นทางอื่นต่อ
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ยังเป็นผลดีต่อผู้ถือวีซ่าอนุญาตให้แรงงานที่มีทักษะสูงสามารถทำงานได้ หรือ Temporary Work Skilled (subclass 457) ที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด (ปัจจุบันวีซ่านี้สิ้นสุดลงแล้ว)
“นี่เป็นการลดหย่อนพิเศษเพื่อยกย่องแรงงานอพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะสูงเหล่านั้น ซึ่งเลือกอาศัยอยู่ในออสเตรเลียในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ ระหว่างที่ยังคงมีการแก้ปัญหาในการขาดแคลนคนทำงานอย่างฉับพลันของออสเตรเลีย นี่จะทำให้พวกเขาได้อยู่ที่นี่พร้อมกับหนทางสู่การเป็นพลเมืองออสเตรเลีย” นายอเล็กซ์ ฮอว์ก (Alex Hawke) รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลีย กล่าวในเวลานั้น
นายฮอว์ก กล่าวว่า มีผู้ถือวีซ่าประมาณ 20,000 รายที่อาจได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยกลุ่มที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือกลุ่มคนที่ได้รับการจ้างงานในอุตสาหกรรมสุขภาพและธุรกิจบริการ
ด้าน นายวัตต์ ทนายความด้านการอพยพย้ายถิ่นจาก Visa Envoy กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับผู้อาศัยและทำงานในแวดวงธุรกิจบริการบางส่วนในเมืองใหญ่ และกำลังประสบปัญหาในการดำเนินการสมัครเป็นผู้อาศัยถาวร
“ตลอดเวลาที่ผมทำงานในวงการนี้ ผมมักพบกับกุ๊กและผู้จัดการร้านอาหารจำนวนมากที่เข้ามา พวกเขาทำงานในกิจการหรือร้านอาหารในเมืองอย่างซิดนีย์ บริสเบน และเมลเบิร์น และมีความสามารถที่จะมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง” นายวัตต์ กล่าว
“การหาคนทำงานในสายงานนี้เป็นเรื่องยาก มันจึงเป็นยาขมที่ผู้คนเหล่านี้ต้องกลืนกิน เมื่อพวกเขาเป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่กลับไม่มีหนทางในการได้เป็นผู้อาศัยถาวร”
“สิ่งนี้จะหยุดความโหดร้ายของสถานการณ์นั้น และมอบแรงจูงใจที่ดี เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากได้ตามความฝันบนเส้นทางนั้น”
ขณะที่โฆษกหน่วยงานมหาดไทยของออสเตรเลีย ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่ได้ประกาศเมื่อ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จะมีผลบังคับใช้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 ไปจนถึง 1 กรกฎาคม 2022
โอกาสสู่ผู้อาศัยถาวรของแรงงานทักษะในพื้นที่ส่วนภูมิภาค
นางรูบี ฟอวดาร์ (Ruby Fowdar) กรรมการผู้จัดการAustralian Immigration Agencyกล่าวว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นชั่วคราวที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ผู้ถือวีซ่าที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียนั้นกำลัง “อยู่ในตำแหน่งที่ดี”
ในบรรดาหนทางใหม่สู่การเป็นผู้อาศัยถาวร เธอได้เน้นถึง สำหรับผู้ที่อาศัย ทำงาน และศึกษาอยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่ส่วนภูมิภาค ในวีซ่าก่อนหน้าซึ่งมีสิทธิ์ได้รับการต่อมาเป็นวีซ่านี้
“มันเป็นเส้นทางต่อกัน คุณจะต้องอยู่บนวีซ่า 494 ก่อนเป็นเวลา 3 ปี จากนั้นก็ยื่นสมัครวีซ่า 191” นางฟอวดาร์ กล่าว
ข้อมูลจากหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย ระบุว่า จะยังไม่ออกวีซ่าดังกล่าวให้ผู้ใดจนกว่าจะถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022
เพิ่ม 3 วีซ่าทักษะในมาตรา 48 ยื่นสมัครใหม่ไม่ต้องออกประเทศ
ผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะในออสเตรเลีย ยังได้รับโอกาสอีกครั้งในการยื่นสมัครวีซ่า 3 ชนิดระหว่างอยู่ในประเทศเป็นการชั่วคราว จาก
โดยมาตรา 48 มีผลกับผู้ยื่นสมัครวีซ่าที่เคยถูกปฏิเสธ หรือผู้ที่ถูกยกเลิกวีซ่า นับตั้งแต่ครั้งสุดที่เดินทางเข้ามายังออสเตรเลีย
13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายอเล็กซ์ ฮอว์ก (Alex Hawke) รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลีย ได้มีมติในการเพิ่มวีซ่า 3 ประเภทลงในประมวลกฎหมายมาตราดังกล่าว ได้แก่
“มีจำนวนผู้คนเป็นกลุ่มย่อยมากมายในออสเตรเลียที่ต้องอยู่บนวีซ่าบริดจิง (bridging visa) และกำลังรอผลจากวีซ่าที่ยื่นสมัคร ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 5 ปี” นายวัตต์ ทนายด้านการอพยพย้ายถิ่นกล่าว
“ผู้คนเหล่านั้นกำลังเริ่มได้รับคำเชิญให้ยื่นสมัครในออสเตรเลียเพื่อให้ได้เป็นผู้อาศัยถาวร รวมถึงวีซ่าชั่วคราวที่เปิดโอกาสให้พวกเขายื่นสมัครเป็นผู้อาศัยถาวรได้”
“มันเป็นการเปิดกว้าง และจะมีคนจำนวนมากจากกลุ่มที่ไม่สามารถยื่นสมัครได้ก่อนหน้านี้”
“การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับการกำหนดเรียบร้อยแล้ว แต่มันจะมีผลในปีหน้า (2022)”
โฆษกหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในภาวะฉุกเฉินของโรคโควิด-19 ในขณะนี้เท่านั้น
“เมื่อระยะเวลาดังกล่าวสิ้นสุดลง วีซ่าซับคลาสต่าง ๆ ที่ได้มีการเพิ่มเข้าไปในรายชื่อวีซ่าที่ได้รับการยกเว้นจะถูกนำออก” หน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย ระบุ
ข้อกำหนดใหม่สำหรับผู้ถือวีซ่าชั่วคราวผู้สำเร็จการศึกษา
ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ และไม่สามารถเดินทางกลับมายังออสเตรเลียได้จากการแพร่ระบาดใหญ่ จะสามารยื่นสมัครวีซ่าทดแทนได้ แต่ทั้งนี้อาจต้องรอก่อน
รัฐบาลได้ระบุเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า การลดหย่อนในครั้งนี้จะอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวผู้สำเร็จการศึกษา (Subclass 485 - Temporary Graduate) ซึ่งวีซ่าหมดอายุลงในวันหรือตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 สามารถยื่นขอวีซ่าใหม่ที่มีอายุวีซ่าเท่ากัน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นไป
โดยวีซ่า Subclass 485 จะออกให้สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาที่มีทักษะในอาชีพจำเพาะ เพื่อมุ่งเป้าให้พวกเขาทำงานต่อในออสเตรเลียได้
นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ สำหรับวีซ่าชั่วคราวผู้สำเร็จการศึกษา ได้แก่
- เพิ่มเวลาพำนักอาศัยในออสเตรเลียให้ผู้ถือวีซ่า 485 ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท หลักสูตรเข้าเรียนในชั้นเรียน (Masters by Coursework) จาก 2 ปีเป็น 3 ปี
- เพิ่มเวลาพำนักอาศัยในออสเตรเลียให้ผู้ถือวีซ่า 485 ในช่องทาง Graduate work stream จาก 18 เป็น 24 เดือน
รัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะได้รับการดำเนินการ “อย่างต่อเนื่อง” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2021 ไปจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2022 โดยคาดว่า จะมีการระบุรายละเอียดเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ของหน่วยงานมหาดไทยออสเตรเลีย สำหรับผู้ยื่นสมัครวีซ่าที่ต้องการขอวีซ่าทดแทนจะสามารถทำได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2022
ด้าน นางรูบี ฟอวดาร์ กรรมการผู้จัดการAustralian Immigration Agency ชักชวนให้ประชาชนไปรับคำปรึกษา จากผู้เชี่ยวชาญด้านการอพยพย้ายถิ่น จากข้อมูลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และอาจมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในปีใหม่นี้
สำหรับข้อมูลด้านวีซ่าอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลออสเตรเลีย เข้าไปอ่านที่
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
คนไทยติดโควิดช่วงหยุดยาว ต้องกักตัว งดฉลอง