ประเด็นสำคัญ
- อัยการควีนส์แลนด์สั่งไม่ฟ้อง นางมาย อุท ทรินห์ (My Ut Trinh) อดีตผู้ดูแลฟาร์มสตรอว์เบอร์รี วัย 51 ปี หลังก่อนหน้านี้ถูกตั้งข้อหาทำสินค้าปนเปื้อน หวังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ ด้วยการใส่เข็มในลูกสตรอว์เบอร์รี
- ทนายฝ่ายจำเลยระบุว่า การตัดสินไม่ฟ้องนางทรินห์ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หลังคดียืดเยื้อยาวนานและซับซ้อนมาเป็นเวลา 2 ปี
- ตำรวจระบุว่า ทั่วออสเตรเลีย มีการรายงานพบเข็มในสตรอว์เบอร์รีทั้งหมด 230 ครั้ง โดยพบครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ปี 2018
14 ก.ค. หญิงคนหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ใส่เข็มในลูกสตรอว์เบอร์รี จนเกิดความตื่นตระหนกต่อความปลอดภัยในอุตสาหกรรมอาหารทั่วออสเตรเลีย เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา พ้นความผิดทุกข้อกล่าวหาในวันนี้
นาง มาย อุท ทรินห์ (My Ut Trinh) อดีตผู้ดูแลฟาร์มสตรอว์เบอร์รี วัย 51 ปี มีกำหนดเข้าฟังการพิจารณาคดีในวันนี้ ที่ศาลแขวงในนครบริสเบน ในข้อหาด้านสิ่งปนเปื้อนปลอมปนในอาหาร 7 กระทง และข้อหามุ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ
แต่อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นพิจารณาคดีได้ล่าช้าออกไป หลังการโต้เถียงทางกฎหมายเป็นเวลา 2 วัน โดยนางทรินห์ ได้รับการแจ้งในวันนี้ (14 ก.ค.) ว่าอัยการฝ่ายโจทก์สั่งไม่ฟ้องทุกข้อกล่าวหา
“อัยการโจทก์ได้ชี้ว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินคดีกับคุณด้วยข้อกล่าวหาเหล่านี้อีกต่อไป” ผู้พิพากษา ไมเคิล บรายน์ (Michael Byrne) กล่าว
“คุณได้รับการปลดปล่อย และคุณสามารถออกไปจากคอกจำเลยได้แล้ว”บริเวณภายนอกศาลแขวงนครบริสเบนในวันนี้ นางทรินห์ได้สวมกอดและร่ำไห้กับผู้ที่มาสนับสนุนและให้กำลังใจ ในการพิจารณาคดีของเธอในวันนี้
In this supplied undated image obtained in September 2018, a thin piece of metal is seen among a punnet of strawberries. Source: QLD Police via AAP
“ขอบคุณ ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ฉันไม่พูด และทำงานของฉันมาเกือบ 20 ปี ฉันกินผลไม้ทุกวัน ฉันไม่ได้ทำงานมาเกือบ 3 ปี” นางทรินห์ กล่าวกับเอเอพี
ผู้สนับสนุนนางทรินห์ กล่าวว่า เธอถูกแยกออกจากโลกภายนอกเป็นเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ถูกตั้งข้อกล่าวหา
“เธอถูกกระทำอย่างหนัก มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เราดีใจมากกับผลการตัดสินของศาลในวันนี้” นายมาร์ค เอลลิส (Mark Ellis) ผู้สนับสนุนนางทรินห์ กล่าว
“สิ่งนี้ทำร้ายเธออย่างมากเกือบทั้งชีวิต เธอกลัวเกินกว่าที่จะไปไหนมาไหน หรือทำอะไร มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเราทุกคน เราไม่เคยเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยตั้งแต่ต้น”
นายนิก ดอร์ (Nick Dore) ทนายของนางทรินห์ กล่าวบริเวณด้านนอกศาลแขวงนครบริสเบนว่า เธอได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีความผิด และขอโอกาสในการกลับมามีชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
“ถึงทุก ๆ คนที่เชื่อมั่นในตัวเธอในช่วงเวลาของการดำเนินคดี เธอต้องการที่จะกล่าวขอบคุณไปยังทนายความ เพื่อนๆ และครอบครัว ที่ให้การสนับสนุนเธอมาตลอดเวลา 2 ปีครึ่ง และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเธอมาตลอด” นายดอร์ กล่าว
“ในวันนี้ เธอได้รับการลบล้างความผิดอย่างสมบูรณ์”
นายดอร์ กล่าวว่า การสั่งไม่ฟ้องนั้นเป็น “การตัดสินใจที่ถูกต้อง” เมื่อพิจารณาจากหลักฐานต่าง ๆ ตลอดการดำเนินคดีที่มี “ความยาวนานและซับซ้อน”
ก่อนหน้านี้ นางทรินห์ ได้ทำงานอยู่ที่ฟาร์มของเบอร์รีลิเชียส (Berrylicious) ที่บ้านเกิดของเธอในเมืองคาบูลเชอร์ (Caboolture) ทางตอนเหนือของนครบริสเบน ระหว่างวันที่ 2 – 7 ก.ย. ปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ใส่เข็มเข้าไปในสตรอว์เบอร์รี
เธอถูกตั้งข้อกล่าวหา 7 กระทง ในความผิดข้อหาทำให้สินค้าได้รับการปนเปื้อน เพื่อมุ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ
ในเวลานั้น ผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีจำนวนมากต้องทำลายผลผลิตทิ้งทั้งหมด คิดเป็นความเสียหายทางการเงินมูลค่าประมาณ 160 ล้านดอลลาร์
มีรายงานการพบเข็มในสตรอว์เบอร์รีเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ปี 2018 หลังชายคนหนึ่งได้กัดเข้าไปในสตรอว์เบอร์รีที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้า และพบเข็มภายในลูกสตรอว์เบอร์รี
ขณะที่ผู้คนพบสตรอว์เบอร์รีซ่อนเข็มเป็นจำนวนมาทั่วประเทศ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นการก่อเหตุในลักษณะพฤติกรรมเลียนแบบ ทำให้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งตัดสินใจนำสตรอว์เบอร์รีทั้งหมดออกจากชั้นวางขายในเวลานั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า พบรายงานเหตุสตรอว์เบอร์รีมีเข็มปลอมปนจำนวน 230 ครั้งทั่วประเทศ และมีผู้จำหน่ายสตรอว์เบอร์รีจำนวน 68 แบรนด์ที่ได้รับผลกระทบ
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
'กว่าจะผ่านก็สายไปแล้ว' คนไทยเล่าวิบากกรรมขอกลับบ้านช่วงโควิด