Key Points
- เทรซีย์ติดโควิดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ยังมีอาการอยู่อีกหลายเดือนต่อมา
- มีงานวิจัยใหม่ที่พบว่ามีอีกหลายคนที่พบเจออาการในลักษณะนี้
มีการวิจัยใหม่ที่ระบุว่า ชาวออสเตรเลีย 1 ใน 10 คนที่ติดโควิด ยังคงมีอาการหลงเหลือที่กินเวลานานมากกว่า 3 เดือน
การวิจัยนี้ ซึ่ง ยังพบอีกว่าเกือบ 1 ใน 3 มีอาการมากกว่าหนึ่งเดือน ซึ่งเท่ากับประมาณกว่าร้อยละ 14 ของประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมดในออสเตรเลีย
ศาสตราจารย์นิโคลัส บิดเดิล (Nicholas Biddle) นักสังคมศาสตร์เชิงปริมาณ และผู้นำการจัดทำการศึกษาวิจัยนี้ กล่าวว่า ผู้หญิง หนุ่มสาวในออสเตรเลีย และผู้ที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนรายได้ปานกลาง มีโอกาสสูงที่สุดในการติดเชื้อโควิด-19
การศึกษาดังนี้ได้สำรวจประชาชนในออสเตรเลียจำนวนมากกว่า 3,000 คนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในปีนี้ ซึ่งยังไม่ได้รับการพิชญพิจารณ์
“นี่เป็นภาพรวมว่าชาวออสเตรเลียประสบกับโควิด-19 อย่างไรนับตั้งแต่เมื่อต้นปี 2020” ศาสตราจารย์บิดเดิล กล่าว
Women and young people are most likely to get COVID-19, according to the ANU study. Source: AAP
“ในแง่ของลองโควิด (Long COVID) มีการศึกษาที่ดีมากในทั่วโลก ซึ่งได้ประมาณว่าราวร้อยละ 12 ของผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะมีอาการรุนแรงหรือเพียงเล็กน้อย ลงเอยด้วยปัญหาสุขภาพในระยะยาว” คุณเอสเตอร์แมน กล่าว
คุณเอสเตอร์แมน กล่าวอีกว่า การสำรวจดังกล่าวได้สนับสนุนการศึกษาอื่น ๆ ในประเด็นนี้
“และนั่นค่อนข้างน่ากลัว เมื่อพิจารณาจากผู้คนนับล้านที่ติดเชื้อในออสเตรเลีย”
ลองโควิดกระทบกับผู้คนในออสเตรเลียอย่างไร
เทรซีย์ เคลลี (Tracy Kelly) วัย 43 ปี กล่าวว่า เธอเป็นหนึ่งในผู้คนที่ไม่เชื่อว่าลองโควิดมีอยู่จริง จนกระทั่งได้พบเจอกับตัวเอง
ฉันเคยพูดว่า ‘ลองโควิด เรื่องอะไรไร้สาระ’ มันไม่มีอยู่จริง แต่แล้วเคราะห์กรรมก็มาถึงฉันเทรซีย์ เคลลี (Tracy Kelly)
จากการอภิปรายโดยรอบประเด็นที่ว่า ลอง โควิด ควรได้รับการจำกัดความอย่างไรนั้น การศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียจึงได้มองไปที่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกซึ่งเคยมีอาการที่เริ่มต้นหรือดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 4 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มที่ 2 ซึ่งเรียกว่า Post-COVID-19 syndrome group ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการมากกว่า 12 สัปดาห์
โดยคุณเคลลีอยู่ในกลุ่มที่ 2 หลังจากที่เธอติดเชื้อเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอยังคงมีอาการ อย่างเช่น หายใจสั้น เจ็บหน้าอก และภาวะสมองล้า
การศึกษาพบว่า ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีอาการอยู่นาน 3 เดือนหรือมากกว่านั้น ซึ่งเท่ากับเกือบร้อยละ 5 ของประชาชนวัยผู้ใหญ่ในออสเตรเลีย
โดยผู้หญิงเป็นไปได้ที่จะรายงานอาการหลังโควิด-19 มากกว่าผู้ชาย (ร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับร้อยละ 4)
เทรซีย์ เคลลี มีอาการลองโควิด (long COVID) หลังจากติดโควิดครั้งแรกในเดือนมีนาคม Source: Supplied / Charis Chang
ในจำนวนผู้ที่มีอาการมากกว่า 4 สัปดาห์ขึ้นไปประมาณร้อยละ 23 บอกว่า ความสามารถในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันลดลงไป “อย่างมาก” ส่วนประมาณร้อยละ 63 กล่าวว่าความสามารถลดลงไป “เล็กน้อย”
สำหรับคุณเคลลี เธอได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสก่อนที่จะติดเชื้อ แต่ว่ามีอาการป่วยหนัก เธอต้องได้รับการนำส่งโรงพยาบาลโดยรถพยาบาลถึง 4 ครั้ง เนื่องจากรู้สึกเจ็บหน้าอก และหายใจลำบาก
นอกจากนี้ เธอยังมีภาวะอาการชีพจรเร็วเมื่อเปลี่ยนท่า (POTS) ซึ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็ว โดยจะแย่ลงเมื่อเธอยืนขึ้น และสามารถทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวและคลื่นไส้
ก่อนที่คุณแม่ลูกหนึ่งคนนี้จะติดเชื้อโควิด-19 เธอออกกำลังกายทุกวัน และทำงานในร้านค้าปลีกซึ่งต้องยกกล่องหนักตลอดเวลา
“(แต่ก่อน) ฉันเป็นคนที่ไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้” เธอกล่าว
“แต่ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุดคือนั่งบนเก้าอี้ปรับเอนหลังตลอดทั้งวันเพียงเพื่อพักผ่อน เพราะยิ่งฉันอยู่นิ่งเท่าไหร่ก็จะรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น”
ความเหนื่อยล้าทางจิตใจของคุณเคลลี่ย่ำแย่ถึงขนาดว่าเธอจะนอนได้นาน 12 ชั่วโมง แต่ก็ยังคงตื่นมาด้วยความเหนื่อยล้าอยู่ดี เธอต้องใช้เวลาถึง 4 วันเพื่อทำปริศนาอักษรไขว้จนเสร็จ ซึ่งปกติแล้วมันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเธอ
“ฉันรู้ว่าคำตอบมันคืออะไรแต่ฉันคิดไม่ออก แล้วมันก็เป็นคำตอบง่าย ๆ เสียด้วย” เธอกล่าว
ความหวังให้มีการตระหนักถึง ‘ลอง โควิด’ ดีกว่านี้
สำหรับผู้ที่ประสบกับอาการลองโควิด การศึกษาวิจัยดังกล่าวได้สร้างความหวังว่าจะมีการตระหนักรู้มากขึ้นจากหน่วยงานทางการเกี่ยวกับภาวะอากาศนี้ รวมไปถึงมีแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
จิลเลียน เคนท์ (Gillian Kent) วัย 35 ปี กล่าวว่า มันเป็นเรื่อง “ท้อใจอย่างมาก” ที่ได้ยินว่าประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของออสเตรเลีย ศาสตราจารย์พอล เคลลี ปัดตกเรื่องความกังวลเกี่ยวกับลองโควิด
ในการแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อประกาศการยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับ ศาสตราจารย์เคลลีถูกถามเกี่ยวกับเรื่องของลองโควิด และตอบว่า ออสเตรเลียอยู่ในจุดที่แตกต่างเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลก
ความเห็นของศาสตราจารย์ พอล เคลลี (Paul Kelly) เกี่ยวกับภาวะอาการลองโควิด ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับอาการดังกล่าว Source: AAP
“สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในออสเตรเลียสำหรับพวกเราโดยส่วนใหญ่”
การแถลงของศาสตราจารย์เคลลี่ ได้ทำให้ชาวออสเตรเลียหลายคนที่เผชิญกับภาวะอาการลองโควิด ซึ่งรวมถึงคุณเคนท์นั้นรู้สึกไม่พอใจ เธอเป็นโควิดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาแม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้ว 2 โดส แต่ก็ยังคงมีอาการอ่อนเพลีย บ้านหมุน ปวดศีรษะอยู่ต่อเนื่อง ไมเกรน และมีปัญหาในการรับรู้ฃ เธอไม่สามารถทำงานเต็มเวลาได้ และต้องดิ้นรนแม้แต่วันเดียวต่อสัปดาห์
คุณเคนท์ จากนครบริสเบน กล่าวว่า การแถลงของศาสตราจารย์เคลลี่ที่ว่าลองโควิด “ไม่เกี่ยวข้อง”กับออสเตรเลียนั้น คือการทำให้ผู้ที่ประสบภาวะอาการดังกล่าวไร้ค่าโดยสิ้นเชิง”
“หลายคนรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่าการแถลงดังกล่าวได้ทำให้เกิดแฮชแท็ก #pertainstome บนทวิตเตอร์
จิลเลียน เคนท์ ติดโควิดเมื่อเดือนมกราคม และประสบกับภาวะอาการลองโควิดมาเป็นเวลาเกือบ 10 เดือน Source: Supplied / Charis Chang
กลุ่มที่มีโอกาสติดโควิดมากที่สุด
การศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) ยืนยันการวิจัยก่อนหน้าซึ่งแสดงให้เห็นว่า เกือบครึ่งหนึ่งของชาวออสเตรเลียทุกคนเคยติดโควิด-19 มาก่อน มีประมาณร้อยละ 10 ของผู้คนเหล่านี้ที่ไม่มีอาการใดๆ เลย
ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ที่เคยเป็นโควิดมาก่อน กล่าวว่า พวกเขาเคยติดเชื้อเพียงครั้งเดียว มีประมาณร้อยละ 11 บอกว่าเคยติดเชื้อมาแล้ว 2 ครั้ง และร้อยละ 5.4 บอกว่าเคยติดเชื้อ 3 ครั้งหรือมากกว่านั้น
ผู้หญิงและคนหนุ่มสาวในออสเตรเลียได้รับการประมาณว่ามีอัตราติดเชื้อที่สูง เมื่อเทียบกับผู้ชายและผู้สูงวัย
ผู้ที่มีวุฒิการศึกษาในระดับ Certificate III/IV เป็นการศึกษาระดับสูงสุดมีโอกาสติดเชื้อสูงที่สุด ส่วนผู้สำเร็จการศึกษาในระดับสูงกว่าปริญญาตรี มีอัตราการติดเชื้อน้อยที่สุด
ระดับต่ำสุดของการติดเชื้อที่มีการรายงาน อยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางตอนล่าง และโดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำสุด
อาการทั่วไปของโควิดที่พบได้บ่อยที่สุด
ในจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด อาการเหนื่อยล้าคืออาการที่พบได้บ่อยที่สุด
โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนจะมีราว 10 อาการ โดยประมาณ 3 ใน 4 บอกว่าพวกเขามีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก เจ็บคอ จาม ไอ และปวดศีรษะ
ส่วนในหมู่ทูตที่มีอาการเจ็บป่วยมาเป็นเวลามากกว่าสี่สัปดาห์ อาการโดยทั่วไปคือเหนื่อยล้า (มีผู้ประสบกับอาการนี้ร้อยละ 82.1) และรู้สึกอ่อนเพลีย (ร้อยละ 58.4)
ชาวออสเตรเลียประมาณ 5% ที่เคยเป็นโควิดมาก่อนบอกว่า พวกเขาเคยติดเชื้อมาแล้วมากกว่า 3 ครั้ง Source: AAP
ส่วนผู้ที่มีภาวะลองโควิด จนนำไปสู่ความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันที่ถูกจำกัด มีระดับความพึงพอใจในชีวิตที่ต่ำที่สุด
“จากจำนวนผู้ที่เคยติดโควิด 40.7% บอกว่าพวกเขาอารมณ์ไม่ดี” ศาสตราจารย์บิดเดิลกล่าว
“ข้อมูลของเราชี้ว่า ผู้ที่มีอาการเป็นเวลาหลายเดือนคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด”
“แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่เผชิญกับโควิดเป็นระยะสั้น ๆ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย จะไม่พบว่าความเป็นอยู่ที่ดีนั้นลดลงไปเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยเป็นโควิด-19 เลย”