ประเด็นสำคัญ
- ธนาคารกลางคาดอัตราดอกเบี้ย fixed-term กว่า 880,000 รายจะสิ้นสุดลงปลายปีนี้ ทำให้ต้องจ่ายชำระหนี้สูงขึ้นกว่าเดิม
- ลูกค้าเหล่านี้มีแนวโน้มจะเผชิญอัตราดอกเบี้ยที่อาจสู้ไม่ไหว
- ข้อมูลสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อต่อรองให้ได้อัตราที่ดีกว่า
ลูกค้าที่ผ่อนชำระสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ (fixed-rate) หลายแสนรายที่เริ่มสัญญาในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษกำลังจะเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดในปลายปีนี้ ซึ่งหมายความว่าหลายคนกำลังเข้าสู่ระยะของการชำระรายเดือนที่ราคาสูงขึ้นกว่าเดิมมาก
คุณแซลลี ทินดอลล์ (Sally Tindall) ผู้อำนวยการเว็บไซต์วิจัยเปรียบเทียบด้านการเงิน เรท ซิตี (Rate City) เผยว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าลูกค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญอัตราดอกเบี้ยที่อาจสู้ไม่ไหว เมื่อระยะเวลาที่กำหนดสิ้นสุดลง
คุณทินดอลล์แนะนำว่าลูกค้ากลุ่มนี้ควรเริ่มเสนอราคาเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด
“หากคุณกำลังจ่ายในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม อย่านิ่งเฉย” คุณทินดอลล์ย้ำ
ธนาคารมักจะโอนลูกค้าไปที่อัตราผันแปร (variable rate) ซึ่งมักเป็นอัตราที่สูงมาก
“ดูวันสิ้นสุดของเงินกู้ของคุณและเริ่มเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Fixed หรือ Variable: อัตราดอกเบี้ยแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
ประชาชนกว่า 800,000 คนกำลังเผชิญอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นสูงมาก
ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia) ชื่อย่อ RBA ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างเป็นทางการติดต่อกันทั้งหมด 10 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเมื่อปีที่แล้ว หวังควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ทำให้จากดอกเบี้ยระดับต่ำสุดซึ่งอยู่ที่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้อยู่ที่ 3.6 เปอร์เซ็นต์ อัตรานี้จะมีระยะเวลา 16 เดือน สิ่งนี้มีอิทธิพลต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร
คุณฟิลิป โลว์ (Philip Lowe) ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ลูกค้าที่จ่ายชำระสินเชื่อในอัตราคงที่จำนวน 880,000 รายจะเข้าสู่ระยะการจ่ายชำระเงินกู้ที่สูงขึ้นอย่างมาก เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเข้าสู่อัตราผันแปร หลังระยะเวลาของการชำระในอัตราคงที่สิ้นสุดลงในเวลาสิ้นปีนี้
นั่นหมายความว่าผู้มีสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์กลุ่มนี้อาจต้องจ่ายชำระในจำนวนที่เพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยดอลลาร์ต่อเดือน คุณทินดอลล์กล่าว
หลายคนกำลังต้องเข้าสู่ระยะเวลาของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมาก Source: AAP / James Ross
ลูกค้าจะสามารถลดจำนวนผ่อนชำระได้อย่างไร
เว็บไซต์เรท ซิตีพิจารณากรณีที่ลูกค้าลงนามขอกู้ $500,000 เป็นเวลา 25 ปี ในระยะเวลาของอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2 ปี ที่อัตรา 1.92 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2021 ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยในขณะนั้น พวกเขาจะจ่ายชำระที่ประมาณ $2,009 ต่อเดือน
หากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 3.6 เปอร์เซ็นต์ (อัตราปัจจุบัน ณ วันที่ของข่าว) เป็น 3.85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดที่ธนาคารคอมมอนเวลท์ (Commonwealth Bank) และธนาคารเวสท์แพก (Westpac) คาดการณ์ไว้ ลูกค้าของธนาคารใหญ่ 4 แห่งของออสเตรเลียจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่ประมาณ 7.2 เปอร์เซ็นต์หรือเท่ากับ $3,469 ต่อเดือน
การเจรจาต่อรองอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงที่ประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์หรือจำนวนประมาณ $3,132 ต่อเดือน เรท ซิตีอธิบาย
การรีไฟแนนซ์ (refinance) หรือการชำระเงินกู้ปัจจุบันในวงเงินกู้ใหม่กับอัตราผันแปรที่ต่ำที่สุดเมื่อครบกำหนดในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งทางเรท ซิตีเชื่อว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.25 เปอร์เซ็นต์ อาจส่งผลให้จำนวนผ่อนชำระอยู่ที่ประมาณ $2,925 ต่อเดือน
ฟังพอดคาสต์ที่เกี่ยวข้อง
อัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 10
SBS Thai
09/03/202308:02
ทางเลือกสำหรับผู้ที่ติดอยู่กับสัญญาผ่อนชำระอสังหาริมทรัพย์
คุณทินดอลล์ทราบว่าการรีไฟแนนซ์อาจไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้มีสถานะความสมดุลการถือครองไม่แข็งแรง หรือผู้ที่ไม่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ความสมดุลการถือครอง (Equity) คือความแตกต่างระหว่างมูลค่าของทรัพย์สินและจำนวนเงินที่ยังติดหนี้สินเชื่ออยู่
ผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอาจพบว่าความสมดุลการถือครองของพวกเขาอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้
"หากไม่สามารถจ่ายค่าประกันสินเชื่อจำนองแก่ผู้ให้เงินกู้ได้ บางคนอาจไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้เลยเพราะความสมดุลการถือครองของพวกเขาอยู่ในระดับที่ใกล้ศูนย์หรือต่ำกว่า” คุณทินดอลล์อธิบาย
“ผู้ขอกู้อาจพบว่าติดอยู่กับสัญญาผ่อนชำระเพราะพวกเขาอาจไม่ผ่านการทดสอบความสามารถจ่ายชำระที่ต้องทำใหม่อีกครั้งได้ ธนาคารต้องทดสอบความสามารถในการจ่ายผ่อนชำระเงินกู้ของลูกค้าทุกราย กรณีที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นกว่าเดิม 3 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเป็นลูกค้าที่ประสงค์จะรีไฟแนนซ์ก็ตาม การทดสอบนี้จะเป็นข้อทดสอบที่อาจสามารถผ่านได้ง่ายในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ แต่จะเป็นเรื่องยากในขณะนี้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอย่างมาก”
แม้แต่ผู้ที่ติดกับสัญญาก็ยังควรติดต่อผู้ให้สินเชื่อเงินกู้ของพวกเขา คุณทินดอลล์แนะนำ
“ธนาคารอาจไม่ทราบว่าคุณถูกผูกมัด ดังนั้นหาทางออกอย่างมั่นใจ และสอบถามถึงข้อตกลงที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” คุณทินดอลล์กล่าว
“ก่อนที่คุณจะโทรสอบถาม ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยที่คุณจะต้องจ่ายและเปรียบเทียบกับสินเชื่ออื่นๆ ที่ธนาคารของคุณมีข้อเสนอให้แก่ลูกค้ารายใหม่ คุณอาจตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ตัวเลือกที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและค่าธรรมเนียมต่ำได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับอัตราสำหรับลูกค้ารายใหม่ซึ่งมักจะต่ำกว่า”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ประสบปัญหาในการจ่ายหนี้ค่าผ่อนบ้าน? นี่คือสิ่งที่คุณทำได้
คุณสตีฟ มิกเกนเบกเกอร์ (Steve Mickenbecker) ผู้อำนวยการเว็บไซต์เปรียบเทียบทางการเงินแคนสตาร์ (Canstar) กล่าวว่าหลายคนควรพิจารณาการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน โดยเสริมว่าอาจมีความเสี่ยงที่ธนาคารอาจไม่อนุมัติและต้องติดอยู่กับอัตราดอกเบี้ยที่สูง
ธนาคารอาจบอกคุณว่า คุณไม่มีความสามารถพอที่จะจ่ายชำระหนี้ได้ หรือที่ผ่านมาคุณอาจไม่ได้จ่ายชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอคุณมิกเกนเบกเกอร์อธิบาย
คุณมิกเกนเบกเกอร์กล่าวว่า หลายคนอาจสามารถรับภาระการชำระสินเชื่อบ้านในอัตราดอกเบี้ยแบบผันแปรได้
“แต่บางคนอาจไม่สามารถรับมือกับอัตราสูงชันนี้ได้และจำเป็นต้องขายบ้าน นั่นอาจเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะพวกเขาจะต้องขายบ้านในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่คึกคักซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถจ่ายคืนเงินมัดจำที่พวกเขาทำงานหนักเพื่อออมไว้ได้”
อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมของธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียเมื่อวันที่ 7 มีนาคมระบุว่าคณะกรรมการจะพิจารณาเรื่องการหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 4 เมษายนนี้ โดยกล่าวว่าอาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกเพื่อระงับอัตราเงินเฟ้อ
ธนาคารเวสท์แพกและธนาคารคอมมอนเวลท์คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงสุดที่ 3.85 เปอร์เซ็นต์
ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) และเอ็นเอบี (NAB) คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงสุดที่ 4.1 เปอร์เซ็นต์
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แบงค์ชาติออสฯ ขอให้ผู้กู้เงินซื้อบ้านมองหาข้อเสนอที่ดีกว่า