เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) เวลาประมาณ 14:00 น. ตามเวลาในนครเมลเบิร์น เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐวิกตอเรียได้จับกุมหญิงชาวเมืองวอแรนไดท์ (Warrandyte) อายุ 28 ปี หลังก่อเหตุฝ่าด่านตรวจสกัดไวรัสโคโรนาในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ที่บริเวณถนน Princes Street ในเมืองคาลตัน (Carlton)
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามที่จะพูดคุยกับหญิงคนดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเธอโพสคลิปวิดีโอลงในสื่อสังคมออนไลน์ ขณะกำลังหัวเราะเยาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณจุดตรวจยานพาหนะเมืองบันยิบ (Bunyip) ทางตะวันออกของนครเมลเบิร์น
ภายในคลิปวิดีโอที่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย ซึ่งล่าสุดได้ถูกจำกัดการเข้าถึงให้เป็นส่วนตัว ได้แสดงให้เห็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้หญิงคนดังกล่าหยุดรถ และสอบถามถึงจุดประสงค์ในการเดินทาง ซึ่งหญิงคนดังกล่าวปฏิเสธที่จะตอบคำถามจากเจ้าหน้าที่
"ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณในเรื่องนั้น ฉันไม่รู้จักคุณ ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องตอบคำถามใด ๆ ฉันทำผิดกฎหมายตรงไหน" เธอกล่าว
โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยให้เธอผ่านด่านตรวจไป เธอได้แสดงความชอบใจในการกระทำของตนเอง พร้อมหัวเราะเยาะเย้ยเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณด่านตรวจ
นอกจากนี้ ในเพจเฟซบุ๊กของหญิงคนดังกล่าว พบว่ามีโพสต์ต่าง ๆ เกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19
"คุณได้ถูกตักตวงผลประโยชน์จากระบบที่ถูกออกแบบมาให้คุณผิดเสมอ และพวกเขาก็ทำมันออกมาได้ดีเยี่ยมจนคุณไม่ทันสังเกต ฉันไม่เชื่อเรื่องการระบาดใหญ่ครั้งนี้ มันคือการหลอกลวงที่แพร่ระบาดใหญ่ (SCAMdemic) ต่างหาก รักษาสิทธิ์ของคุณ" ข้อความส่วนหนึ่งในเพจเฟซบุ๊กของเธอในระหว่างการจับกุมเมื่อวานนี้ หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ ที่อยู่ รวมถึงใบอนุญาตขับรถ รวมถึงไม่อธิบายเหตุผลในการเดินทาง
The woman talks to the police officer. Source: Facebook
“เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทุบกระจกรถของเธอ หลังเธอปฏิเสธที่จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ลดกระจกลง หรือก้าวออกมาจากรถ” ตำรวจรัฐวิกตอเรียระบุ
ต่อมา เธอได้รับการปล่อยตัวเพื่อรอลงอาญาในข้อหาเกี่ยวกับการกระทำผิดในการใช้รถใช้ถนน ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ ไม่เปิดเผยชื่อและที่อยู่ และละเมิดแนวทางของประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
เมื่อสัปดาห์ก่อน นายริก นูเจนท์ รักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรีย ได้อธิบายการกระทำของหญิงคนดังกล่าวว่า “เห็นแก่ตัว และทำตัวราวกับเป็นเด็ก”
“มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวและเหมือนเด็ก มันเป็นเรื่องเหลวไหล และมันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเลย” นายนูเจนท์กล่าว
"แน่นอนว่ามันคือความผิดทางอาญา มันไม่ใช่สิทธิมนุษยชนของคุณในการทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย และมันก็ไม่ใช่สิทธิมนุษยชนของคุณในการทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในความเสี่ยง"
การจับกุมหญิงคนดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการเรียกปรับผู้กระทำผิด 3 รายที่จัดปาร์ตี้วันเกิด ในเมืองมอร์นิงตัน เพนนินซูลา (Mornington Peninsula) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กระทำผิด 103 คน ที่ทางตำรวจรัฐวิกตอเรียได้เรียกปรับในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในข้อหาละเมิดคำสั่งประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
มีผู้กระทำผิด 4 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกปรับ หลังเจ้าหน้าที่พบว่าอยู่ในรถคันเดียวกัน โดยทั้งหมดไม่มีที่อยู่ร่วมกัน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เรียกปรับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะขณะอยู่นอกที่พักอาศัยได้อีก 33 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐวิกตอเรีย ได้ตรวจค้นยานพาหนะที่ผ่านจุดตรวจบนนถนนสายหลักได้เป็นจำนวน 23,396 คัน และตรวจค้นบ้านเรือน กิจการห้างร้าน และพื้นที่สาธารณะทั่วรัฐวิกตอเรียแล้ว 5,178 จุด
โดยหากนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสถานที่ต่าง ๆ ทั้งหมดในรัฐวิกตอเรียแล้ว 181,306 แห่ง
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์นต้องปฏิบัติตามคำสั่ง “ให้อยู่บ้าน” และสามารถออกจากเคหสถานได้เฉพาะเมื่อออกไปทำงานหรือไปเรียน ไปออกกำลังกาย ไปทำหน้าที่ให้การดูแล และไปซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็นเท่านั้น ยังมีคำแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะด้วย
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ทำไมบางคนจึงต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัย