อีเมล์ที่รั่วไหลออกมาเผยว่า หนึ่งในบุคคลคู่หนึ่งซึ่งรัฐมนตรีมหาดไทย ปีเตอร์ ดัตตัน ได้ช่วยไม่ให้ถูกเนรเทศเมื่อปี ค.ศ. 2015 นั้น มายังประเทศออสเตรเลียเพื่อทำงานให้กับคู่ครองคู่หนึ่ง ซึ่งรัฐมนตรีคนดังกล่าวนั้นรู้จักตั้งแต่สมัยเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐควีนส์แลนด์
รายละเอียดใหม่ๆ กำลังได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับกรณีสองกรณีที่นายดัตตันนั้นได้ใช้อำนาจในฐานะรัฐมนตรีเพื่อยับยั้งไม่ให้กองกำลังพิทักษ์พรมแดนเนรเทศสตรีอายุน้อยซึ่งถูกสงสัยว่าวางแผนจะทำงานในประเทศออสเตรเลียทั้งๆ ที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว โดยอีเมล์จากภายในหน่วยงานราชการนั้นได้รับการเผยแพร่ผ่านวุฒิสมาชิกจากพรรคแรงงาน นายคิมเบอร์ลี คิตชิง ซึ่งเป็นหนึ่งในทั้งสองกรณีดังกล่าว
การเปิดเผยล่าสุดได้พัวพันไปถึงสตรีอายุน้อยชาวอิตาลีคนหนึ่งซึ่งวีซ่าของเธอนั้นถูกยกเลิกเมื่อเธอเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาตินครบริสเบนในเดือนมิถุนายน ปี 2015
โดยเธอได้รับอนุญาตให้ทำการโทรศัพท์ได้ และต่อจากนั้นก็ได้รับวีซ่าหลังนายดัตตันเข้าแทรกแซงคำขอร้องให้เธอได้รับอนุญาตอยู่ต่อนั้นมาจากชายผู้หนึ่งซึ่งนายปีเตอร์ ดัตตัน รู้จักในระหว่างที่เขาและชายคนดังกล่าวใช้เวลาอยู่ที่บริการตำรวจแห่งรัฐควีนส์แลนด์ (The Queenland Police Service) ซึ่งนายดัตตันทำงานที่นั่นในช่วงทศวรรษที่ 1990 ก่อนที่เขาจะลงเล่นการเมือง
Source: SBS
ตำรวจนายดังกล่าวกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Guardian Australia ว่าเขานั้น “ไม่ขอยืนยัน, ไม่ขอปฏิเสธ” เรื่องดังกล่าว โดยกล่าวว่า “ให้ไปพูดคุยกับสำนักงานของนายดัตตัน”
กรณีชาวฝรั่งเศส
รายละเอียดเกี่ยวกับกรณีของชาวอิตาลีนั้นมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากอีเมล์ที่รั่วไหลได้เปิดเผยว่า นายดัตตันนั้น เพิกเฉยต่อคำแนะนำจากกองกำลังพิทักษ์พรมแดนในอีกกรณีหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้มาทำงานชาวฝรั่งเศส
เจ้าหน้าที่พิทักษ์พรมแดนได้ตักเตือนสตรีผู้มีอายุ 27 ปีคนดังกล่าว ซึ่งถูกกักตัวอยู่ ณ สนามบินนครแอดิเลด โดยเธอนั้นได้ยอมรับว่าเธอวางแผนที่จะทำงาน อันเป็นการฝ่าฝืนวีซ่านักท่องเที่ยว
เธอวางแผนที่จะทำงานดูแลเด็กให้กับผู้เลี้ยงปศุสัตว์ นายแคลลัม แมคลอคแลน
นายแมคลอคแลน ได้แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของเขา คือนายกิลลอน แมคลอคแลน ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของเอเอฟแอล ที่ทำการวิ่งเต้นไปยังสำนักงานของนายดัตตันเพื่อให้มีการปล่อยตัวสตรีคนดังกล่าว และพ่อของแคลลัมนั้นก็เป็นผู้บริจาคเงินให้กับพรรคลิเบอรัล
รัฐมนตรีคนดังกล่าวก็ได้ใช้อำนาจสงวนในการตัดสินใจเพื่อออกวีซ่านักท่องเที่ยวระยะเวลาสามเดือนให้กับเธอ โดยมีเงื่อนไขที่ว่าเธอจะต้องไม่ทำงาน ซึ่งเขากล่าวว่าได้ตัดสินใจจากการใช้สามัญสำนึก
นายดัตตันยืนยันว่า เขาตัดสินกรณีดังกล่าวโดยพิจารณาตามเนื้อผ้า
“ผมดูในเรื่องนี้แล้วก็คิดว่ามันโหดร้ายไปหน่อย เธอไม่มีประวัติอาชญากรรม เธอยินยอมที่จะไม่ทำงานในขณะที่อยู่ที่นี่” เขากล่าวเกี่ยวกับกรณีสตรีฝรั่งเศสกับสถานีวิทยุ 2GB เมื่อวานนี้เขายังอ้างว่า “ศัตรูในวงการสื่อมวลชน” นั้นขุดเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเพื่อ “แก้แค้น” ต่อบทบาทของเขาในการแย่งชิงตำแหน่งผู้นำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
French au pair Alexandra Deuwel was initially refused a tourist visa over concerns she planned to work. Source: Facebook
ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ต้องรับผิดชอบต่อการรั่วไหลของอีเมล์ ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่า มีหลายๆ กรณีซึ่งหน่วยงานของนายดัตตันนั้นเคย จากการโต้แย้งในประเด็นอิสรภาพการเข้าถึงข้อมูล กับนักข่าวคนหนึ่ง
ใม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ที่ระบุว่าครอบครัวของทั้งสองกรณีนั้นกระทำความผิดจากการขอร้องให้รัฐมนตรีเข้าแทรกแซง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปรกติ เอสบีเอสนิวส์ได้เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อได้หลังจากที่รัฐมนตรีเข้าแทรกแซงนายดัตตันเองนั้นมีอำนาจสูงในการที่จะสามารถแทรกแซงกรณีวีซ่าต่างๆ ได้ภายใต้พระราชบัญญัติการตรวจคนเข้าเมือง และก็ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ว่าเขานั้นดำเนินการนอกเหนือกฎต่างๆ
Peter Dutton says it was "common sense" to overturn Frenchwoman Alexandra Deuwel's cancelled visa. (AAP) Source: AAP
นายดัตตันกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า เขาทำการ “ตัดสินใจตามเนื้อผ้าของแต่ละกรณี ตามกฎหมาย”
“มีกรณีต่างๆ หลายร้อยรายต่อปีที่รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมือง (รวมทั้งรัฐมนตรีจากพรรคแรงงานและพรรคลิเบอรัลก่อนหน้าผมทุกๆ คน) นั้นพิจารณากรณีต่างๆ ซึ่งมีการยกเลิกวีซ่าหรือมีการตัดสินใจที่เป็นลบจากทางหน่วยงาน”
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอสไทย
รัฐบาลมอร์ริสันอาจปรับแก้ร่างวีซ่าใหม่ให้ผู้อพยพอาศัยนอกตัวเมือง