ผู้ที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี สามารถจองการฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาได้แล้ว แม้ว่าจะยังไม่มีสิทธิ์อย่างเป็นทางการ และมีบางคนได้รับการฉีดวัคซีนให้แล้ว
ในวันที่ 17 พฤษภาคม ประชาชนที่อายุ 40-49 ปี เป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิ์อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้รับเชิญให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนในนิวเซาท์เวลส์ เมื่อประชาชนสามารถจองวันเวลาเพื่อรับการฉีดวัคซีนได้ ผู้ที่มีสิทธิ์เหล่านั้นจะได้รับลิงก์เพื่อจองการฉีดจากระบบจองออนไลน์ของสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ (NSW Health) แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่าลิงก์ดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ไปเป็นวงกว้าง
หลังได้รับลิงก์เหล่านั้น ผู้ที่อายุต่ำกว่า 40 ก็สามารถจองเวลาเพื่อไปรับการฉีดวัคซีนทั้งโดสแรกและโดสที่สองได้ แม้จะได้แจ้งว่าพวกเขาอายุต่ำกว่า 40 ปีและไม่ใช่ผู้ทำงานด่านหน้าต่างๆ
เอมิลี (ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ) ที่อายุ 37 ปี ได้รับคิวอาร์โค้ด (QR code) ที่เชื่อมไปยังแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อจองการฉีดวัคซีนของสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ โดยเพื่อนของเธอส่งมาให้ทาง WhatsApp เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้จะใส่ข้อมูลวันเดือนปีเกิดที่ถูกต้องและยืนยันว่าเธอไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพหรือไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เป็นเพียงประชาชนทั่วไป แต่เธอก็สามารถจองเวลาเพื่อรับการฉีดวัคซีนโดสแรกได้ในเดือนกรกฎาคมที่คลินิกแห่งหนึ่งในซิดนีย์
เธอยังสามารถจองเวลาฉีดวัคซีนโดสที่สองได้ด้วยในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น
“มันอนุญาตให้ฉันจองเวลาได้ ฉันได้ทำตามกฎ ฉันไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จ” เธอบอกกับ เอสบีเอส นิวส์เอมิลี ผู้ซึ่งมาจากประเทศอังกฤษ กล่าวว่า เธอไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใดที่จองการฉีดวัคซีนได้เร็วกว่ากำหนด เพราะชาวออสเตรเลียที่อายุมากบางคนลังเลใจที่จะฉีดวัคซีนและยังไม่ได้จองการฉีดวัคซีนของพวกเขาเลย
A queue at a COVID-19 vaccination hub in Sydney earlier this month. Source: AAP
“ในที่ทำงาน ฉันมีลูกค้าที่เป็นคนรุ่นแก่กว่าบอกกับฉันว่า ‘เราจะรออย่างน้อย 6 เดือนเพื่อรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นก่อน’ คนรุ่นที่อายุน้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างพวกเราที่เป็นคนย้ายถิ่นฐานมาทำงาน พวกเราทุกคนต้องการได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำให้พรมแดนระหว่างประเทศเปิดเสียที”
แซลลี (ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ) เป็นผู้หญิงอายุ 30 ปีในซิดนีย์ เธอสามารถได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์โดสแรกให้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในวันจันทร์ (31 พ.ค.) หลังจองเวลาฉีดออนไลน์โดยใช้ลิงก์ที่เธอได้รับผ่านทาง Twitter
เธอกังวลว่าเธอลัดคิวคนอื่นและตัดหน้าคนที่อาจมีความเปราะบางที่ควรได้รับวัคซีนก่อน แต่รู้สึกว่า หากระบบอนุญาตให้เธอจองการฉีดวัคซีนได้ ทั้งๆ ที่เธอได้แจ้งวันเดือนปีเกิดของตน เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
“แน่นอนว่า ฉันคิดว่า ระบบไม่น่าจะปล่อยให้ฉันจองได้ แต่เมื่อฉันได้ระบุตัวตนและได้แจ้งข้อมูลส่วนตัวของฉันทั้งหมด รวมทั้งบัตรเมดิแคร์ ฉันก็สันนิษฐานว่าระบบคงทำงานผิดพลาดและฉันถูกระบุว่าเหมาะสมที่จะได้รับการฉีดวัคซีนได้” เธอบอกกับ เอสบีเอส นิวส์
จากนั้น เธอถึงกับโทรศัพท์ไปหาสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ เพื่อจะได้เข้าใจระบบการจองมากขึ้น และเพื่อยืนยันว่าการนัดฉีดวัคซีนของเธอนั้นสามารถไปรับการฉีดได้จริงหรือไม่
“ฉันให้ข้อมูลทั้งหมดของฉันและได้แจ้งว่าฉันไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพหรือไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิ์ก่อนคนอื่น แต่พวกเขาก็ไม่ได้ขอให้ฉันยกเลิกนัดฉีดวัคซีนที่ฉันได้จองไว้”โฆษกสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ว่า พวกเขาไม่แน่ใจว่าประชาชนได้รับลิงก์ที่ใช้จองการฉีดวัคซีนออนไลน์ได้อย่างไร เพราะความจริงแล้ว ไม่ควรมีการแชร์ลิงก์เหล่านั้นกับประชาชนทั่วไป
COVID-19 vaccinations became available to NSW residents over 40 on 17 May. Source: SYDNEY MORNING HERALD POOL
แม้ว่าผู้ที่ยังไม่มีสิทธิ์จองการฉีดวัคซีนจะสามารถนัดฉีดวัคซีนออนไลน์ได้ แต่ควรมีการตรวจสอบว่าพวกเขามีสิทธิ์ได้รับการฉีดหรือไม่เมื่อไปถึงยังคลินิกที่ทำการฉีดวัคซีน สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ ระบุในคำแถลง
“ทุกคนที่ไปยังศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ใดๆ ของสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ จะได้รับการประเมินจากเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพว่ามีสิทธิ์หรือไม่ในวันที่ไปรับการฉีด และผ่านกระบวนการที่เข้มงวดในการระบุตัวตน”
แต่แซลลี กล่าวว่า ไม่มีใครในคลินิกที่เธอไปรับวัคซีนซักถามถึงสิทธิ์ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนของเธอ
“พวกเขามีรายละเอียดของฉันทั้งหมดและไม่ได้ปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนให้ฉัน การฉีดทำอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” แซลลี กล่าว
สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนในรัฐโดยแบ่งเป็นระยะๆ จะทำได้อย่างดีที่สุดเมื่อทุกคนรอให้ถึงคิวของตน
“การฉีดวัคซีนให้ประชาชนนั้น เช่นเดียวกับการรับมือด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับโรคระบาดอื่นๆ ที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชน เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า มันประสบความสำเร็จและสมาชิกในชุมชนผู้ที่มีความเปราะบางสูงสุดเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนให้ก่อนใคร โดยสอดคล้องกับกลุ่มผู้ที่ควรได้รับวัคซีนก่อนใครที่รัฐบาลสหพันธรัฐกำหนด” สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ ระบุในคำแถลง
แม้ว่าจะมีกฎเหล่านั้น แต่โฆษกสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ผู้ที่อายุต่ำกว่า 40 ปีที่ลัดคิวเข้ามาฉีดนั้น ไม่ได้แย่งวัคซีนไปจากผู้ที่มีความเปราะบาง เพราะทางรัฐสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ทุกคนที่ได้จองเวลาฉีดเข้ามา
“บุคคลที่มีสิทธิ์จะได้รับการฉีดวัคซีนให้อยู่แล้ว ผู้คนที่ต้องการฉีด จะได้รับการฉีดวัคซีนให้”
สำหรับแซลลีนั้น เธอเชื่อว่าเป็นความรับผิดชอบของชาวออสเตรเลียทั้งหมดที่จะไปรับการฉีดวัคซีนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าพวกเขาจะมีอายุเท่าไร
“ขณะที่มีรายงานข่าวถึงการลังเลใจที่จะรับการฉีดวัคซีนในชุมชนวงกว้าง แต่เป็นความรับผิดชอบของทุกคนที่จะพยายามรับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” แซลลี กล่าว
“สำหรับฉันแล้ว การได้รับวัคซีนในวันนี้ ดูเหมือนเป็นการกระทำที่แสดงความรับผิดชอบอย่างที่สุด ฉันขอเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมเชิงรุกมากกว่า”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
อัปเดตแผนฉีดวัคซีนล่าสุดของออสเตรเลีย