ลูกๆ อยู่อาศัยกับพ่อแม่นานขึ้นเพื่อ ‘เลี่ยงการโตเป็นผู้ใหญ่’

The Feed: การสำรวจล่าสุดพบชาวออสเตรเลียอายุน้อยอยู่บ้านพ่อแม่นานขึ้น และไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลทางการเงินบีบบังคับเท่านั้น

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

You can check out the full version of this article in English on SBS The Feed .

เมื่อปี ค.ศ. 2001 47.2 เปอร์เซ็นต์ของชายวัย 18 ถึง 29 ปี และ 36.5 เปอร์เซ็นต์ของหญิงในกลุ่มอายุเดียวกันอยู่อาศัยกับพ่อแม่

ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 54.6 เปอร์เซ็นต์ในปี 2017 และก้าวกระโดดเป็น 53.9 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้หญิง

หนึ่งในผู้ประพันธ์รายงาน ศาสตราจารย์โรเจอร์ วิลิงส์ กล่าวว่า การเพิ่มสูงขึ้นนั้นอาจเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันและมีข้อจำกัดเพิ่มมากขึ้น

ศาสตราจารย์ วิลิงส์ กล่าวกับรายการเดอะฟีดว่า “ตลาดแรงงานนั้นแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับผู้คนอายุน้อย พวกเขาจำเป็นจะต้องมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นเพื่อจะมีงานทำ ดังนั้นจึงมีผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่อยู่ในระบบการศึกษาเป็นเวลายาวนานกว่าเดิม”
แม้เหล่าผู้มีอายุน้อยจะเตรียมตัวอย่างหนักเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงาน ศาสตราจารย์วิลิงส์ก็เสริมว่า พวกเขายังคงมีแรงจูงใจในด้านอื่นด้วย

“การเข้าศึกษาเล่าเรียนนั้นเป็นการหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ใหญ่ และทำให้คุณมีความสำราญเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางปัจจัยต่างๆ ด้านเศรษฐกิจ องค์ประกอบนี้ของการ ‘ชลอการเป็นผู้ใหญ่’ ก็มีส่วนด้วย”

มีการทำรายงานฮิลดามาตั้งแต่ปี 2001 โดยชาวออสเตรเลียประมาณ 17000 คนถูกสอบถามทุกๆ ปีเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ตั้งแต่โครงสร้างของครอบครัว รายได้ ไปจนถึงสุขภาพและไลฟ์สไตล์

รายงานดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าผู้มีอายุน้อยซึ่งอยู่อาศัยกับที่บ้านไม่เพียงแค่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเท่านั้น แต่ว่าตัวเลขอายุเมื่อย้ายออกจากบ้านก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยเมื่อย้ายออกจากบ้านในขณะนี้อยู่ที่ 24.2 ปี เทียบกับ 22.1 ปี ในปี 2001

สำหรับผู้ชายอายุเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 23.1 ปี ในปี 2001 เป็น 23.5 ปี ในปี 2017

ถึงแม้จะมีการทึกทักว่าผู้ที่มีอายุน้อยนั้นตักตวงผลประโยชน์จากพ่อแม่ของพวกเขา การสำรวจกลับพบว่ามีผู้อายุน้อยเพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ไม่มีงานทำและอยู่อาศัยกับที่บ้าน เมื่อเทียบกับอัตราการว่างงานในหมู่ผู้มีอายุน้อยทุกคนซึ่งอยู่ที่ 6.4 เปอร์เซ็นต์

ศาสตราจารย์วิลส์คาดว่าบุคคลอายุน้อยใช้เวลายาวนานขึ้นในการศึกษาเล่าเรียน และทำงานในลักษณะแคสชวล (casual) ด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือพวกเขามีเวลาที่จะทำเช่นนั้นได้เพิ่มมากขึ้น

เขากล่าวว่า “ผมเชื่อมโยงเรื่องนี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับอายุขัยที่เพิ่มมากขึ้น” “ฉันจะเริ่มเป็นผู้ใหญ่ช้ากว่าเดิมเพราะว่าฉันมีอายุยืนยาวขึ้นกว่าเดิม”

“มันก็เป็นเหตุเป็นผลในการพยามหาเวลาเพื่อความสำราญเพิ่มมากขึ้น เมื่อคุณสามารถทำเช่นนั้นได้เป็นเวลานานขึ้น”

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าสภาพการณ์ด้านอาชีพของผู้มีอายุน้อยจะได้รับผลดีจากการอยู่ที่บ้านเป็นเวลานานขึ้นกว่าเดิม เรื่องดังกล่าวกลับสวนทางกันในประเด็นด้านชีวิตรัก

เจ็ดสิบหกเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่อยู่อาศัยที่บ้านกล่าวว่าพวกเขายังโสด ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าในหมู่ประชากรทั่วไป

Share
Published 5 August 2019 5:04pm
Presented by Tanu Attajarusit
Source: The Feed


Share this with family and friends