หลายฝ่ายกังวล ชุมชนพหุวัฒนธรรมใช้บริการล่าม “น้อยเกินไป” ในภาคส่วนของการแพทย์ทั่วไป (General practice) ทำให้หลายคนหลีกเลี่ยงที่จะขอความช่วยเหลือ
วิทยาลัยศึกษาแพทย์ทั่วไปในพระราชินูปถัมภ์แห่งออสเตรเลีย (The Royal Australian College of General Practitioners - RACGP) ระบุว่าผู้ป่วยที่มีความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างมาก
เน้นย้ำการกระตุ้นให้ใช้บริการล่ามนั้น “สำคัญกว่าที่เคย” หลังผลการสำรวจสำมะโนประชากร (Census) เผยว่า
เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เรารู้ว่ามีการใช้บริการล่ามน้อยเกินไปในการพบแพทย์ทั่วไป เนื่องจากมีแรงจูงใจน้อยและอุปสรรคอื่นๆ บางครั้งส่งผลให้คนกลุ่มนี้หลีกเลี่ยงการรักษา
ศาสตราจารย์คาเรน ไพรซ์ (Professor Karen Price) ประธาน RACGP กล่าว
“การส่งเสริมให้ใช้บริการล่ามในการพบแพทย์ทั่วไปนั้นสำคัญกว่าที่เคย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพและลดผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มคนที่เปราะบาง”
สำมะโนประชากรปี 2021 โดยสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (Australian Bureau of Statistic – ABS) เผยว่าประชากรออสเตรเลียกว่าครึ่งเป็นผู้อพยพรุ่นที่ 1 หรือรุ่นที่ 2
จำนวนประชากรที่ใช้ภาษาอื่นนอกเหนือจากภาษาอังกฤษที่บ้านเพิ่มมาอีกเกือบ 800,000 คน นับเป็นกว่า 5.5 ล้านคน
ด้วยจำนวนชุมชนพหุวัฒนธรรมที่เพิ่มมากขึ้น ความต้องการใช้บริการ เช่น การดูแลสุขภาพ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายแพทย์บรูซ วิลเล็ตต์ (Dr. Bruce Willett) จาก RACGP กล่าวว่ามีความต้องการใช้บริการล่ามทางโทรศัพท์เพื่อปรึกษาแพทย์ประจำครอบครัวสูงมาก
“จากร้อยละ 20 ของคนที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษในออสเตรเลีย นับเป็น 400 ภาษา ดังนั้นการใช้บริการทางโทรศัพท์เป็นวิธีเดียวที่สามารถทำได้” นายแพทย์วิลเล็ตต์กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์ (SBS News)
เขากล่าวว่า สถานพยาบาลบางแห่งไม่ใช้ล่าม ทำให้สมาชิกในครอบครัวต้องทำหน้าที่ล่ามแทน
บางครั้ง ญาติจะเป็นล่ามแทน และมันอาจจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของบางคนที่มีข้อมูลส่วนตัวหรือความลับ พวกเขาอาจรู้สึกไม่สบายใจในการพูดคุยแบบนั้น หรือเรื่องที่เป็นรายละเอียดส่วนตัว
รายงานจากศูนย์วิจัยวัฒนธรรมและชนพื้นเมืองแห่งออสเตรเลีย (Cultural and Indigenous Research Centre Australia - CIRA) ปี 2017 พบความแตกต่างด้านปัญหาสุขภาพเฉพาะกลุ่ม และปัญหาที่พวกเขาประสบในการขอรับบริการด้านสุขภาพ
รวมถึงปัญหาเรื่องความสามารถทางภาษาอังกฤษ การขาดทักษะและทรัพยากรในการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพ และความเข้าใจทางวัฒนธรรมที่แตกต่างไปในเรื่องสุขภาพ
แพทย์หญิงแอสทริด เพอร์รี (Dr Astrid Perry) จากเซ็ทเทิลเมนต์ เซอร์วิสส์ อินเทอร์แนชันแนล (Settlement Services International) องค์กรช่วยเหลือผู้อพยพใหม่ที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่หลากหลายกล่าวว่า หลายคนอาจเข้าใจผิดหรือถูกวินิจฉัยผิดได้
“บางครั้ง อาจมีการตีความว่าสิ่งที่คนนั้นพูดหมายถึงอะไร โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพจิต ในเรื่องของระดับความรุนแรง ว่ามันเป็นคำเปรียบเปรยหรือคำที่เกี่ยวกับความเจ็บป่วย และอื่นๆ” แพทย์หญิงเพอร์รีกล่าว
“ดังนั้นมีความสับสนว่า ผู้ป่วยอยากกลับบ้าน หรือพวกเขารู้สึกไม่ดี เพราะในหลายวัฒนธรรมใช้คำพ้องความหมาย แทนที่จะพูดตรงๆ ว่าคุณรู้สึกอย่างไร”
นายแพทย์วิลเล็ตต์กล่าวว่า แพทย์ทั่วไปที่ให้บริการแบบสองภาษามักลดช่องว่างได้ เมื่อ
มีความเข้าใจถึงความรู้สึกและความเข้าใจเรื่องภาษา
“แพทย์สองภาษาไม่เพียงแต่สามารถเข้าใจในภาษานั้นๆ ได้ แต่ยังสามารถตีความผู้ป่วยที่มาจากวัฒนธรรมที่ต่างไป และสามารถช่วยแนะนำผู้ป่วยถึงระบบที่แตกต่างไปจากสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยได้” นายแพทย์วิลเล็ตต์กล่าวสำหรับผู้ที่มีเมดิแคร์ ยังคงมีความกังวลในเรื่องของโครงการช่วยเหลือที่มีให้แก่ผู้ป่วยจากหลากวัฒนธรรม
ชายหญิงนั่งบนโซฟาพูดกับจิตแพทย์ Source: Pexels/Timur Weber
ไม่มีรายการใน ลิสต์ของเมดิแคร์ (Medicare Benefits Schedule) ที่ให้บริการเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการล่าม
ยังต้องใช้เวลาอีก เพื่อให้บริการล่ามเข้าที่ แน่นอนว่าต้องใช้เวลาในการให้ล่ามแปลเพื่ออธิบายกับผู้ป่วย และผู้ป่วยตอบให้ล่ามแปลให้แพทย์
นายแพทย์วิลเล็ตต์กล่าว
ไม่นานมานี้ กระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลางได้เผยแพร่ข้อมูลเพื่อชี้แจงแพทย์จีพีถึงวิธีเก็บเงิน เมื่อมีการใช้บริการล่ามในการนัดพบแพทย์
ศาสตราจารย์ไพรซ์ยินดีกับข่าวนี้และเขียนคำแนะนำถึงกระทรวงสาธารณสุขถึงรายการในลิสต์ MBS เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้เพิ่มรายการสำหรับการนัดปรึกษาแพทย์จีพีที่ต้องใช้ล่าม
”กระทรวงสาธารณสุขตอบว่าไม่สามารถแก้ไขได้ อย่างไรก็ตามเอกสารฉบับใหม่ยืนยันว่าแพทย์จีพีเรียกเก็บค่าปรึกษาได้ถูกต้อง เมื่อมีการนัดพบที่ใช้เวลานานขึ้น เนื่องจากต้องขยายเวลาเพื่อใช้บริการล่าม” ศจ.ไพรซ์กล่าว
ผู้ป่วยทุกคนสำคัญ เมื่อมีอุปสรรคด้านภาษา เราต้องการเวลาเพิ่มเพื่อให้แน่ใจว่าการสื่อสารกับผู้ป่วยมีประสิทธิภาพ
รายงานของ CIRCA พบว่าผู้ป่วยที่มีภูมิหลังหลากหลายมักรายงานว่า พวกเขาไม่ได้เวลาในการพบแพทย์เพียงพอในการทำความเข้าใจว่าพูดถึงอะไรหรือถามคำถาม”
“แพทย์จีพีถูกกดดัน” แพทย์หญิงวิลเล็ตต์กล่าว
“พวกเขาต้องใช้เวลาพบผู้ป่วยสั้นขึ้น เพื่อพยายามรับผู้ป่วย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการยากที่จะรักษาผู้ป่วยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือไม่พูดภาษาอังกฤษเลยในเวลาอันสั้น หรือแพทย์จีพีถูกบังคับให้ยกเลิกการเก็บเงินแบบเหมารวม (Bulk billing)”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่