“พอแล้ว พอแล้ว”: นายกมอร์ริสันจะลดรับผู้อพยพย้ายถิ่น

NEWS: นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน เผยเร็วๆ นี้เขาจะประกาศลดการรับผู้อพยพย้ายถิ่นมาอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศจะลดจำนวนสูงสุดการลดผู้อพยพถาวรมาอยู่ในออสเตรเลีย (AAP)

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศจะลดจำนวนสูงสุดการลดผู้อพยพถาวรมาอยู่ในออสเตรเลีย Source: AAP

You can read the full article in English

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า เขาตั้งใจจะลดการรับผู้อพยพย้ายถิ่นเพื่อมาอาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นการถาวรให้น้อยลง 30,000 คน เนื่องจากตระหนักถึงความวิตกของประชาชนเกี่ยวกับการมีนครหลวงต่างๆ ที่แออัดคับคั่ง

“พวกเขาต่างบอกว่า พอแล้ว พอแล้ว พอแล้ว” นายมอร์ริสัน กล่าวในสุนทรพจน์เมื่อคืนวันจันทร์ (19 พ.ย.) ที่ซิดนีย์

“ถนนต่างๆ มีการจราจรติดขัด รถเมล์และรถไฟก็แน่น โรงเรียนก็ไม่รับเด็กนักเรียนเพิ่ม ผมได้ยินสิ่งที่พวกคุณพูด ผมได้ยินพวกคุณอย่างชัดเจน”

นายมอร์ริสัน กล่าวเรื่องนี้ในการสุนทรพจน์ ในงาน 2018 แบรดฟิล์ด โอเรชัน ที่ศูนย์นิทรรศการศิลปะ อาร์ต แกลเลอรี ออฟ นิวเซาท์เวลส์

จำนวนสูงสุดของการรับผู้อพยพย้ายถิ่นถาวรถูกจำกัดไว้ที่ 190,000 คน นับตั้งแต่ปี 2012-2013 เป็นต้นมา ในช่วงที่ผ่านมา จำนวนจริงของการรับผู้อพยพย้ายถิ่นถาวรเข้ามานั้นเกือบเท่ากับจำนวนสูงสุดที่จำกัดได้ แต่ในช่วงปี 2017-2018 จำนวนการรับลดต่ำลงถึงระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี คือจำนวน 163,000 คน ซึ่งเป็นทั้งผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะการทำงานและผู้ย้ายถิ่นฐานตามครอบครัวมาอยู่ในออสเตรเลีย

นายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาคิดว่าจำนวนจำกัดสูงสุดของการรับผู้อพยพย้ายถิ่นจะลดลงในปีการเงินหน้า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่จะให้แต่ละรัฐและมณฑลของออสเตรเลีย มีหน้าที่กำหนดจำนวนการรับผู้อพยพในพื้นที่ของตน พร้อมแสดงให้เห็นถึงการวางแผนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผู้อพยพย้ายถิ่นอย่างเพียงพอ

“ผมคาดว่านี่จะนำไปสู่การลดลงของจำนวนสูงสุดในการรับผู้อพยพของเรา” นายมอร์ริสัน กล่าว โดยอ้างถึงระดับการรับผู้อพยพถาวรที่จำนวน 160,000 คนในช่วงปี 2017-2018

“เราจะพิจารณาปรับเปลี่ยน ระหว่างที่เราก้าวเข้าสู่ปีหน้า และนี่จะไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนแปลกใจ”

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมือง บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่ายังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับจำนวนสุดสุดของการรับผู้อพยพถาวรสำหรับปีหน้า โดยบอกว่าการตัดสินใจเรื่องนี้จะมีขึ้นหลังจากการปรึกษากับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และกับรัฐและมณฑลต่างๆ แล้วตามกระบวนการปกติ
Prime Minister Scott Morrison speaks at the Project Sydney Bradfield Oration in Sydney.
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศรัฐบาลจะมีนโยบายลดจำนวนการรับผู้อพยพถาวรลงเร็วๆ นี้ (AAP) Source: AAP

‘รูปแบบเก่าไม่เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายอีกต่อไป’

นายมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาต้องการความเห็นจากรัฐและมณฑลต่างๆ ก่อนที่รัฐบาลสหพันธรัฐจะกำหนดจำนวนสูงสุดในการรับผู้อพยพถาวร

“รูปแบบเก่าของจำนวนรวมทั้งหมดทั่วประเทศที่กำหนดออกมาจากกรุงแคนเบอร์รานั้นไม่เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายอีกต่อไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

“รัฐและมณฑลต่างๆ รู้ดีกว่าใครว่าโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่างๆ ที่มีอยู่และที่กำลังวางแผนนั้นมีศักยภาพที่จะรองรับประชากรได้มากน้อยเพียงใด”

จะมีการหารือในประเด็นนี้ในการประชุมเหล่าผู้นำรัฐและมณฑลต่างๆ ในการประชุมโคแอก (COAG) ในเดือนหน้า

จำนวนสูงสุดของการรับผู้อพยพถาวรนั้นจะมีการกำหนดกันในช่วงก่อนสิ้นปีการเงินแต่ละปี และนายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองสหพันธรัฐ กล่าวว่า กำลังมีการพิจารณาว่าจะมีการปรับจำนวนการรับสูงสุดหรือไม่ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2019

นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เรียกร้องให้ลดจำนวนการรับผู้อพยพลงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากซิดนีย์กำลังประสบปัญหาประชากรคับคั่งและโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ ซึ่งเธอกล่าวว่ามีต้นเหตุมาจากผู้อพยพย้ายถิ่นที่เลือกที่จะอาศัยอยู่ในซิดนีย์มากกว่าเมืองอื่นๆ ในออสเตรเลีย

นายอลัน ทัดจ์ รัฐมนตรีด้านประชาการ กล่าวว่า เขาคาดว่า เซาท์ออสเตรเลีย แทสเมเนีย และนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรี จะขอรับผู้อพยพจำนวนมากขึ้น

“มันไม่ใช่แผนเดียวที่จะใช้ได้กับทุกคน” นายทัดจ์บอกกับ เอบีซี ทีวี เมื่อวันอังคาร (20 พ.ย.)

“เราต้องการสนับสนุนความมุ่งมาดปรารถนาและศักยภาพของแต่ละรัฐเหล่านั้นในการเติบโต เพื่อที่ว่าเราจะได้สามารถส่งเสริมการเติบโตได้สำหรับรัฐที่เล็กกว่าได้

“แต่เราจะต้องลดความกดดันในการขยายตัวของเมลเบิร์น และซิดนีย์ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหากับการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก และส่วนใหญ่ถูกผลักดันจากการอพยพย้ายถิ่น”
David Coleman- Minister for Immigration and Citizenship
นายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย (SBS) Source: SBS
แต่อย่างไรก็ตาม นายคริสโตเฟอร์ ไพน์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ (19 พ.ย.) ว่า นโยบายด้านประชากรไม่ควรถูกกำหนดโดยโพลสำรวจความนิยมต่างๆ

“เราไม่จำเป็นต้องใส่เบรกมือด้านการเพิ่มขึ้นของประชากร” นายไพน์บอกกับ สกาย นิวส์

“เราจำเป็นต้องบริหารจัดการการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างสมเหตุสมผลในประเทศซึ่งว่ากันตรงๆ แล้วสามารถรับคนเข้ามาได้อีกเยอะมากกว่าจำนวน 25 ล้านคนที่มีอยู่”

ซิดนีย์ขยายจนแทบปริแล้ว

ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ว่านั้น นายมอร์ริสัน กล่าวว่า เขาเชื่อว่าแบบแผนการในเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างที่เป็นอยู่นั้นไม่ยั่งยืน

“ในช่วงปี 2016-2017 ประชากรของซิดนีย์เพิ่มขึ้น 107,000 คน หรือพูดอีกอย่างคือ ซิดนีย์ขยายตัวขึ้นโดยมีคนเพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 คนต่อสัปดาห์ ทุกสัปดาห์ หรือเท่ากับการมีย่านที่อยู่อาศัยใหม่ผุดขึ้นมาทุกสัปดาห์” นายมอร์ริสัน ระบุ

“จากจำนวนสูงสุดของการรับผู้อพยพจากต่างประเทศที่ว่า สัดส่วนจำนวนผู้อพยพของสิงห์โตอย่างซิดนีย์ อยู่ที่ 91,000 คน”

“นครหลวงที่เล็กกว่าหลายแห่ง และส่วนภูมิภาคต่างๆ ต้องการคนมากขึ้น”
International students are being encouraged to study at regional universities rather than in major cities under a federal government plan to ease population growth in our capital cities.
International students are being encouraged to study at regional universities under a federal government plan to ease population growth Source: SBS News
นายมอร์ริสัน ยังกล่าวชื่นชมผู้อพยพย้ายถิ่นที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของออสเตรเลีย

“ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2016 ประชากรของประเทศเราเพิ่มขึ้น 6 ล้านคน และในการเพิ่มขึ้นดังกล่าวนี้ร้อยละ 54 มาจากการอพยพย้ายถิ่น” นายมอร์ริสัน บอกกับผู้ฟังในการกล่าวสุนทรพจน์

มันเป็นสาเหตุหลักว่าทำไม เราจึงควรที่จะสามารถจัดการให้เศรษฐกิจและรายได้ของชาติเราเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเป็นไปอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งเป็นที่น่าอิจฉาในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว โดยเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโต 1 ใน 5 ของจีดีพีของออสเตรเลีย ต่อผู้อพยพหนึ่งคน ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

เราควรจำไว้ว่า เพราะผู้อพยพยที่มีทักษะการทำงานช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ ออสเตรเลียกำลังต้องแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในการนำทักษะการทำงานที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นจากต่างประเทศมายังประเทศของเรา

จากจำนวนประชากรขณะนี้ที่ระดับ 25 ล้านคน ออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 53 ของโลก โดยตามหลังเกาหลีเหนือหนึ่งอันดับ และมากกว่าโกตติวัวร์ (Côte d'Ivoire)

นายมอร์ริสัน กล่าวว่า จากข้อมูลของธนาคารโลก ออสเตรเลียมีการเพิ่มขึ้นของประชากรอยู่ในระดับที่รวดเร็วกว่าประเทศโออีซีดีส่วนใหญ่ ซึ่งรวดเร็วกว่าสหรัฐอเมริกาด้วย

รายงานฉบับหนึ่งของสหประชาชาติระบุว่าประชากรโลกนั้นเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2017 ที่อัตราร้อยละ 1.1 ขณะที่ออสเตรเลียมีประชากรเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก AAP

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 






Share
Published 20 November 2018 12:42pm
By Biwa Kwan
Presented by Parisuth Sodsai


Share this with family and friends