ลูกจ้างแคชวล (ลูกจ้างแบบเผื่อเรียกที่ทำงานเฉพาะเมื่อมีงานให้ทำ) จำนวนมากไม่ได้ค่าจ้างมากกว่าเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับลูกจ้างประจำที่ทำหน้าที่เดียวกัน และในบางครั้งยังได้รับค่าจ้างน้อยกว่าด้วย การวิจัยดังกล่าวชี้
องค์กรรวมตัวแทนสหภาพแรงงานต่างๆ อ้างว่าการวิจัยฉบับนี้ ทำลายมายาคติที่กลุ่มล็อบบีของธุรกิจ มักกล่าวว่าลูกจ้างแคชวลได้รับค่าจ้างที่มากกว่าลูกจ้างประจำมาก เพื่อทดแทนกับการสูญเสียสิทธิและความมั่นคงในการทำงาน
อัตราแคชวล โหลดดิง (casual loading) ที่มักเป็นค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกจ้างแคชวลนั้น มักอยู่ที่อัตราร้อยละ 25 โดยระบุไว้ในข้อกำหนดการจ้างงานของอุตสาหกรรมการทำงานด้านต่างๆ แต่รายงานฉบับดังกล่าวของสภาสหภาพแรงงานแห่งออสเตรเลีย หรือเอซีทียู ระบุว่าลูกจ้างแคชวลจำนวนมากกลับไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นพิเศษนี้
เอซีทียู ใช้ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยนายโจชัว ฮีลีย์ นักวิจัยอาวุโสของศูนย์เวิร์กเพลส ลีดเดอร์ชิพ (Centre for Workplace Leadership) มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
ในปี 2016 เขาเปรียบเทียบค่ามัธยฐานของค่าจ้างรายชั่วโมงของลูกจ้างที่มีรายได้ระดับปกติทั่วไปและชั่วโมงการทำงานของผู้คนใน 10 สาขาอาชีพ ซึ่งเป็นสาขาที่มีอัตราการจ้างลูกจ้างแคชวลสูง และมีลูกจ้างแคชวลเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของลูกจ้างทั้งหมดในสาขาอาชีพดังกล่าว
ในสาขาอาชีพเหล่านี้ส่วนใหญ่ มีอัตราการได้รับค่าจ้างเพิ่มพิเศษสำหรับลูกจ้างแคชวลเพียงร้อยละ 4-5 เท่านั้นขณะที่สาขาอาชีพครูตามโรงเรียนมีอัตราการจ่ายค่าจ้างเพิ่มพิเศษสำหรับลูกจ้างแคชวลโดยเฉลี่ยร้อยละ 22 ในสาขาอาชีพอื่นที่เหลือ 9 สาขานั้น มี 6 สาขาอาชีพที่มีอัตราค่าจ้างเพิ่มพิเศษให้ลูกจ้างแคชวลร้อยละ 2-5 ส่วนอีก 3 สาขาอาชีพได้รับเงินส่วนนี้ร้อยละ 3-6 มากกว่าลูกจ้างประจำ
พนักงานทำความสะอาด เป็นสาขาอาชีพหนึ่งที่ลูกจ้างแคชวลได้รับค่าจ้างเพิ่มพิเศษสำหรับการเป็นลูกจ้างแคชวลร้อยละ 5 หรือน้อยกว่า Source: Pixabay Source: Pixabay
งานที่มีอัตราการจ่ายค่าจ้างเพิ่มพิเศษสำหรับลูกจ้างแคชวลร้อยละ 5 หรือน้อยกว่านั้น ได้แก่งานกรรมกร พนักงานทำความสะอาด พนักงานซักรีด พนักงานขายของ ผู้ดูแลส่วนบุคคล (personal carers) และพนักงานอุตสาหกรรมการให้บริการต้อนรับ
ลูกจ้างแคชวลที่ได้รับค่าจ้างน้อยกว่าลูกจ้างประจำ ได้แก่เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานศูนย์ฟิตเนส พนักงานจัดบรรจุสินค้า (packers) พนักงานประกอบชิ้นส่วนสินค้า
นางแซลลี แมคมานัส เลขาธิการ เอซีทียู กล่าวว่า ขณะที่มีคนจำนวนหนึ่งเลือกทำงานแคชวล เนื่องจากต้องการความยืดหยุ่นด้านเวลา แต่คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการมีสิทธิลางานและต้องการความมั่นคงจากการทำงานประจำ
“ผู้ที่ทำงานแคชวลที่เป็นงานลักษณะแคชวลอย่างแท้จริง ควรได้รับค่าจ้างเพิ่มพิเศษที่แท้จริงด้วยสำหรับการขาดสิทธิลางานและขาดความมั่นคงในการมีงานทำ นางแมคมานัส” ระบุเมื่อวันจันทร์ (19 พฤศจิกายน)
“ธุรกิจขนาดใหญ่กำลังบ่อนทำลายระบบ โดยใช้ช่องโหว่และใช้การจัดการที่ลูกจ้างเสียเปรียบมาทำให้ลูกจ้างแคชวลบางคนได้รับเงินค่าจ้างน้อยกว่าลูกจ้างประจำที่ทำงานในหน้าที่เดียวกันเสียอีก”
รายงานดังกล่าวของเอซีทียู ระบุว่าออสเตรเลียมีจำนวนสัดส่วนแรงงานชั่วคราวสูงที่สุดในหมู่ประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี)
อัตราโดยรวมของจำนวนลูกจ้างแคชวลได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.8 ในปี 1984 มาถึงระดับสูงสุดคือร้อยละ 27.7 ในปี 2004
จำนวนลูกจ้างแคชวลลดลงไปถึงระดับร้อยละ 23.5 ในปี 2012 ก่อนจะเพิ่มมาอยู่ที่ระดับปัจจุบัน ร้อยละ 25.1
เอสบีเอส ไทย: หากคุณถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบและต้องการขอความช่วยเหลือ ติดต่อแฟร์เวิร์ก
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ลูกจ้างแคชวลเฮมีสิทธิขอตำแหน่งประจำได้แล้ว
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
หารายได้เสริมง่ายๆ จากการรับนักเรียนต่างชาติ